สังคม

ชาวสวนมังคุดพรหมคีรี สุดทน! ถูกทุบราคาผลผลิตซ้ำซาก ดิ่งต่ำสุด กก.ละ 5 บาท เทมังคุดกว่า 2 ตัน ประท้วงหน้าอำเภอ

โดย petchpawee_k

2 ก.ย. 2566

391 views

เมื่อเวลา 15.45 น.วานนี้ (วันที่ 1 ก.ย.)  บริเวณหน้าป้ายที่ว่าการอำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช ริมถนนสายนครศรีธรรมราช-นบพิตำ เกษตรกรชาวสวนมังคุดหลายรายได้บรรทุกมังคุดจำนวนมากทะยอยมาเททิ้งบริเวณริมถนนหน้าป้ายที่ว่าการอำเภอ นอกจากนั้นยังมีการถือป้ายประท้วงรวมทั้งบอกกล่าวถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนมังคุดที่ถูกทุบราคาอย่างหนักจากกิโลกรัมละ 70-80 บาท วันนี้ร่วงต่ำสุดที่ 80 บาท หรือบางจุดรับซื้อแค่ 5 บาทเท่านั้น


ชาวสวนมังคุดที่ทราบข่าวการรวมตัวของเกษตรกรนำผลผลิตมาเทกองหน้าป้ายที่ว่าการอำเภอ ได้ช่วยกันขนมังคุดของตัวเองทยอยมาร่วมกิจกรรมเททิ้งจนปริมาณมังคุดเต็มผิวการจราจร 1 ช่องทาง ผู้ที่ร่วมกิจกรรมพยายามไม่ให้เกิดความเดือดร้อนกับผู้สัญจร ปริมาณที่ถูกเททิ้งไว้มากกว่า 2 ตันและยังมีการขนมาร่วมกิจกรรมเรื่อยๆแม้ว่าฝนจะตกลงมาอย่างต่อเนื่อง


นายเจตน์ สายบัว ชาวสวนมังคุดหมู่ 7 ตำบลบ้านเกาะ ระบุว่าหลังจากเก็บเกี่ยววันนี้พบราคาเหลือแค่ 8 บาท แต่ราคาแรงงานเก็บที่ 10 บาท ถามว่าเกษตรกรมีรายได้อะไร ปัญหาที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเกิดจากล้งร่วมกับทุบราคา กดราคาเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง รถคอนเทนเนอร์ส่งออกไปแทบไม่ขาดสายแต่ราคาดิ่งเหว



 “นอกจากนั้นยังมีมังคุดจานอกพื้นที่เข้ามาทำลายมังคุดในพื้นที่อีก บางล้งนำเข้ามาสวมเป็นมังคุดพรหมคีรี แต่คุณภาพไม่เหมือนกันทำให้มังคุดพรหมคีรีถูกทุบราคาไปด้วย พาณิชย์จังหวัดเจ้าหน้าที่ไม่เห็นหน้าไม่รู้จะทำยังไง รัฐบาลไม่มีแนวทางจะทำอะไรกับความเดือดร้อน มัวแต่วุ่นอยู่กับการแบ่งตำแหน่ง”



จนถึงเวลา 16.30 น.มีรายงานว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาคุยกับเกษตรกร มีเพียงตำรวจสายตรวจที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกการจราจรเพียง 1 นาย ส่วนเกษตรกรยืนยันว่าการนำมังคุดสิ่งที่เป็นสิ่งมีค่าของเกษตรกรมาเททิ้งประจานหน้าป้ายเพื่อแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่มีค่าของเกษตรกรไม่ได้มีค่ากับภาคราชการที่มีหน้าที่ต้องดูแล


ต่อมา  คุณประไพ เพชรพงศ์พันธุ์พาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ออกมา รายงานสถานการณ์ราคาผลผลิตมังคุดว่าตอนนี้ ปริมาณผลผลิตมังคุด ออกสู่ตลาดในขณะนี้ โดยปริมาณผลผลิตตลอดฤดูกาลมีจำนวน 43,533 ตัน ออกสู่ตลาดแล้วจำนวน 30,500 ตัน (ร้อยละ 70) ที่เหลือยังคงทยอยออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องโดยปริมาณผลผลิตมากที่สุดอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 21-31 สิงหาคม 2566 มีปริมาณ 6,500 กว่าตัน


โดยมีมาตรการที่กรมการค้าภายในร่วมกับจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องได้แก่


2.1 กรมการค้าภายในได้รวบรวมมังคุดจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ไปเปิดจุดจำหน่ายในกรุงเทพมหานคร ผ่านรถโมบายพาณิชย์ จำนวนทั้งหมด 100 จุด และต่างจังหวัดอีก 120 จุด รวม 220 จุด ปริมาณ 1,100 ตัน


2.2 กรมการค้าภายในได้เพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรในการจำหน่ายมังคุดผ่านช่องทางออนไลน์ โดยได้มอบกล่องใส่ผลไม้ให้กับเกษตรกร โดยปีนี้จัดส่งให้จังหวัดนครศรีธรรมราชจำนวน 35,000 กล่อง โดยสำนักงานฯ ได้จัดสรรให้กลุ่มเกษตรกรและเกษตรกรขายออนไลน์แล้ว


2.3 สำหรับผลผลิตมังคุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีปริมาณทั้งสิ้น 43,533 ตัน ซึ่งมังคุดรุ่นที่ 1 ออกหมดไปแล้ว ตอนนี้เหลือรุ่นที่ 2 อีกประมาณ 20,000 ตันเศษ ซึ่งจากมาตรการที่กรมการค้าภายในเข้าไปดูดซับผลผลิต 12,950 ตัน จะช่วยเร่งระบายผลผลิตให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่องต่อไป


3. กรณีที่มีกระแสข่าวว่าเกษตรกรชาวสวนมังคุดอำเภอพรหมคีรีบรรทุกมังคุดมาเททิ้งหน้าอำเภอพรหมคีรีเนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากราคามังคุดตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 5 บาท จากการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรากฏว่า กลุ่มผู้เรียกร้องไม่ได้ยื่นข้อเรียกร้องเป็นหนังสือให้แก่หน่วยงานใด ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ เมื่อราคามังคุดตกต่ำและทราบข้อเท็จจริงว่ากลุ่มผู้ชุมนมไม่ได้เป็นเกษตรกรชาวสวนมังคุด


ทั้งนี้ มังคุดที่นำมาเทเป็นมังคุดขนาดเล็ก ไม่ได้คุณภาพ บางส่วนไม่สามารถบริโภคได้ และจากการที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราชได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ราคารับซื้อมังคุดของกลุ่มประมูลและจุดรับซื้อทั่วไป ณ วันที่ 1 กันยายน 2566



-เกรดมันใหญ่ ราคา 33 - 37 บาท/กิโลกรัม

- เกรดมันเล็ก ราคา 23 - 27 บาท/กก.

- เกรดผิวกาก/ผิวลาย ราคา 20 บาท/กก.

- และเกรดตกไซต์/ผิวดำ ราคา 15 - 17 บาท/กก.

และราคาซื้อขาย ณ จุดรับซื้อทั่วไป

เกรดมันรวม ราคา 25-30 บาท

เกรดคละ 13-20 บาท

เกรดดำ/ดอก 7-10 บาท


ทั้งนี้ ราคาขึ้นอยู่กับคุณภาพผลผลิต ซึ่งการส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มกันให้เข้มแข็งเพื่อทำมังคุดคุณภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และนำผลผลิตมารวมเพื่อใช้ระบบประมูลจะทำให้มีการแข่งขันด้านราคาและเพิ่มอำนาจการต่อรองทำให้สามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้น ประกอบกับผลผลิตมังคุดจังหวัดนครศรีธรรมราชอยู่ในช่วงปลายฤดู ส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กและมีผลกระทบจากฝนตกในพื้นที่จึงมีเนื้อแก้วและยางไหลร่วมด้วย ส่งผลให้คุณภาพและราคาลดลง



4. สำนักงานพาณิชย์จังหวัดร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ อำเภอ และชั่งตวงวัด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดจะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป 



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/bcXKECVRFLY

คุณอาจสนใจ

Related News