สังคม

รวบแล้ว! พระสงฆ์-แม่ชี ไร้ใบสุทธิ ยึดทางเท้าหน้าสถานทูตรัสเซีย อ้างสร้างสันติภาพโลก ทำชาวบ้านเดือดร้อนนานนับปี

โดย petchpawee_k

18 มี.ค. 2566

198 views

ตร.รวบ ชายแต่งกายคล้ายสงฆ์และแม่ชี อาศัยฟุตบาธ หน้าสถานทูตรัสเชีย อ้างเพื่อสร้างสันติภาพโลก และสื่อสารกับผู้นำรัสเซียได้ ขณะที่ชาวบ้าน ร้องสื่อ สุดทนเพราะ เดินบนฟุตบาทไม่ได้ต้องลงมาเดินทางเท้าเสี่ยงอันตราย เป็นเวลากว่าหนึ่งปีไม่มีหน่วยงานใดจัดการได้ ด้านตำรวจ สน.บางรักพร้อมสำนักงานเขตบางรัก เข้าดำเนินการควบคุมตัวพร้อมหมายจับและรื้อพื้นที่ ทำความสะอาดคืนทางเท้าให้ประชาชน


ป็นเรื่องที่น่าแปลกอีกเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร พื้นที่ย่านสีลม หลังจากกรณีที่มีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์สุดทน พระสงฆ์และแม่ชีตั้งซุ้มริมฟุตปาธ ตรงข้ามสถานทูตรัสเซีย ขวางทางเดินทำชาวบ้านเดือนร้อน ต้องลงมาเดินริมถนน วอนขอฟุตปาธคืนเถอะ ถ้าโดนรถชนใครรับผิดชอบ


ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ลงพื้นที่พบว่าบริเวณฟุตบาทตรงข้ามกับสถานทูตรัสเซียมีการนำป้าย ข้อความเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพโลกและผู้นำประเทศรัสเซีย สงครามโลก การต่อสู้กับสงครามโลก


โดยภายในเป็นปลูกสร้างคล้ายที่พักอาศัยแบ่งเป็นโซนของพระสงฆ์และแม่ชี มีที่นอน และกลด คล้ายกับพระธุดงค์ แป้งเย็น และของใช้ส่วนตัว ส่วนตรงกลางก็มี ธูปเทียนและภาพพระสงฆ์ เป็นเหมือน จุดที่ทำพิธีและยังมีพระประธานองค์ใหญ่วางอยู่ด้านข้างหากไม่สังเกตจะคิดว่า นี่คือวัดหรือสำนักสงฆ์ แต่ไม่ใช่จุดนี้ คือ บริเวณฝั่งตรงข้าม สถานเอกอัครราชทูตรัสเซีย ถนนทรัพย์ เขตบางรัก กทม.


ทีมข่าวเข้าไปภายในที่พักดังกล่าวพบกับพระและแม่ชีอยู่ภายใน โดย พระมหาวิชาญ ธัมมธีโป (ภูวิหาร) ประธานศูนย์กลางสร้างสันติภาพโลก กล่าวว่า ที่ต้องมาอาศัยอยู่บริเวณนี้เนื่องจาก พื้นที่ตรงนี้เป็น “วัดสร้างสันติภาพโลกถาวร” เพื่อมวลมนุษยชาติ ตามกฎหมายสูงสุด อยากให้ยุติสงคราม รัสเซีย–ยูเครน ถึงเวลาที่พระต้องออกมาทำหน้าที่


และที่เลือกบริเวณ หน้าสถานทูตรัสเซีย ก็เพราะอยากให้ผู้นำรัสเซีย และ “ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย” มองผ่านทางดาวเทียม มาเห็น ป้ายการสร้างสันติภาพ และในทุกเช้าที่มีการทำวัดใส่บาตรก็มีความเชื่อว่าปูตินได้มาทำบุญใส่บาตรด้วยซึ่งจะทำให้สามารถยุติสงครามโลกได้


เมื่อผู้สื่อข่าวขอดูใบสุทธิ และต้นสังกัดของพระมหาวิชาญ กล่าวว่า ไม่จำเป็นจะต้องมีใบเหล่านี้เพราะตอนนี้อยู่เหนือกฎหมายสูงสุดแล้วไม่ได้จำเป็นจะต้องมีหลักฐานเหล่านี้มาแสดง พร้อมทั้งยังเล่าถึงการสร้างสันติภาพโลกและการปฎิบัติเพื่อช่วยเหลือสังคมและชาวโลกทั้งหมด ซึ่งการที่มาอยู่ตรงจุดนี้เป็นการเสียสละเพื่อให้ชาวโลกทุกคนปลอดภัย


ส่วนคนที่เดินไปมา ก็ต้องเสียสละ เพื่อประโยชน์คนทั้งโลก อย่าเห็นแก่ตัว แค่เดินลงไปที่ถนน ไม่เป็นอันตรายและไม่มีใครเคยได้รับอันตราย ซึ่งตนอาศัยตรงนี้มา 1 ปีแล้ว ไม่เคยมีใครมาไล่ เพราะ ที่นี่คือวัด


 “ที่เลือกมาตั้งซุ้มหน้าสถานทูตรัสเซีย อยากให้ “ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย” มองผ่านทางดาวเทียม มาเห็นจะทำให้ปูตินใจเย็นขึ้น ถ้าหากเกิดสงครามนิวเคลียร์จริง ๆ คนตายกันหมด”

ทางด้านหญิงที่แต่งกายคล้ายแม่ชีก็ระบุว่าอาศัยอยู่จุดนี้มานานไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ใครอยู่ในส่วนของพื้นที่ตรงนี้เพราะมองว่าเป็นพื้นที่สาธารณะก็มีสิทธิ์ที่จะอยู่อาศัยโดยในแต่ละวันจะไปอาบน้ำและขับถ่ายอยู่ที่อื่นและจะกลับมาปฎิบัติธรรม สวดมนต์ทำวัตรเช้าทำวัตรเย็นเหมือนที่วัดตามปกติ ซึ่งเชื่อว่าการสวดมนต์ทำวัดนั้นจะช่วยขัดเกลาจิตใจของชาวโลกและจะช่วยต่อต้านไม่ให้การเกิดสงครามโลกเกิดขึ้นได้


ทั้งนี้ขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจอยู่นั้นก็พบว่าประชาชนใช้เส้นทางดังกล่าวสัญจรไปมาจะต้องลงมาเดินบนผิวถนน ซึ่งเป็นจุดที่ถนนแคบและมีรถสัญจรไปมาจำนวนมาก ช่วงหนึ่งที่มีประชาชนเดินผ่านมาและเห็นทีมข่าวก็เข้าร้องเรียน ขอให้ช่วยเหลือและมีการตำหนิที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์และแม่ชี ว่ามาอยู่จุดนี้ไม่ได้ทำให้ชาวบ้านคนอื่นเดือดร้อนทำขณะนั้นพระสงฆ์และแม่ชีก็ได้มีการตอบโต้กับประชาชนที่ใช้ทางเท้า จนทีมข่าวต้องเข้าไปห้าม

ทางด้านคุณเปิ้ล ซึ่งเป็นผู้พักอาศัยอยู่บริเวณด้านดังกล่าว และต้องทนกับการเดินลงพื้นผิวถนนเมื่อถึงบริเวณจุดนี้มานานนับปี ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปเกือบทุกหน่วยงานตั้งแต่สำนักงานเขตและแอพพลิเคชั่นร้องเรียนรวมไปถึงร้องเรียนผ่านถึงผู้ว่าชัชชาติก็ไม่ได้รับการแก้ไข มีเพียงเอกสารตอบกลับมารับเรื่องร้องเรียนและแจ้งว่าจะต้องเป็นการแก้ไข โดยสำนักพุทธจะเป็นผู้ดูแล เมื่อแจ้งกลับไปอีกครั้ง ก็จะเป็นเอกสารเหมือนเดิมวนกลับมาทำให้ต้องทนใช้ชีวิตแบบนี้มานานนับปี วันนี้ดีใจที่เห็นทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ลงพื้นที่และขอร้องให้ช่วยแก้ไขปัญหาให้จบเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

 ทีมข่าวจึงประสานไปยัง พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผกก.สน.บางรัก ให้เข้าตรวจสอบพื้นที่เนื่องจากพบการกระทำผิดชัดเจนเกี่ยวกับการอาศัยอยู่บนทางเท้า ผู้กำกับจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่พร้อมทั้งนำหมายจับมาแสดงต่อชายที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์ในข้อหา กระทำการตั้งหรือวางวัตถุใดใดบนถนน ในที่สาธารณะ ซึ่งก่อนจะมีหมายจับตร.ก็ออกหมายเรียก ตามจั้นตอน และมาตักเตือนให้ย้าย แต่ก็ไม่ยินยอม


เมื่อนำหมายจับไปแสดงต่อชายที่แต่งกายคล้ายพระสงฆ์นั้นก็ไม่ยินยอมรับฟังการแจ้งหมายจับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและอ้างว่าที่มาอยู่ตรงนี้เพื่อเป็นการสร้างสันติภาพโลก


จากนั้นก็นั่งสมาธิโดยไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวต้องใช้เวลาระยะหนึ่งจากนั้นพบว่าชายรายนี้ก็ไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวเจ้าหน้าที่จึงต้องเปลี่ยนใช้วิธีอุ้มยกชายรายนี้ไปในท่านั่งสมาธิอุ้มไปขึ้นรถตำรวจไปที่สน. บางรักเพื่อดำเนินคดี


โดยจากการตรวจสอบประวัติและใบสุทธิพบว่าในอดีตเคยสึกจากการเป็นพระมาแล้วหนึ่งครั้งและเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการบุกรุกสถานทูตอเมริกามาแล้ว


 ทางด้านหญิงที่แต่งกายคล้ายแม่ชีก็แสดงความไม่พอใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาเก็บภาพถ่าย ป้ายไวนิลรวมไปถึงเอกสารต่างๆที่อยู่ภายในจากนั้นแม่ชีก็ด่าผู้สื่อข่าวว่าทำให้ ศาสนาเสื่อมเสีย ที่มาอยู่ตรงนี้ตั้งใจจะช่วยชาวโลก ระงับสงครามโลกแต่ทีมข่าวช่องสามกลับทำให้เกิดปัญหาและสาปแช่งให้ได้รับผลกรรม


ต่อมา คุณอัญชนา บุญสุยา ผอ.เขตบางรัก พร้อมทีมเจ้าหน้าที่เทศกิจและเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเข้ามาเคลียพื้นที่เก็บกวาดทำความสะอาดบริเวณจุดดังกล่าวและคืนพื้นที่ทางเท้าให้กับประชาชนโดยผอ.สำนักงานเขตบางรัก กล่าวว่า ที่ผ่านมาเข้ามาตักเตือนและขอร้องให้ออกนอกพื้นที่ไปแล้วแต่ก็ไม่ยอมฟังอีกทั้งยังมีเรื่องมวลชนและเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ได้เข้ามาขับไล่ในทันที


 จนวันนี้ได้ทำงานร่วมกับตำรวจและขอบคุณสื่อมวลชนพี่ช่วยนำเสนอข่าวจนสามารถขอคืนพื้นที่สาธารณะให้กับประชาชนได้และขอเตือน ประชาชนรายอื่นว่าพื้นที่สาธารณะนั้นไม่สามารถปลูกสร้างเป็นที่อยู่อาศัยได้จะมีความผิดตามกฏหมายส่วนเรื่องดังกล่าวที่ยืดเยื้อมานานกว่าหนึ่งปีนั้นไม่ใช่เป็นการละเลยของเจ้าหน้าที่แต่พยายามทำทุกทางแล้วซึ่งต้องใช้ความละเอียดและใจเย็นจึงจะดำเนินการได้


ทางด้าน นายศิวพงษ์ อายุ 64 ปี ญาติเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่าที่ผ่านมาเคยขอร้องให้ชายแต่งกายคล้ายส่งพร้อมแม่ชีย้ายออกนอกพื้นที่เพราะติดกับบริเวณรั้วบ้านแต่ทั้งสองคนอ้างว่าอยู่ในพื้นที่สาธารณะหากไม่พอใจก็ให้ทุบกำแพงบ้านของตัวเองออกไป


ที่ผ่านมาพยายามร้องเรียนไปทุกหน่วยงานแต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไขต้องทนทุกข์อยู่แบบนี้มานานนับปีซึ่งพฤติกรรมของชายแต่งกายคล้ายสงฆ์และแม่ชีนั้นในแต่ละวันจะใช้โทรโข่งเริ่มสวดมนต์ตั้งแต่เช้ามืดเสียงดังรบกวนทางบ้านของตนเองและคอนโดชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงและบางครั้งก็นำพระจำนวนมากมาทำพิธีสวดอยู่บนฟุตบาทแห่งนี้จนเป็นที่เอื้อมระอาของชาวบ้าน


เวลาเพื่อนมาเยี่ยมที่บ้าน ก็นึกว่ามีวัดตั้งอยู่ที่หน้าบ้าน เมื่อร้องเรียนไปแล้วไม่เป็นผลตนเองก็จนปัญญาและไม่อยากโต้เถียงจึงปล่อยให้เรื่องราวผ่านมานานกว่าหนึ่งปี


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/vTFvnWNQIxU

คุณอาจสนใจ