สังคม

ตร.ออกประกาศกำหนดที่นั่งนิรภัยเด็ก - ประกาศห้ามยืนบนรถสองแถว-ท้ายรถกระบะนั่งได้ไม่เกิน 6 คน

โดย weerawit_c

18 ก.พ. 2566

204 views

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย และวิธีการป้องกันอันตราย ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ พ.ศ. 2566 โดยที่เป็นการสมควรกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย และวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของคนโดยสารที่เป็นเด็ก



อายุไม่เกินหกปี คนโดยสารที่มีความสูงไม่เกินหนึ่งร้อยสามสิบห้าเซนติเมตร และผู้ขับขี่หรือคนโดยสาร ที่มีเหตุผลทางสุขภาพอันไม่สามารถรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่และการโดยสาร



อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 123 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ



จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้



ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การกำหนดที่นั่งนิรภัย สำ หรับเด็ก ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย และวิธีการป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ



พ.ศ. 2566”



ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศ



ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป



ข้อ 3 ในประกาศนี้



“รถกระบะ” หมายถึง รถบรรทุกตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล



ตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และให้รวมถึงรถยนต์กระบะสี่ประตู



“รถกึ่งกระบะ” หมายถึง รถกระบะที่มีพื้นที่ใส่สัมภาระด้านหลังที่นั่งคนขับ (Space Cab)



ข้อ 4 ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ต้องมีลักษณะและมาตรฐาน ดังต่อไปนี้



4.1 ลักษณะของที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ได้แก่



(ก) ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหลังรถ



(ข) ที่นั่งนิรภัยชนิดนั่งหันไปทางด้านหน้ารถ



4.2 ในกรณีที่ได้มีการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสำหรับที่นั่งนิรภัย



สำหรับเด็กแบบใดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแล้ว ที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก



ที่จะใช้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมนั้น



ข้อ 5 ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย ต้องมีลักษณะและมาตรฐาน ดังต่อไปนี้



5.1 ลักษณะของที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตราย ได้แก่ ที่นั่งพิเศษแบบ



ที่นั่งเสริมที่ไม่มีพนักพิง (Booster Seat)



5.2 ในกรณีที่ได้มีการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมสำหรับที่นั่งพิเศษ



สำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตรายแบบใดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแล้ว ที่นั่งพิเศษสำหรับเด็กเพื่อป้องกันอันตรายที่จะใช้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมนั้น



ขณะที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การยกเว้นให้คนโดยสารไม่ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยในรถบางประเภท พ.ศ.2566 ลงนามโดย พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า



โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ในการบรรทุกคนโดยสาร การใช้อัตราความเร็วและการยกเว้นการรัดเข็มขัดนิรภัยสำหรับรถนั่งสองแถว รถบรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กที่มีการจัดที่นั่งตามความยาวของรถ รถกระบะ และรถกึ่งกระบะ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการขับขี่และการโดยสาร



อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 123/1 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติจราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ.2565 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้



ข้อ 1 ประกาศนี้เรียกว่า “ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่อง การยกเว้นให้คนโดยสารไม่ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยในรถบางประเภท พ.ศ.๒๕๖๖”



ข้อ 2 ประกาศนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป



ข้อ 3 ในประกาศนี้

“รถกระบะ” หมายถึง รถบรรทุกตามกฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และให้รวมถึงรถยนต์กระบะสี่ประตู

“รถกึ่งกระบะ” หมายถึง รถกระบะที่มีพื้นที่ใส่สัมภาระด้านหลังที่นั่งคนขับ(Space Cab)



ข้อ 4 ในการใช้รถนั่งสองแถว รถบรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กที่มีการจัดที่นั่งตามความยาวของรถ รถกระบะ รถกึ่งกระบะ หากได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ให้คนโดยสารที่อยู่ในรถยนต์นั้นนอกจากคนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้า ได้รับยกเว้นไม่ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัย



4.1 จำนวนการบรรทุกคนโดยสาร

(1) รถนั่งสองแถว รถบรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กที่มีการจัดที่นั่งตามความยาวของรถให้บรรทุกคนโดยสารในที่นั่งตอนสองแถวได้ไม่เกินจำนวนที่กำหนดไว้สำหรับรถแต่ละประเภทนั้นตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ และกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก

(2) รถกระบะ และรถกึ่งกระบะ บรรทุกคนโดยสารในตอนท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน

(3) รถกึ่งกระบะ บรรทุกคนโดยสารในตอนพื้นที่ใส่สัมภาระด้านหลังที่นั่งคนขับ (Space Cab) ได้ไม่เกิน 3 คน



4.2 การโดยสารนั้นต้องไม่มีการยืนหรือนั่งโดยสารในลักษณะที่เป็นการเสี่ยงภัยดังนี้

(1) รถนั่งสองแถว และรถบรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กที่มีการจัดที่นั่งตามความยาวของรถต้องจัดให้ผู้โดยสารปฏิบัติดังต่อไปนี้ ตลอดการโดยสาร

ก.นั่งโดยสารในที่นั่งที่กำหนดสำหรับรถประเภทนั้น

ข.ห้ามนั่งโดยสารเกินจำนวนที่นั่ง

ค.ห้ามนั่งบนอุปกรณ์ที่เพิ่มเติม นอกเหนือที่นั่งที่กำหนดไว้

ง.ห้ามยืนโดยสารไม่ว่าตอนใดของรถ

จ.ไม่ยื่นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายออกนอกตัวรถในขณะนั่งโดยสาร



(2) รถกระบะ และรถกึ่งกระบะ ต้องจัดให้ผู้โดยสารปฏิบัติดังต่อไปนี้ ตลอดการโดยสาร

ก.กรณีนั่งในบริเวณกระบะ ต้องปิดฝากระบะท้าย

ข.ห้ามนั่งริมขอบกระบะ

ค.ห้ามนั่งซ้อนผู้โดยสารอื่น หรือนั่งบนสิ่งของที่บรรทุกในรถ

ง.ห้ามยืนโดยสารไม่ว่าตอนใดของรถ

จ.ไม่ยื่นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายออกนอกตัวรถในขณะนั่งโดยสาร



4.3 ในขณะที่มีการบรรทุกคนโดยสาร ผู้ขับขี่ต้องใช้อัตราความเร็ว ดังต่อไปนี้

(1) รถนั่งสองแถว ให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

(2) รถบรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กที่มีการจัดที่นั่งตามความยาวของรถให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

(3) รถกระบะและรถกึ่งกระบะ กรณีที่มีผู้โดยสารนั่งท้ายกระบะ ให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง



ทั้งนี้ ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ใกล้ขอบทางเดินรถด้านซ้าย เว้นแต่ ในช่องเดินรถนั้นมีสิ่งกีดขวางหรือถูกปิดการจราจร หรือจะต้องเข้าช่องทางให้ถูกต้องเมื่อเข้าบริเวณใกล้ทางร่วมทางแยก หรือเมื่อจะแซงขึ้นหน้ารถคันอื่น


รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/JJ4lK6U-s8s

คุณอาจสนใจ

Related News