สังคม
เจ้าของร้านเสริมสวยร้อง ถูกเพื่อนบ้านรุมทำร้าย เหตุสุนัขคาบรองเท้าหาย ผ่านมาเกือบเดือนคดีไม่คืบ
โดย weerawit_c
18 ธ.ค. 2565
61 views
วันที่ 18 ธันวาคม 2565 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่เคหะพระประแดง ซอยสุขสวัสดิ์ 78 ตำบลบางจาก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ หลังจากมีเพจดัง อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return plus ได้แชร์ข่าวว่ามีเจ้าของร้านเสริมสวยถูกรุมทำร้ายภายในร้านจนได้รับบาดเจ็บหลายที่ และคดีไม่คืบหน้าเกือบ 1 เดือนแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปพบกับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเคหะสูงประมาณ 5 ชั้นตึก b ชั้นล่าง ซึ่งเปิดเป็นร้านเสริมสวยพบนาง ศรีไพล ชุ่มแจ่ม อายุ 58 ปี เจ้าของร้านเสริมสวยและนาย ชนะพล ทัศนศร อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย ได้เล่าให้ฟังว่า ตนมีปัญหากับเพื่อนบ้านคู่กรณีที่อยู่ตึกตรงกันข้ามคือตึก a ชั้นล่าง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 20.00 น ได้มีปากเสียงกันเรื่องสุนัขมาคาบรองเท้าของผู้เสียหายไป จากนั้นก็มีปากเสียงกันหนักขึ้นกระทั่งมีการลงไม้ลงมือ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุโดยเชิญทั้งสองฝ่ายไปที่ สภ.พระประแดง พบกับ ร้อยตำรวจเอก วิทยา นามทอง รอง สารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการให้ไกล่เกลี่ยกันและปรับความเข้าใจกันทั้งสองฝ่าย แล้วก็ได้แยกย้ายกันกลับบ้านพัก
จากนั้นมาวันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 เวลาประมาณ 17.30 น. ทางฝ่ายคู่กรณี (เจ้าของสุนัข) ก็ได้เดินเข้ามาถามบ้านของผู้เสียหายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ว่าทำไมต้องมีการทำร้ายกัน ขณะเดียวกันได้มีกลุ่มของคู่กรณีวิ่งเข้ามาทำร้ายฝ่ายผู้เสียหายที่หน้าบ้านพัก ซึ่งผู้เสียหายยืนยันมีพยานเห็นเหตุการณ์และมีคลิปกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ จากนั้นฝ่ายผู้เสียหายจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.พระประแดง อีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ฝ่ายผู้เสียหายจะแจ้งความดำเนินคดีกับฝ่ายคู่กรณี และแจ้งความกับ ร้อยตำรวจเอก ชาย พลศรี รอง สารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้ทางผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อรอผลเก็บเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี
ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรอผลการตรวจร่างกายของทั้งสองฝ่ายที่อ้างว่าต่างคนต่างได้รับเจ็บ และล่าสุดทาง ร้อยตำรวจเอกชาย พลศรี ได้นัดคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาไกล่เกลี่ยและปรับความเข้าใจกันในวันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม 2565 แต่ถ้าหากในครั้งนี้ยังไม่สามารถพูดคุย หรือไกล่เกลี่ย กันได้ก็จะทำการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป