เปิดผลประสิทธิภาพวัคซีนโควิด พบวัคซีนเข็มกระตุ้น ลดเสี่ยงติดเชื้อได้

‘กรมควบคุมโรค’ เปิดผลการประมวลประสิทธิผลของวัคซีนโควิด ที่ใช้ใน ภูเก็ต , กทม. , เชียงใหม่ และกาฬสินธุ์ ซึ่งบ่งบอกว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเข็มที่ 3 ต้านทานการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิผล สอดคล้องกับผลงานวิจัย 3 ชิ้นในสหรัฐอเมริกา ถึงความสำคัญในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

ดร.โรเชลล์ วาเลนสกี (Rochelle Walensky) ผู้อำนวยการ CDC ได้แถลงสรุปผลงานวิจัยทั้งสามชิ้นเมื่อวานนี้ โดยระบุว่า ผลงานวิจัย 3 ชิ้นในสหรัฐฯ พบว่าวัคซีนโควิด-19 ที่มีอยู่ โดยเฉพาะวัคซีนที่ฉีดเป็นเข็มกระตุ้นสามารถต้านทานโควิด ‘โอมิครอน’ ได้

การวิจัยในครั้งนี้เป็นการศึกษาวัคซีนครั้งใหญ่ของสหรัฐฯเกี่ยวกับโควิดโอมิครอน ที่สำคัญผลวิจัยที่ได้มา ก็สอดคล้องกับผลการวิจัยในเยอรมนี แอฟริกาใต้และสหราชอาณาจักรด้วย ที่ยืนยันก่อนหน้านี้แล้วว่า วัคซีนที่มีอยู่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านโอมิครอน แม้ประสิทธิภาพการต้านทานจะน้อยกว่า เชื้อโควิดที่กลายพันธุ์ก่อนหน้านี้ก็ตาม

ผลการศึกษาชิ้นแรกเป็นการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและห้องฉุกเฉินของศูนย์ดูแลผู้ป่วยใน 10 รัฐตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนถึงเดือนนี้พบว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนที่ได้ผลดีที่สุด คือวัคซีนเข็ม 3 ของไฟเซอร์และโมเดอร์นา ที่ช่วยให้ผู้ติดเชื้อไม่ต้องเข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉิน หรือต้องรักษาเร่งด่วน แม้ว่าประสิทธิภาพวัคซีนที่ป้องกัน ‘โอมิครอน’ จะน้อยกว่า ‘เดลตา’ ก็ตาม โดยวัคซีนมีประสิทธิภาพต้านทานโอมิครอนได้ 82% แต่ต้านทานเดลตาได้ 94%

ส่วนผลการวิจัยชิ้นที่ 2 เป็นการมุ่งเน้นการเก็บข้อมูลอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโควิด ใน 25 รัฐ เริ่มรวบรวมข้อมูลตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเทศกาลคริสต์มาสที่ผ่านมา พบว่า วัคซีนเข็มกระตุ้นช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อเสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็นช่วงที่เดลต้าแพร่ระบาด หรือในช่วงที่โอมิครอนกำลังแพร่ระบาดผลวิจัยทั้งสองชิ้ันนี้ CDC ได้นำไปเผยแพร่ในออนไลน์

ส่วนผลวิจัยชิ้นที่ 3 ตีพิมพ์โดยสมาคมแพทย์อเมริกัน เป็นการวิจัยโดยทีมทำงานของ CDC เอง เป็นการรวบรวมข้อมูลของผู้ติดเชื้อโควิดตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคมปีที่แล้ว ถึงวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ที่มารับการตรวจโควิดกว่า 4,600 แห่งทั่วประเทศพบว่า ผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว 3 เข็มของไฟเซอร์และโมเดอร์นา พบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพต้านทานโอมิครอนได้ 67% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน และสำหรับผู้ติดเชื้อที่ฉีดวัคซีนเพียง 2 โดส ก็พบว่า วัคซีนไม่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะต้านทานโอมิครอนได้

ผลวิจัยทั้งสามชิ้นชี้ตรงกันถึงความสำคัญในการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/KrSdIrmhiYs