สังคม
เผยผลตรวจเลือด 'เสี่ยเบนท์ลีย์' พบสารเสพติด - DSI ตั้งทีมล่า คนแอบอ้างเป็นอธิบดีฯ
โดย weerawit_c
14 ม.ค. 2566
500 views
กรณีรถหรูเบนท์ลีย์ ทะเบียน 7 กค 3822 กรุงเทพฯ ขับบนทางพิเศษเฉลิมมหานคร จากถนนสุขสวัสดิ์มาประมาณ 9-10 กม. มุ่งหน้าดินแดง โดยกล้องหน้ารถคันอื่นจับภาพรถหรูเบนท์ลีย์ขับมาด้วยความเร็ว แซงซ้ายแล้วเบี่ยงขวาก่อนจะพุ่งเข้าชนท้ายรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ที่วิ่งอยู่เลนกลาง จนรถยนต์มิตซูบิชิเสียหลักหมุนพุ่งชนขอบทางติดช่องทางขวาสุด
ก่อนมีรถดับเพลิง อปพร.บางรัก ที่ขับอยู่ช่องทางขวา ขณะจะไปเหตุไฟไหม้ย่านอุดมสุข ชนซ้ำ จนรถยนต์มิตซูบิชิพลิกคว่ำ ล้อชี้ฟ้า เสียหายพังยับเยินทั้ง 3 คัน ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย เป็นหญิง อายุ 29 ปี กับเด็กชายอายุ 4 ขวบที่นั่งมาในรถยนต์มิตซูบิชิ และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครดับเพลิงชายอีก 2 คน ต่อมาประชาชนตั้งข้อสังเกตถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ให้คนขับเบนท์ลีย์เป่าแอลกอฮอล์ทันที แล้วมาตรวจเลือดที่รพ.ตำรวจ มีรายงานว่าไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ระดับ 10 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เท่านั้น กฎหมายถือว่าไม่เข้าข่ายเมาแล้วขับ
ช่วงบ่ายวานนี้ (13 ม.ค.) มีรายงานว่าในส่วนของผลการตรวจสอบเลือดของนายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ ผู้ขับขี่รถหรู เบนท์ลีย์ มีการตรวจสอบพบสารบางชนิดที่เข้าข่ายเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญอยู่ระหว่างการดำเนินการแยกสารเพื่อส่งเป็นรายละเอียดทางการให้กับพนักงานสอบสวน สน. ทางด่วน 1 เพื่อให้ใช้ในการพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ขับขี่
ในเวลาต่อมา ทีมข่าวช่อง 3 ติดต่อสอบถามเพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในฐานะโฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยพลตำรวจตรีจิรสันต์ ยืนยันว่า เมื่อช่วงบ่ายทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้รับผลการตรวจเลือดของตัวผู้ขับขี่รถยนต์หรูเบนท์ลีย์ ที่พบว่ามีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย โดยสารที่พบในขณะนี้ที่สามารถยืนยันได้คือเมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) เคตามีน(ยาเค) และพบในปัสสาวะ คือ ไดอะซีแพม(ยานอนหลับ) ,นอร์ไออะซีแพม(ยานอนหลับ) และโอปิออยด์(ยาแก้ปวด) อยู่ในร่างกาย ซึ่งขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญของโรงพยาบาลตำรวจอยู่ระหว่างการคัดแยกตัวสารเพื่อระบุชนิดของสารเสพติดดังกล่าว
ส่วนการดำเนินการกับทางผู้ขับขี่รถยนต์หรู เบนท์ลีย์ ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนดำเนินการเรียกตัวผู้ขับขี่มาทำการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม โดยข้อหาที่จะดำเนินการแจ้ง คือเป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะเสพยาเสพติด
ขณะที่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่ามีผู้อ้างตัวเป็น "อธิบดีดีเอสไอ" เข้าไปช่วยเอาตัวเสี่ยเบนท์ลีย์ไปโรงพยาบาล และยังมีข้อมูลว่ารถเบนท์ลีย์คันที่เกิดเหตุ ส่อเลี่ยงภาษีศุลกากร
วานนี้ (13 ม.ค.) นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ สั่งให้ตรวจสอบรถยนต์เบนท์ลีย์คันที่เกิดเหตุแล้วว่า เกี่ยวข้องกับกลุ่มรถหรูที่ดีเอสไอรับผิดชอบด้วยหรือไม่ เพราะดีเอสไอตรวจสอบเรื่องการลักลอบนำเข้ารถหรูในปี 2558 แต่รถคันนี้เคยถูกตำรวจกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. จับเมื่อปี 2554
ส่วนกรณีที่มีพยานออกมาเปิดเผยกับทีมข่าวช่อง 3 ว่า มีชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็น "อดีตตำรวจ" และมีตำแหน่งเป็นอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อช่วยเอาตัว นายสุทัศน์ ออกมาจาก สน.ทางด่วน 1 เพื่อนำส่งตรวจเลือดที่โรงพยาบาลตำรวจเอง
วานนี้ (13 ม.ค.) อธิบดีดีเอสไอตั้งคณะทำงานเข้ามาตรวจสอบ และพิจารณาว่าเจตนาดังกล่าวเข้าข่ายทำให้องค์กรเสียหายหรือไม่ โดยสั่งให้ไปตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ของคนที่มาแอบอ้างแล้ว หากแอบอ้างโดยไม่เคยมีประวัติทำงานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือแม้เป็นอดีตข้าราชการของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็จะพิจารณาดำเนินการเอาผิดโดยไม่มีข้อยกเว้น
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/HwXasIpmVbk
แท็กที่เกี่ยวข้อง เสี่ยเบนท์ลีย์ ,ผลตรวจเลือด ,อธิบดี ,สารเสพติด ,DSI