สังคม

เข้าหาหลักฐานบ้าน 'ครูเตย' ทำร้ายเด็กออทิสติก ขณะ ตร.สอบเข้ม

โดย weerawit_c

19 ก.พ. 2566

304 views

เมื่อเวลา 15.00 น. วานนี้ (18 ก.พ.) นางรวีพรรณ แก้วเพียงเพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำหมายค้นเพื่อเข้าตรวจสอบบ้านของครูเตย ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง ซึ่งเป็นสถานที่รับเลี้ยงเด็กและถูกแม่ของเด็กเข้าร้องเรียนว่ามีการทำร้ายลูกชายซึ่งเป็นออทิสติก  



แต่ปรากฏว่าครูเตยไม่อยู่ เจ้าหน้าที่ต้องรออยู่นานกว่า 1 ชั่วโมง จนกระทั่งต่อมาครูเตยได้ขับรถเก๋ง Mazda สีดำมาจอดบริเวณหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหมายค้นซึ่งทางครูเตยได้อนุญาตให้เฉพาะเจ้าหน้าที่ แม่และเด็กที่อ้างว่าถูกทำร้าย เข้าไปในบ้านได้ แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปข้างในบ้าน โดยอ้างว่าตนเองรับไม่ได้กับข่าวที่เสนอสื่อออกไป



จากการตรวจค้น ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดเอกสารต่างๆ จำนวนหนึ่งพร้อมทั้งยึดสากกะเบือ จำนวน 3 อัน มีดทำครัวอีก 7 เล่มไว้เป็นของกลางเพื่อนำไปตรวจสอบ ว่าตรงกับที่ผู้เสียหายอ้างว่าถูกทำร้ายด้วยสากกะเบือและมีดหรือไม่ โดยจะทำการตรวจหาร่องรอยจากของกลางที่ยึดได้ เพื่อนำไปตรวจสอบใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีหากพบว่ามีการทำร้ายเกิดขึ้นจริง



ทางด้านครูเตย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มาก็มีถ่ายรูปเก็บทุกอย่างที่เป็นมีดทั้งหมด แล้วก็สาก และก็ใบประกาศเอาไปหมด ตนคาดว่าเขาน่าจะเอาไปตรวจสอบว่าจริงหรือปลอม และจะเดินทางไป สภ.บางบัวทอง  เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ถ้าถามว่ากังวล ตนไม่ได้ทำ ตนไม่กังวล และยังยืนยันว่าตนเองไม่ได้ทำอะไรไม่ได้ก่อเหตุ ถ้าเป็นตน ตนไม่ได้ทำแน่นอน ก็อยากให้สังคมให้โอกาสเราบ้าง ให้เราได้มีจุดยืนบ้าง อย่างน้อยๆ ตนไม่ได้เปิดเป็นศูนย์ เปิดเป็นเหมือนรับเลี้ยงปกติธรรมดา ถ้าตนเปิดเป็นศูนย์ สภาพแบบนี้เปิดศูนย์ไม่ได้หรอก และมันก็เป็นความพึงพอใจของผู้ปกครอง



ครูเตย ยังกล่าวต่ออีกว่า วันนี้เขาให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาว่าทางคู่กรณีเขาแจ้งความว่าข้อหาอะไรบ้างแล้วเราจะต้องทำอะไรยังไงต่อไป โดยไปทั้งหมดเลย 4 คน ก็อยากบอกว่า เลี้ยงเด็กหมือนลูกสุดๆ แล้ว ตนไม่ได้ทำ บางทีก็รู้สึกน้อยใจเหมือนกัน สังคมตราหน้าเราขนาดนี้ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นสามารถพูดคุยสอบถามกันได้ ถ้าเป็นมุมของตน คนที่เป็นแม่ ก็จะมาไฟท์กับครูก่อน ควรจะคุยกันก่อน แต่ก็เข้าใจมุมของแม่เขาเหมือนกันที่ต้องทำแบบนี้



ด้างนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า วานนี้ (18 ก.พ.) ทางตำรวจได้สอบปากคำคุณแม่เพิ่มเติมและเรียกให้น้องไปชี้ที่เกิดเหตุ คงเป็นสิ่งของหรือของใช้ที่ทำร้าย มูลนิธิปวีณาฯ เราห่วงเรื่องความเป็นอยู่ของน้องจากนี้ไป โดยน้องจะกลับไปอยู่บ้านที่ จ.อุบลราชธานี บริเวณที่อยู่ดีมีเลี้ยงไก่ เลี้ยงสัตว์ วิถีชีวิตชนบท ทางมูลนิธิปวีณาฯ จะประสาน พมจ.เพื่อเข้าไปดูแลทางด้านคนพิการเพื่อบำบัดและฟื้นฟูสภาพจิต เขาเคยอยู่ชนบทอิสระ ต้องมาอยู่ที่แคบอาจจะอึดอัด น้องควรกลับคืนสู่บ้านของเขา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปเยี่ยม



ขณะที่ พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า เราเพิ่งได้เข้าไปค้นพยานหลักฐานเป็นครั้งแรกจากที่ผู้เสียหายมาแจ้งเหตุ เราพยายามรวบรวมทุกอย่างเพื่อให้เป็นหลักฐานในคดี ในชั้นต้นเราให้ผู้เสียหายชี้ก่อนว่าจำอาวุธที่ใช้ทำร้ายได้มั้ย ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอน เนื่องจากผู้เสียหายสติปัญญายังไม่สมบูรณ์พอเราต้องหาพยานเพื่อมาประกอบ ในชั้นต้นชี้ไปบางส่วนแล้ว ส่วนจุดที่น้องถูกทำร้ายให้การไว้หมดแล้ว สิ่งสำคัญคืออาวุธที่ใช้ทำร้ายร่างกายมากกว่า ซึ่งรวบรวมมาแล้วเพื่อให้ผู้เสียหายชี้ และส่งให้พิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบ



หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานว่าใครเป็นผู้กระทำความผิด บาดแผลต้องรักษาตัวกี่วันตามกฎหมาย การเปิดสถานที่รับเลี้ยงว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่แจ้งข้อหา อยู่ระหว่างการตรวจสอบ



ศูนย์นี้มีร้องมารายเดียว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบถามจากผู้ปกครองทั้งหมดเท่าที่เจอในบันทึกว่าเขาประสงค์จะมาดำเนินคดีมั้ย มีการทำร้ายร่างกายหรือเปล่า ตอนนี้ซักถามเบื้องต้นกับเจ้าของบ้านก่อน ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/cy2DKK_KQsg

คุณอาจสนใจ

Related News