เร่งซ่อมคันคลองชัยนาท น้ำเซาะขาดทะลักท่วม เจ้าของบ้านน้ำตาคลอ กู้เงินล้านสร้างยังใช้หนี้ไม่หมด

ระดมกำลังซ่อมแซมจุดถนนขาดคันคลองมหาราช จ.ชัยนาท หลังมวลน้ำเจ้าพระยากัดเซาะ ทำให้รถไม่สามารถสัญจรได้ บ้านเรือน ปชช.ถูกน้ำท่วมพังเสียหาย เจ้าของน้ำตาคลอเสียดายบ้าน กู้ ธกส.มาสร้างล้านกว่าบาทยังใช้หนี้ไม่หมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงกลางดึกของวานนี้ (14 ต.ค.) เกิดเหตุน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยากัดเซาะถนนทางหลวงชนบท หมายเลข 3018 (สายคันคลองมหาราช) จนขาดความยาวกว่า 30 เมตร รถไม่สามารถสัญจรได้ ในพื้นที่ ม.12 ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท เจ้าหน้าที่ ปภ.จังหวัดชัยนาทและอาสามูลนิธิร่วมกตัญญูจังหวัดชัยนาท ได้เร่งเข้าไปอพยพช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในบ้านออกมา

เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมวลน้ำมีกระแสแรงและไหลเชี่ยว พร้อมทั้งปิดกั้นไม่ให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้ายังบริเวณจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังรับรายงานอีกว่า มีรถของประชาชนตกลงไปในน้ำและถูกกระแสน้ำไหลพัดจมหายไปโดยชาวบ้านได้ช่วยเหลือคนขับไว้ได้ทันจึงเคราะห์ดีรอดชีวิต และยังพบว่าบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำทะลักท่วม มีบ้านของประชาชน 2 หลัง ถูกน้ำพัดพังเสียหาย

โดยนายสมพร ตี๋ชื่น อายุ 53 ปี เจ้าของบ้าน (หลังสีฟ้า) มายืนดูบ้านของตัวเอง เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวขณะเกิดเหตุเวลาประมาณตี 3 หลานชายอาศัยอยู่กับแฟน 2 คน น้ำกระแสน้ำไหลแรงพัดเสาบ้านทรุด บ้านเริ่มเอียง มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยนำหลานชายและแฟนออกจากบ้านตอนตี 5 ส่วนยุ้งข้าวก็ถูกน้ำพัดไป

นายสมพร น้ำตาคลอเล่าว่า “บ่ายสามบ้านยังไม่ทรุดขนาดนี้เลย ข้าวของบนบ้านก็ยังไม่ได้เก็บออกมา บ้านหลังนี้กู้เงิน ธกส.มาสร้างล้านกว่าบาท ยังใช้หนี้ไม่หมดเลย เสียดายบ้าน ผมมายืนดูบ้านทั้งวันกลัวมันจะทรุดหนัก รู้สึกแย่เดือดร้อน ต้องหาเงินไปใช้หนี้เจาอีก”

ขณะที่ชาวนาพื้นที่ตำบลดังกล่าว เร่งเก็บเกี่ยวข้าว หลังมวลน้ำทะลักเข้าคลองมหาราช หวั่นว่าคันคลองอีกด้านถูกน้ำกัดเซาะพังอีก นาข้าวก็จะได้รับความเสียหาย

นายรุ่งเพชร อยู่กัน อายุ 53 ปี ชาวบ้านหมู่ 5 ต.ตลุก อ.สรรพยา กล่าวว่า ตนทำนาข้าว (นาปรัง) 48 ไร่ ต้องรีบเกี่ยวข้าวก่อนกำหนด ตนลงทุนเยอะหากถูกน้ำท่วมทุนก็จะไม่เหลือ เมื่อปี 54 นาข้าวถูกน้ำท่วมเสียหายไม่ทันเก็บเกี่ยวผลผลิต

นายนที มนตรีวัต รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เปิดเผยว่า ทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ามาทำการสำรวจดูความเสียหาย และหาวิธีการซ่อมแซมอุดลอยรั่วของน้ำเบื้องต้นนำไม้มาทำเป็นเสาเข็ม และนำถุงบิ๊กแบ็คมาวางอุดทางน้ำไหล ซึ่งมวลน้ำไหลมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา จุดที่น้ำกัดเซาะนั้นเป็นถนนกั้นกับคลองมหาราช ซึ่งตอนนี้มวลน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลทะลักเข้าสู่คลองมหาราชเป็นจำนวนมาก

ด้านนายชิดชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 4 รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 เดินทางเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม เผยว่า แผนในการดำเนินการซ่อมแซม ได้สั่งการนำเครื่องจักรเข้ามาเพื่อเร่งปิดช่องขาดนี้

โดยประสานขนย้ายเครื่องจักรที่ทำงานอยู่บริเวณ ต.ชีน้ำร้าย อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี และจะนำรถเครนเข้ามาช่วยตรงนี้ก่อน นอกจากนี้ยังได้นำเครื่องจักรของโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบรมธาตุ เข้ามาช่วยเสริมด้วย  

จากสภาพน้ำตรงนี้ได้ไหลลงคลองมหาราช จะไหลไปพื้นที่ด้านล่าง เช่น จังหวัดสิงห์บุรี ทางกรมชลประทานได้เร่งบล็อกน้ำไว้ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรงมาก และจะดูรายละเอียดเรื่องการดำเนินปิดช่องขาดนี้ว่าจะเป็นแนวทางใดโดยแผนการดำเนินการในชุดแรกที่จะชะลอน้ำ ได้นำถุงบิ๊กแบ็คมาลงก่อน และจะนำรถเครนเข้ามายืนทั้งสองฝั่งที่ถนนขาดเพื่อดำเนินการพร้อมกันได้อย่างรวดเร็ว

ทีมข่าวลงพื้นที่พบว่าหลายหน่วยงาน ได้เร่งบูรณาการทำงานร่วมกัน โดยการซ่อมแซมทาง เจ้าหน้าที่ได้ทำการนำหินคลุก มาเทบริเวณจุดที่น้ำกัดเซาะถนนขาด พร้อมทั้งยังได้นำเสาไม้ยูคามาตอกเป็นเข็ม และวางถุงบิ๊กแบ็ค ส่วนของคันดินที่อยู่ตรงข้ามจุดบริเวณน้ำกัดเซาะ ทาง อบจ.ชัยนาท และ ปภ.จังหวัดชัยนาท ได้นำไม้ยูคามาทำเป็นเสาเข็มพร้อมทั้งได้วางถุงบิ๊กแบ็ค ป้องกันไม่ให้น้ำจากจุดบริเวณถนนขาดนั้นกัดเซาะ

ด้าน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ ตรวจและติดตามความคืบหน้าการซ่อมแซมจุดที่น้ำกัดเซาะถนนขาดและน้ำทะลักเข้าสู่คลองมหาราช บริเวณทางหลวงชนบท หมายเลข 3018 (สายคันคลองมหาราช) ในพื้นที่ ม.12 ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท  

สำหรับสถานการณ์เมื่อวานนี้ (14 ต.ค.) หลายหน่วยงาน ได้เร่งบูรณาการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น กรมชลประทาน ทางหลวงชนบท เจ้าหน้าที่ทหาร ศูนย์การทหารปืนใหญ่ เจ้าหน้าที่ทหารจาก ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบิน 4 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยนา ฯลฯ โดยการซ่อมแซมทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการนำหินคลุก มาเทบริเวณจุดที่น้ำกัดเซาะถนนขาด พร้อมทั้งยังได้นำเสาไม้ยูคามาตอกเป็นเข็ม และวางถุงบิ๊กแบ็ค นอกจากนี้ส่วนของคันดินที่อยู่ตรงข้ามจุดบริเวณน้ำกัดเซาะ ทาง อบจ.ชัยนาท และ ปภ.จังหวัดชัยนาท ได้นำไม้ยูคามาทำเป็นเสาเข็ม พร้อมทั้งยังได้วางถุงบิ๊กแบ็ค ป้องกันไม่ให้น้ำที่พุ่งจากจุดบริเวณถนนขาดนั้นกัดเซาะ

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ทุกหน่วย ได้ระดมความช่วยเหลือพี่น้องประชาชน เนื่องจากตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่ หากคันคลองขาดไปอีกจะทำให้มีพื้นที่ได้รับความเสียหายหนักและกินวงกว้าง พืชผลทางการเกษตรจะเสียหายทันที จึงต้องเร่งทำการป้องกันคันคลองอีกฝั่งไว้ และทำการปิดตรงจุดที่ขาด คาดการณ์ว่าการปิดจุดนี้ทางชลประทานร่วมกับจังหวัดชัยนาท และ อบจ.ชัยนาท ประสานความร่วมมือกัน ดำเนินการให้สำเร็จภายใน 2 วัน

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/K4wizTfqtBE