สังคม

สั่งหยุดงาน 5 สรรพสามิต ยัดบุหรี่ปลอม รีดเงินป้าร้านชำ ป้าเล่าทั้งน้ำตา ยังกังวลความปลอดภัย

โดย passamon_a

19 ก.พ. 2566

93 views

กรณีมีบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพสามิต เข้าตรวจค้นร้านค้าขายของชำของ นางสุณาภรณ์ หรือ ป้าพร อายุ 75 ปี ซึ่งตั้งอยู่ที่ ซ.พหลโยธิน 52 และแจ้งให้ป้าพร ทราบว่า ตรวจพบบุหรี่ปลอม จำนวน 2 คอตตอน ภายในร้าน และได้ข่มขู่เรียกเงินจากผู้เสียหาย เพื่อแลกกับการไม่ต้องถูกดำเนินคดี


ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ก.พ.66 นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยตรวจสอบพบว่าบุคคลทั้ง 5 เป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตจริง เบื้องต้นได้สั่งให้ทั้ง 5 คน หยุดทำงาน และสั่งให้ตั้งคณะกรรมการตรวสอบข้อเท็จจริงต่อไป


ทั้งนี้ ในส่วนของ บก.ปปป. จะดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน และเรียกบุคคลทั้ง 5 มารับทราบข้อกล่าวหา หลังจากนั้นจะสรุปสำนวนส่งให้กับคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป


ทีมข่าวช่อง 3 ยังได้พูดคุยกับคุณบี (นามสมมติ) ชาวบ้านในละแวกพหลโยธิน 52 ซึ่งเปิดเผยว่า มีร้านขายของชำที่โดนขบวนการอ้างเป็นสรรพสามิตในลักษณะเดียวกันไปขู่กรรโชกทรัพย์ ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานตรงตามที่ปรากฏในข่าวของป้าพร โดยผู้ก่อเหตุทำทีมาตรวจสอบสินค้าบุหรี่ในร้าน ซึ่งเคสนี้ถูกตรวจสอบว่าเป็นบุหรี่ผิดกฎหมายจริง แต่แทนที่จะนำไปเสียค่าปรับตามขั้นตอนของกฎหมาย กลับถูกอุ้มขึ้นรถเช่นกันกับเคสป้าพร แต่รายนี้ถูกขู่กรรโชกสูงกว่าหมื่นบาท ก่อนจะปล่อยตัวกลับออกมา ซึ่งเหตุการณ์นี้ผ่านมาสองเดือน แต่ผู้เสียหายไม่กล้าไปแจ้งความเพราะกังวลในเรื่องความปลอดภัย


คุณบี ยังกล่าวอีกว่า ในละแวกพหลโยธิน 52 มีหลายร้านที่ถูกขบวนการสรรพสามิตตระเวนขูดรีดเรียกรับเงินในลักษณะเดียวกันกับป้าพร ซึ่งหวังว่าหลังจากนี้ ทางตำรวจจะสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งขบวนการและจะไม่มีใครมาแอบอ้างขูดรีดประชาชนเช่นนี้อีก เพราะสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนอย่างมาก อีกทั้งยังก่อให้เกิดความวิตกกังวลถึงความปลอดภัย เพราะกลายเป็นว่ามิจฉาชีพคือคนมีสีที่อาจจะแว้งกลับมาทำอันตรายได้ทุกเมื่อ


ขณะที่ ป้าพร ซึ่งเป็นผู้เสียหาย เปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 3 ทั้งน้ำตาว่า จนถึงทุกวันนี้ตนยังคงรู้สึกหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้จะผ่านมานานหลายวันและทางตำรวจจะมีความคืบหน้าทางคดีแล้วก็ตาม แต่ตนยังคงวิตกกังวลว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะแว้งกลับมาทำอันตราย เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นพวกคนมีสี อีกทั้งตนก็อาศัยอยู่ร้านกับหลานสาว ไม่มีสามีหรือบุตรช่วยดูแล ยิ่งวันธรรมดาที่หลานไปโรงเรียน ตนก็ต้องอยู่เพียงลำพังและอายุก็มาก ไม่มีใครมาช่วยเหลือปกป้อง มีเพียงกล้องวงจรปิดเท่านั้นที่สามารถบันทึกเป็นพยานหลักฐานได้


ยังนึกกลับไปหากตนถูกทำอันตรายถึงชีวิต ก็ไม่รู้ว่าใครจะดูแลร้านและหลานของตน ตอนนี้กังวลถึงขนาดคิดจะเลิกขายของ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปทำมาหากินเลี้ยงชีพเลี้ยงหลานยังไงอีก


นอกจากนี้ ป้าพร ยังกล่าวอีกว่า ด้วยความที่เป็นคนมีสีมาก่อเหตุ หากไม่มีสื่อมวลชนมาช่วยทำข่าวก็ไม่รู้ว่าคดีจะคืบหน้าไปยังไง ถึงตอนนี้ยังไม่มีตำรวจติดต่อมาไปสอบปากคำเพิ่มและทราบจากชาวบ้านเท่านั้นว่าคดีคืบหน้าไปถึงไหน จึงต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยนำเสนอข่าวให้เป็นอุทาหรณ์แก่ประชาชน พร้อมฝากไปถึงบรรดาร้านค้าต่าง ๆ ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพในคราบข้าราชการ ติดกล้องวงจรปิดได้ยิ่งดีเพื่อเก็บเป็นพยานหลักฐานและอย่าหลงเชื่อใครก็ตามที่หลอกเรียกรับเอาเงิน อีกทั้งฝากถึงผู้ก่อเหตุว่าอย่าได้ไปก่อเรื่องทำความเดือดร้อนแก่ประชาชนในลักษณะนี้อีก ยืนยันว่าจะเอาเรื่องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/2ioOml7IwW0

คุณอาจสนใจ

Related News