สังคม

'ส.ต.อ.' เผยสาเหตุยื่นลาออก ให้เหตุผลสิ้นศรัทธาระบบตำรวจ 'ผู้การฯ' ยังไม่อนุมัติ พร้อมรับฟัง-ให้ความเป็นธรรม

โดย passamon_a

19 ก.พ. 2566

424 views

แชร์ว่อน ส.ต.อ. ยื่นหนังสือลาออกถึง ผกก. เผยสูญสิ้นศรัทธาระบบตำรวจ ด้าน ผู้การฯ เผย ยังไม่อนุมัติลาออก พร้อมรับฟังปัญหา และให้ความเป็นธรรม


เมื่อวันที่ 18 ก.พ.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์หนังสือบันทึกข้อความของตำรวจนายหนึ่งยศ ส.ต.อ. ของโรงพักแห่งหนึ่ง ที่ได้ยื่นลาออกถึง ผู้กำกับ โดยหนังสือดังกล่าวระบุข้อความว่า เรื่อง ขอลาออกจากราชการ เรียน ผกก.สภ.แห่งหนึ่ง ข้าพเจ้า ส.ต.อ. (ขอสงวนชื่อนามสกุล) ตำแหน่ง ผบ.หมู่(ป.) สภ.แห่งหนึ่ง ได้เริ่มรับราชการเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ปัจจุบันได้รับเงินเดือน ป.1 ขั้น 20.0 (17,290 บาท)


มีความประสงค์ขอลาออกจากราชการ เพราะหมดหวังสูญสิ้นศรัทธาในระบบข้าราชการตำรวจ ปกป้องผู้กระทำความผิด ผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตไม่ได้รับการเหลียวแล และข้าพเจ้าขอยืนยันว่า ไม่เคยถูกต้องโทษในคดีอาญาหรือถูกตั้งกรรมการคดีทางวินัยแต่อย่างใด ตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.2566 จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา


โดยโพสต์ดังกล่าวมีข้อความระบุว่า "นักเรียนนายสิบทหารบกรุ่น 10/49 นักเรียนนายสิบตำรวจรุ่น 5 รร.77 ไม่ต้องไปถามใครนะจ้ะ ต่อไปไม่มีรุ่นมีแต่คนนะครับ"


และยังมีคอมเม้นท์ ระบุอีกว่า "ผมเขียนจริงครับไม่ใช่คอนเทนแน่นอน ผมลาออกไม่ใช่ผมไม่สู้ แต่ผมจะสู่ในฐานะประชาชน คนธรรมดาครับ สู้มาก็สู้กลับก็แค่เดิมพันด้วยชีวิต ชีวิตนี้พอแล้วจะไปกลัวอะไรอีกครับ"


ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้คุยกับนายตำรวจยศ ส.ต.อ. ซึ่งเป็นเจ้าของโพสต์เพิ่มเติม กล่าวถึงสาเหตุที่ลาออกว่า เนื่องจากตนทำงานด้านยาเสพติด เพราะคิดว่าเมื่อจับผู้ค้ายาเสพติดได้หนึ่งราย เราจะช่วยได้หลายคนแม้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้บำเหน็จขั้นจากผู้บังคับบัญชาแต่มันสามารถเลี้ยงใจเราได้ แต่มาวันหนึ่ง มีตำรวจเอายาไปขายเสียเองแล้วใส่ความตนว่าหยิบยาไป พอตนโวยวายก็ได้แต่ถูกบอกให้เงียบ


ส.ต.อ.รายนี้ ยังบอกอีกว่า ถึงแม้ตนจะไม่ใช่คนดี แต่ยืนยันว่ารู้จักผิดชอบชั่วดี แนวคิดของตนที่เข้ามารับราชการเพื่อประชาชน "เราเป็นตำรวจเราไปจับชาวบ้านเขา แต่เรามีคนในองค์กรทำเสียเอง มันบาดใจ จึงหมดหวังสูญสิ้นศรัทธาในระบบข้าราชการตำรวจ" เบื้องต้นตนยื่นหนังสือลาออกไปแล้ว แม้ผู้บังคับบัญชายังไม่อนุมัติ แต่ยังยืนยันว่าจะลาออก


ทางด้าน พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เปิดเผยว่า ส.ต.อ. คนดังกล่าว เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้ยื่นใบลาออกมาเมื่อตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์จริง


เบื้องต้นทาง สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้ระงับใบลาออกไว้ก่อน ยังไม่ได้มีการอนุมัติ เพื่อจะได้พูดคุยสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาได้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมี พ.ต.อ.มาโนช รองผู้บังคับการเป็นประธานในการตรวจสอบ เพื่อตรวจสอบว่า สาเหตุที่ ส.ต.อ.ลาออก เกิดจากอะไร ปัญหาในระบบตำรวจ ไม่พอใจ หรือมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน หรือมีปัญหากับผู้บังคับบัญชาถึงไม่อยากเป็นตำรวจ


วันที่ 18 ก.พ. ทั้งวัน เราพยายามติดต่อ ส.ต.อ. คนดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ คาดว่าอาจจะยังมีความเครียด เท่าที่ทราบ ส.ต.อ. คนดังกล่าว เป็นคนทำงานดี แต่ยังไม่รู้ถึงปัญหาที่เขาลาออก ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเราก็ต้องตรวจสอบให้แน่ชัด ทั้งนี้ ตนไม่อยากให้ตำรวจลาออกเพราะถูกกระทำจากตำรวจด้วยกัน หากลาออกเพราะมันอยู่ไม่ไหวจริง ๆ ก็พอเข้าใจ แต่หากถูกผู้บังคับบัญชากลั่นแกล้ง หรืออะไรก็แล้วแต่ อันนี้ตนไม่ยอม  


ขณะเดียวกัน ได้เชิญพ่อแม่ และน้องสาว มาพูดคุยถึงปัญหา ซึ่งตนได้คุยกับพ่อแม่เขาแล้วว่า ทางพ่อและแม่ก็ไม่อยากให้ออกจากตำรวจ ลูกชายก็ยังไม่ได้แต่งงานด้วย ส่วนปัญหาหนี้สิ้นก็ไม่มีอะไร


และจากการได้พูดคุยกับครอบครัวของ ส.ต.อ. คนดังกล่าว ทราบว่า ทางบ้านค่อนข้างมีฐานะ ทำอาชีพปั๊มน้ำมัน และฟาร์มหมู ส่วนพ่อแม่ได้ให้ความร่วมมือดี ติดต่อกับลูกชายแล้ว ทางครอบครัวก็เป็นห่วง แต่ตอนนี้เค้าขอคุยกับทางครอบครัวอย่างเดียว ยังไม่พร้อมคุยกับคนอื่น


ส่วนครอบครัวเอง พ่อแม่ก็อยากให้ลูกเป็นตำรวจ แต่ถ้าลูกไม่อยากเป็น ก็ไม่เป็นไร เรื่องนี้ผู้การเองก็จะนั่งแท่นแก้ปัญหาว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากอะไร จะต้องแก้ไขปัญหาให้ได้ ว่าถูกรังแกหรือไม่ ไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือไม่ หลังจากนี้ต้องขอความร่วมมือ จาก ส.ต.อ. คนดังกล่าว หากมีปัญหาอะไรให้เข้ามาพูดคุยกัน


ด้าน พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร ผู้กำกับ สภ.เมืองสุพรรณบุรี กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติ ทาง ส.ต.อ. คนดังกล่าว เป็นตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี เมื่อปี 2560 ในตำแหน่ง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม และไปทำงานในหน้าที่ฝ่ายสืบสวน โดยที่ผ่านมาได้รับรายงานเบื้องต้นจากผู้บังคับบัญชาในฝ่ายสืบสวนว่า ก็เป็นคนที่ไม่มีประวัติเสียหาย การทำงานในส่วนของงานที่ได้รับมอบหมายเรียบร้อย แต่ในบุคลิกส่วนตัวก็จะเป็นที่แบบมีโลกส่วนตัว ชอบอยู่คนเดียว


เคยมีประวัติในการยื่นลาออกมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2562 ก็ได้มีการถอนเรื่องออกไป ซึ่งจะมีการตรวจสอบเรียกเพื่อนร่วมงาน และผู้บังคับบัญชาในฝ่ายที่ดูแลอีกครั้ง เรื่องนี้เราไม่โทษใครทั้งสิ้น ขอให้ ส.ต.อ. เข้ามาพบเพื่อพูดคุยกันหาทางออก ที่ดีที่สุด ตนในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดระดับจังหวัดพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ขอให้เข้ามาพูดคุยกันจะได้รู้ปัญหาที่แท้จริงและแก้ไขถูก


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/3RWBf33JEv0

คุณอาจสนใจ

Related News