อยุธยาวิกฤต น้ำท่วมขยายวงกว้าง 12 อำเภอ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก วัด-โบราณสถาน ไม่รอด

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยจังหวัดได้รายงานแจ้งว่า ขณะนี้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถูกน้ำท่วมขยายออกเป็นวงกว้างไปอีก รวม 12 อำเภอ 132 ตำบล 796 หมู่บ้าน 48,493 ครัวเรือน ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่เว้นแม้แต่พระสงฆ์ วัดวาอารามก็ถูกน้ำท่วมไปด้วย พระสงฆ์ต้องปรับตัวให้อยู่กับน้ำให้ได้


โดยเฉพาะพื้นที่ของเกาะเมืองอยุธยา ในเขตเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ มีทั้งโรงพยาบาลประจำจังหวัด โบราณสถานอันเป็นมรดกโลก สถานที่ราชการ ศูนย์กระจายสินค้าทั้งอุปโภค บริโภค เป็นที่พักอาศัย พื้นที่เกาะเมืองถูกล้อมรอบด้วยแม่น้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา ป่าสัก และลพบุรี


ขณะที่รอบเกาะเมือง มีถนนอู่ทองระยะทาง 12 กิโลเมตร เป็นถนนสายหลักรอบเกาะเมือง พบหลายจุดด้านทิศตะวันตกฝั่งเจดีย์ศรีสุริโยทัย ตรงข้ามกับวัดกษัตราธิราช และด้านทิศเหนือแถบติดกับคลองเมืองที่รับน้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา น้ำได้ไหลบ่าล้นเข้ามาท่วมผิวจราจรของถนนอู่ทองหลายจุด ร้านค้าอาคารพาณิชย์และผู้ที่อยู่อาศัยตลอดริมคลองเมืองถูกน้ำบ่าเข้าท่วมหมดแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ของทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา เร่งทำแนวป้องกั้น น้ำไหลเข้าท่วมในเกาะเมืองตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา มีการเฝ้าระวังจุดเสี่ยงพื้นที่ต่ำของถนนอู่ทองตลอดระยะทาง


ส่วนริมถนนอู่ทองด้านทิศใต้ น้ำได้ทะลักท่วมโบราณสถานป้อมเพชร เป็นจุดที่แม่น้ำเจ้าพระยากับแม่น้ำป่าสักไหลมาบรรจบกันเรียกว่าวังน้ำวน ที่เรือมักประสบอุบัติเหตุ ระดับน้ำสูงประมาณ 2 เมตร และมีกระแสน้ำไหลแรง  


ส่วนที่ชุมชนตำบลกะมัง อำเภอพระนครศรีอยุธยา ใกล้กับวัดเกาะแก้ว พบว่าระดับน้ำจากแม่น้ำป่าสักล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือน้ำท่วมสูงกว่า 150 เซนติเมตร ชาวบ้านต้องใช้เรือพายในการสัญจรเข้าออก โดยที่ชุมชนกะมังแห่งนี้เป็นที่ตั้งของโบราณสถานวัดปราสาท เป็นโบราณสถานกลุ่มนอกเกาะเมือง ได้ถูกน้ำท่วมสูงเช่นเดียวกัน    


ขณะที่ทางเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ได้มีการรับมือน้ำท่วมเกาะเมืองอยุธยา ถึงแม้ว่าทางเทศบาล จะสมารถตั้งแนวคันดินสูงกว่า 150 เซนติเมตร และสันคันหินอัดบด รวมระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ไปตามถนนอู่ทองทำเป็นคันป้องกันน้ำท่วมเข้าเกาะเมืองในจุดเสี่ยงลุ่มต่ำสุดของเกาะเมืองฝั่งทิศตะวันตก ตั้งแต่หน้าสำงานศิลปกรที่3พระนครศรีอยุธยา มาถึงหัวแหลม รับมือมวลน้ำเหนือที่ไหลหลากลงมาจ่อเข้าท่วมเกาะเมืองไว้ได้แล้วในขณะนี้ แต่ก็ยังไม่มั่นใจเนื่องจากยังมีจุดเสี่ยงอีกหลายจุดที่ยังต้องเฝ้าระวัง และเสริมแนวกระสอบทรายกันอย่างต่อเนื่อง


พันจ่าอากาศเอกสุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา นำกำลังคนงานกว่า 30 คน พร้อมด้วยรถตัก รถบรรทุกทราย เข้าบล็อกน้ำจากแม่น้ำป่าสัก ไหลเข้าลานวัดจีน หรือ วัดรัตนชัย ด้านฝั่งทิศตะวันออกของเกาะเมือง น้ำได้ไหลมาจ่อถนนอู่ทองเต็มลานวัดสูงกว่า 40 เซนติเมตร ตั้งเป็นแนวกระสอบทรายบล็อกน้ำไว้ได้ โดยในวันนี้ (9 ต.ค.) จะนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออก เพื่อไม่ให้ล้นมาถึงผิวจราจรของถนนอู่ทอง


พันจ่าอากาศเอกสุวัฒน์ ยืนยันว่าเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จะไม่ยอมให้น้ำท่วมเกาะเมืองเด็ดขาด เพราะถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางในการดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั้ง 16 อำเภอ เป็นสถานที่ตั้งโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ เป็นศูนย์การธุรกิจ โรงเรียน มหาวิทยาลัย สถานประกอบการเอกชน ที่สำคัญเป็นสถานที่ตั้งโบราณสถานสำคัญที่เป็นมรดกโลกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีพื้นที่กว่า 15 ตารางกิโลเมตร จุดเสี่ยงที่พบทั้งหมดทางเทศบาลเข้าดูแลทำแนวป้องกันไว้หมดแล้ว แต่ก็ไม่ไว้ใจ ทั้งนี้ต้องประเมินกันวันต่อวัน ตั้งแต่สภาพอาการ การเร่งปล่อยระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ที่จังหวัดชัยนาท เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่จังหวัดลพบุรี และเขื่อนพระราม 6 ที่อำเภอท่าเรือ อยุธยา และยังต้องติดตามประเมินน้ำที่ไหลหลากลงมาเขื่อนเจ้าพระยาด้วยเนื่องจากจะมีผลกระทบต่อน้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำของอยุธยารวมถึงเกาะเมืองด้วย


ส่วนสถานประกอบการ อาคารพาณิชย์ บริเวณจุดเสี่ยงช่วงชุมชนหัวแหลม น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าทางคลองเมืองเข้าท่วมตามตรอก ตามซอย เข้ามาจ่อถึงถนนอู่ทอง ต้องเร่งวางกระสอบทราย ก่อพนังอิฐบล็อกฉาบคอนกรีต ป้องกันน้ำไม่ให้เข้าไปท่วมตัวอาคารด้านใน เพื่อรับมือน้ำเหนือไหลมาจ่อท่วมเกาะเมือง อยธุยา เมื่อคืนที่ผ่านมา

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/LNL6TE4zuxc