สังคม

จุกอก...ลูกเผยคำพูดแม่ “แม่จะเป็นคนพิการแล้วนะ” หลังถูกดูดขา – วสท.ลุยตรวจทางเลื่อน เผยข้อสันนิษฐาน

โดย thichaphat_d

1 ก.ค. 2566

288 views

วานนี้ (30 มิ.ย.) ทีมข่าวได้คุยกับนายกฤตย์ กิตติรัตนา  อายุ 34 ปี ลูกชายของหญิงวัย 57 ปี ที่ประสบอุบัติเหตุในสนามบินดอนเมืองบริเวณทางเลื่อนในอาคารผู้โดยสารจนได้รับบาดเจ็บขาซ้ายขาด เพื่อสอบถามอาการล่าสุด เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนได้เห็นภาพคุณแม่ตอนนำลงจากรถฉุกเฉิน ภายหลังเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลแล้ว เป็นภาพที่หดหู่ ตนพยายามถามคุณแม่เกิดอะไรขึ้น คุณแม่บอกย้ำ ๆ ว่าเดินปกติไม่ได้เล่นโทรศัพท์มือถือ คล้ายเหมือนคนจะเสียสติ สับสน กระวนกระวาย จากนั้นตนและครอบครัวจึงไม่สอบถามถึงเหตุการณ์กับคุณแม่อีกเพราะเป็นห่วงสภาพจิตใจ

“ผมเองในฐานะคนเป็นลูก ตอนพบคุณแม่ครั้งแรก ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หลังเกิดเหตุการณ์ ภาพที่เห็นคือเจ้าหน้าที่ถือกล่องโฟมที่ใส่ขาคุณแม่ลงมาจากรถฉุกเฉิน แยกออกมาจากตัวคุณแม่ที่นอนอยู่บนเปลรถเข็น ผมเห็นแล้วใจไม่ดี เป็นภาพที่ผมเห็นแล้วรู้สึกช็อก ร้องไห้ไม่ออก”

ภายหลังที่นำคุณแม่ส่งถึงโรงพยาบาล ตนจึงได้พูดคุยกับหมอถึงแนวทางการรักษา ซึ่งหมอโรงพยาบาลภูมิพลและโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ให้คำแนะนำดีมาก ซึ่งหมอทั้งสองโรงพยาบาลวินิจฉัยเบื้องต้นแจ้งว่า โอกาสต่อขาคุณแม่ค่อนข้างน้อย ตนจึงคุยกับคุณแม่ตัดสินใจไม่ต่อขา และผ่าตัดเพื่อปิดบาดแผล

“นับถือคุณแม่เข้มแข็งมาก แม้มีขาที่ใช้งานไม่ได้ เทียบกับอวัยวะเทียม ก็ขอใช้อวัยวะเทียมดีกว่า ซึ่งตอนคุณแม่รอผ่าตัด คุณแม่เห็นภาพในสื่อออนไลน์ บางภาพค่อนข้างสะเทือนใจ ไม่ได้ปิดบังหน้า พอคุณแม่เห็นก็ร้องไห้ออกมา ไม่คิดว่าจะต้องมาเจออะไรแบบนี้”

ลูกชายของผู้บาดเจ็บ เล่าต่อทั้งน้ำตาว่า ก่อนที่คุณแม่จะเข้าห้องผ่าตัดได้พูดประโยคหนึ่งว่า “แม่จะเป็นคนพิการแล้วนะ” พอลูกชายเล่าให้นักข่าวฟังถึงจังหวะนี้ ก็หยุดพูดนั่งนิ่งและร้องไห้ออกมา /ลูกชายบอกว่าตอนที่คุณแม่พูดจะเป็นคนพิการนั้น ตนและคนในครอบครัวก็พยายามเข้มแข็งไว้ คุณพ่อก็ให้กำลังใจว่ามันไม่มีอะไรต้องกังวล

อีกประโยคหนึ่งที่คุณแม่พูดออกมาแล้วทุกคนจะตกใจมาก “แม่ไม่อยากเป็นภาระของคนอื่น” ตัวในฐานะลูกมองว่าคุณแม่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำงานมาโดยตลอด เป็นนักลงทุน เป็นนักธุรกิจ หลังจากนี้ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง” ตนจึงบอกคุณแม่อย่าไปคิดถึงเรื่องนั้น กู้วิกฤติเอาชีวิตของคุณแม่ไว้ก่อนเพราะเสียเลือดค่อนข้างเยอะ

ตอนนี้คุณแม่ยังรักษาอาการอยู่ในห้องไอซีอยู่ ตนได้เข้าไปเยี่ยมก็ให้กำลังใจคุณแม่ ถามว่าเจ็บไหม กินอะไรหรือยังยอมรับว่าตอนนี้ทางครอบครัวไม่พร้อมอยู่ความเป็นจริง เหตุที่เกิดขึ้นมันเร็วและช็อก /หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สนามบินดอนเมืองก็ประสานงานมาอย่างต่อเนื่อง ยินดีเยียวยารับผิดชอบดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ 100% แม้ทางสนามบินฯจะยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุที่เกิดขึ้นเกิดจากอะไร

นายกฤตย์ ลูกชายผู้บาดเจ็บ ระบุอีกว่า อยากให้ทางสนามบินตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุ ตอนนี้ครอบครัวยังไม่เห็นภาพเหตุการณ์ในกล้องวงจรปิด ทั้งนี้เหตุที่เกิดขึ้นคุณแม่ไม่ได้ใส่รองเท้าส้นสูง และไม่ได้ใส่รองเท้ายาง ระหว่างอยู่บนทางเลื่อนก็ไม่ได้เล่นมือถือ ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสงสัยในโซเชียล

“เชื่อว่าคุณแม่ระมัดระวังแล้ว แต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์ขึ้น ส่วนตัวมองว่าไม่ควรเกิดแม้จะเป็นเหตุสุดวิสัย หรือความบกพร่องก็ไม่ควรเกิด เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก ขอให้เคสคุณแม่เป็นเคสสุดท้าย”

-----------------------------------------

วสท. เผย หลังตรวจอุบัติเหตุทางเลื่อนสนามบินดอนเมือง พบ บางชิ้นส่วนของหวีแตกหักเป็นรูปโค้งวงกลม ขัดกันระหว่างวัสดุสองชนิด ตอนเกิดเหตุ สันนิษฐานล้อกระเป๋าขัด ทำง้างทางเลื่อเปิด แต่ยังชัดใช่หรือไม่ - พบเคสนี้เซนเซอร์ใช้เวลา 20 วินาทีถึงหยุดระบบ

นายบุญพงษ์ กิจวัฒนาชัย ประธานสาขาวิศวกรรมเครื่องกล พร้อมด้วยทีมสภาวิศกรของ วสท. ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบทางเลื่อนที่เกิดอุบัติเหตุ

ก่อนที่ในเวลา 14.30 น. วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชปถัมภ์ ร่วมกับ สภาวิศวกร นำโดยนายบุญพงษ์ กิจวัฒนาชัย ที่ปรึกษาคณะกรรมการสาขาวิศวกรรมเครื่องกล วสท. และนางสาวบุษกร แสนสุข เลขาธิการ วสท. ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวภายหลังลงพื้นที่ตรวจสอบ

โดยนายบุญพงษ์ ระบุว่า สำหรับการสำรวจเบื้องต้นในสถานที่เกิดเหตุหลังจากเกิดอุบัติเหตุ สิ่งแรกที่เห็น พบว่า อุปกรณ์รางเลื่อนได้ประกอบกลับสู่ที่เดิม อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานแล้ว โดยผลตรวจประเมินความปลอดภัยของอุปกรณ์ถือว่าผ่านมาตรฐานที่เป็นสากล เชื่อถือได้

ทั้งนี้ จากการประเมิน พบว่ามีการแตกหักของแผ่นหวี และมีบางชิ้นส่วนของหวี แตกหักลักษณะคล้ายเป็นรูปโค้งของวงกลม ซึ่งลักษณะการแตกมีหลายแบบ เช่น หักครึ่ง // หักตามแนวยาว // ซึ่งการแตกจะสามารถบ่งบอกได้ว่าเกิดจากวัสดุอะไรมากระทบกัน ซึ่งอาจจะเกิดจากการขัดกันระหว่างวัสดุสองชนิดในช่วงที่เกิดเหตุนั้น โดยพบว่าแผ่นพื้นทางเลื่อนที่หลุดยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ และหล่นอยู่ท้องของกล่องทางเลื่อนอัตโนมัติเป็นระยะประมาณ 10 เมตรจากจุดเกิดเหตุ ลักษณะแผ่นพื้นหลุดดังกล่าว บ่งชี้ว่าน็อตที่ล็อกแผ่นพื้นกับรางเลื่อนขาด

เมื่อถามว่าแล้วบางชิ้นส่วนของหวี แตกหักลักษณะเป็นรูปโค้งของวงกลม มาจากวัสดุอะไร นายบุญพงษ์ ระบุว่า ในส่วนโค้งของวงกลมตนไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร แต่คาดว่ามีวัสดุที่มีขนาดเล็กกว่า 4 มิลลิเมตร หลุดเข้าไปด้านในจนทำให้ขัดกับระบบทำให้ระบบทำงานผิดปกติ จึงทำให้แผ่นทางเลื่อนหยุดทำงาน จนทำให้แผ่นทางเลื่อนเอียง จนให้เกิดช่องว่าง พอดีจนทำให้ร่วงลงไปได้ ซึ่งทางเลื่อนจะงานต่อจนกว่า เซนเซอร์จะจับว่ามีสิ่งผิดปกติจึงหยุดระบบ ใช้เวลา 20 วินาทีจึงจะหยุด

นายบุญพงษ์ ยังระบุว่า จากข้อมูลของการบำรุงรักษา ซึ่งผู้ทำการตรวจความปลอดภัย (QA) ของระบบบันไดเลื่อนทั้งหมด รวมถึงทางเลื่อนอัตโนมัติได้รับรองความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ไว้แล้ว นอกจากนี้ในการใช้งาน เจ้าหน้าที่ดูแลรักษาจะต้องตรวจสอบการทำงานของระบบก่อนการเปีดใช้งานทุกวัน จึงไม่เป็นเหตุให้ระบบบันไดเลื่อนและทางเลื่อนอัตโนมัติมีการทำงานที่ผิดปกติ

ดังนั้น การเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว จึงสันนิษฐานเป็นลำดับได้ว่าอาจเกิดจากการที่มีวัสดุตกหล่นไปขัดอยู่บริเวณปลายหวี และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ล้อกระเป๋าเดินทางไปติดอยู่ที่ปลายหวีนั้นด้วย เมื่อล้อของกระเป๋าเดินทางไม่สามารถเคลื่อนตัวต่อไปได้ จึงเกิดการขัดตัวจนกระทั่งปลายหวีแตกหักและหลุดเข้าไปในระบบทางเลื่อนอัตโนมัติ เป็นเหตุให้ไปงางแผ่นพื้นทางเลื่อน เกิดการกระดกจนน็อตที่ล็อกแผ่นพื้นกับรางเลื่อนขาด ทำให้มีช่องว่างกว้างเพียงพอที่จะทำให้ขาของผู้บาดเจ็บที่กำลังก้าว หล่นลงไปในช่องว่าง ในขณะที่ทางเลื่อนยังทำงานตามปกติ จึงทำให้เกิดการบาดเจ็บดังที่ปรากฎตามข่าว

อย่างไรก็ตาม มีความจำเป็นจะต้องทำการแสวงหาข้อเท็จจริงโดยละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก และเพื่อหามาตรการป้องกันเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้งานต่อไป

เมื่อถามว่าจะมีวัสดุใดที่สามารถทำให้หวีและเหล็กเปิดได้ นายบุญพงษ์ กล่าวว่า ต้องเป็นวัสดุที่แข็งแรงมากที่จะสามารถง้าง และสามารถเปิดได้ แต่ชิ้นส่วนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นล้อของกระเป๋าเดินทางหรือไม่ บางชิ้นส่วนที่เราตรวจพบนั้น หากเป็นล้อหรือพลาสติก ต้องละเอียดอ่อนมากถึงจะเข้าไปอยู่ในจุดสำคัญของทางเลื่อนได้ ประเด็นนี้อยู่ในข้อสันนิษฐาน ต้องตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อไป

นายบุญพงษ์ ยังกล่าวถึงการขึ้นทางเลื่อน หากเราอยู่ในจุดที่เลื่อนขั้นสุดท้าย ก่อนจะก้าวออกมาจากทางเลื่อนไปยื่นที่แผ่นพื้น ซึ่งจะมีส่วนซี่หรือหวี  ที่เป็นแผ่นบางๆสีเหลือง ขนาด 10 ซม. เป็นชิ้นต่อกัน การออกแบบชิ้นนี้เป็นการบ่งบอกว่าสิ้นสุดทางเลื่อนแล้ว ให้ระวัง // หากมายืนบริเวณนี้แล้วมีกระเป๋าเดินทาง และไม่ได้ยกกระเป๋า จะส่งผลให้กระเป๋าเดินทางของเรากระทบกับหวีก่อนเลย ซึ่ง ปกติจะสามารถทนได้ถ้าหากน้ำหนักไม่มากเกินไปก็จะสามารถลากผ่านไปได้เลย แต่ตามหลักควรยกข้าม และตามหลักแล้วกระเป๋าควรอยู่ข้างตัวและด้านหลัง ไม่ควรอยู่ด้านหน้า จะส่งผลให้การสังเกตลดน้อยลงไป ซึ่งนี่เป็นคำแนะนำ แม้จะไม่มีข้อห้ามก็ตาม

ขณะเดียวกันนายบุญพงษ์ ยังได้อธิบายหลักการทำงานและความแตกต่างของทางเลื่อนอัตโนมัติและบันไดเลื่อน ซึ่งการทำงานและอุปกรณ์ของทั้งสองอุปกรณ์นี้คล้ายกัน มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนสองเรื่อง คือ มุมที่วัดจากแนวระนาบสำหรับทางเลื่อนอัตโนมัติจะไม่เกิน 11 องศา เพื่อให้แผ่นพื้นเรียบ หากมุมจากแนวระนาบเกินกว่านี้ จะต้องทำแผ่นพื้นให้เป็นชั้นบันไดเลื่อน และข้อแตกต่างของการรับน้ำหนัก ซึ่งทางเลื่อนอัตโนมัติ 1 แผ่นพื้นสามารถรับน้ำหนักได้ 160 กิโลกรัม ขณะที่บันไดเลื่อนจะออกแบบให้รับน้ำหนักที่ 75 กิโลกรัมต่อคน น้ำหนักที่ใช้ในการออกแบบดังกล่าวมีความสำคัญในการออกแบบอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยของทั้งระบบบันไดเลื่อน และทางเลื่อนอัตโนมัติ นอกจากนี้อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่ตามมาตรฐานสากล EN1 15



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/GPJo0P7uZ0Y

คุณอาจสนใจ

Related News