แม่ร้อง ลูกสาว ม.2 ถูกครูทำโทษลุก-นั่ง 150 ครั้ง จนกล้ามเนื้อขาสลายอ่อนแรง ยืน-เดินนานไม่ได้ หวั่นพิการ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 6 ต.ค.66 ขณะผู้สื่อข่าวเดินทางไปร้านอาหารแห่งหนึ่ง ได้เห็นภาพ 2 แม่ลูกเป็นหญิงวัยกลางคน ช่วยประคองลูกสาวอย่างใกล้ชิด จึงเข้าไปสอบถามแต่ก็ต้องตกใจ เมื่อทราบว่าที่ต้องประคองลูกสาว ตลอดเพราะลูกสาว มีอาการขาอ่อน เดินไปนิดหน่อยก็จะล้ม สาเหตุมาจากครูประจำชั้นทำโทษ โดยการลุกนั่ง 150 ครั้ง จนทำให้ต้องเข้าโรงพยาบาลนานเกือบครึ่งเดือน อาการไม่หาย จนต้องหยุดเรียน และครูขอปิดข่าว เกรงจะเสียชื่อโรงเรียน


ซึ่งผู้เป็นแม่ชื่อ นางเอ (นามสมมุติ) อายุ 52 ปี ชาวบ้านเหล่า ม.7 ต.บ้านเหล่า อ.สูงเม่น จ.แพร่ พร้อมด้วย ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.2 ร.ร.มัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งของ อ.สูงเม่น ได้เล่าเหตุการณ์ว่า

เมื่อวันที่ 24 สิงหา 66 วันนั้นตนเองไปโรงเรียนสาย เกินเวลา 07.30 น. จึงทำให้ไปทำเวรไม่ทัน ทำให้ครูประจำชั้นและเป็นครูรายวิชาสั่งทำโทษ ตนเองพร้อมเพื่อนนักเรียนอีก 6 คน โดยการลุกนั่ง 150 ครั้ง ส่วนเพื่อน ๆ ใช้การนับข้ามจนครบ แต่ตนเองทำได้แต่ 120 กว่าครั้ง จึงหยุดทำเพราะไม่ไหว จากนั้นเกิดการเจ็บเข่า


จากนั้นไปเรียนตามปกติก็ยังไปทั้งที่ยังเจ็บเข่า แต่ทำกิจกรรมอะไรไม่ได้ ได้แค่กินยาแก้ปวด เพราะคิดว่ามันจะหายไปเอง แต่ก็ไม่หาย จนกระทั่งเจ็บไม่หายจึงเข้าไปรักษาตัว ร.พ.สูงเม่น ตั้งแต่ 28 ส.ค.- 11 ก.ย รวม 15 วัน จนทำให้ไม่ได้ไปเรียน เมื่อออกมาอาการก็ไม่ดีขึ้น ยังต้องไปรักษาโดยการกายภาพบำบัด ซึ่งระหว่างที่รักษาตัว ก็ทำให้ไม่ได้เรียน ไม่ได้ส่งงาน จนกระทั่งไปสอบ ต้องสอบเป็นกรณีพิเศษ แยกห้องสอบ แถมตอนนี้ ทางครูบางวิชา ต้องให้ติด ร. ไปก่อน ค่อยเมาแก้ทีหลัง


ทางด้าน นางเอ ผู้เป็นแม่ เผยว่าหลังที่น้องถูกทำโทษ ร่างกายน้องก็ไม่ดีขึ้น ยืนนานๆ ไม่ได้ จะล้ม เดินก็จะล้ม โดยแพทย์โรงพยาบาลสูงเม่น บอกว่า อาการนี้เกิดจากการใช้กล้ามเนื้อซ้ำกันหลายๆ ครั้ง จนทำให้กล้ามเนื้อสลาย ไม่สามารถระบุว่า จะหายเมื่อไหร และให้รักษาโดยการกายภาพบำบัดไปตลอด ปัจจุบันยืนได้แค่ 5 นาที ก็จะล้มมารดาต้องช่วยกันประคอง ไม่ได้ออกไปทำงานเกษตรและออกรับจ้าง ตนเองอยากให้ลูกได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทางหรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จนกว่าจะหาย


จึงอยากร้องขอความเป็นธรรม เห็นอาการลูกแม่หัวใจสลาย ลูกเป็นเด็กเรียนดี ผลการเรียนได้เกรดเฉลี่ย 3.93 เป็นที่ 1 ของห้อง และตอนนี้ยังต้องรักษาตัวอยู่ต่อเนื่อง ที่รพ.สูงเม่น ทางโรงเรียนก็ขอให้ปิดข่าว ห่วงชื่อเสียงโรงเรียนจะเสียหาย แต่ตนเองกลัวลูกพิการ เดินไม่เหมือนเดิม เกรงจะมีผลกระทบทางจิตใจกับน้อง เพราะอยากเรียนตามปกติ และเรื่องแบบนี้ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับลูกคนอื่นอีก จึงอยากให้มีการรับผิดชอบ และมีการรักษาแบบเฉพาะทาง ให้น้องหายเป็นปกติ กลับมาเรียนได้ตามปกติ


ตนเองมีลูก 2 คน คนโต คือ น้องบี และมีน้องชายอีกคนอายุ 12 ปี เป็นคนป่วยหรือพิการทางสติปัญญา ดาวน์ซินโดรม น้องบี จึงเป็นความหวังของครอบครัว แต่ต้องมาเจอเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นแบบนี้ จึงอยากให้ช่วยเหลือด้วย

รับชมทางยูทูบที่ :  https://youtu.be/51-IKFLSHr4