สังคม
จบด้วยดี! ผู้พิพากษาเคลียร์ใจกู้ภัย มอบค่าซ่อมรถ 8 พัน – ค่าเสียเวลาอีก 2 พัน ยันไม่ได้ชนแล้วหนี
โดย thichaphat_d
1 ม.ค. 2565
71 views
กรณีชายที่อ้างตัวเป็นรองอธิบดีผู้พิพากษา ขับรถเฉี่ยวชนรถกู้ภัย ที่บริเวณแยกแสงตะวัน ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ล่าสุดวานนี้ (31 ธ.ค.) นายไพโรจน์ พรหมธารา เจ้าหน้าที่กู้ภัยของเทศบาลตำบลเจดีย์แม่ครัว ได้เดินทางเข้ามาพบกับ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่
หลังจากนั้นนายชาญศักดิ์ สมประโยชน์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ประจำกองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 ช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งรองอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5
ได้เดินทางตามเข้ามา เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น ตามที่พนักงานสอบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่ ติดต่อให้มาตกลงกัน
โดยใช้เวลาในการเจรจาไกล่เกลี่ยทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้น พ.ต.อ.ภูวนาท ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ และนายไพโรจน์ พรหมธารา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ขณะที่นายชาญศักดิ์ สมประโยชน์ ไม่ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
พ.ต.อ.ภูวนาท กล่าวว่า หลังการเจรจาไกล่เกลี่ยกันทั้ง 2 ฝ่าย เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี และจากการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น อาจเกิดจากความเข้าใจผิดของทั้ง 2 ฝ่าย เนื่องจากในวันเกิดเหตุ รถของคู่กรณีได้ไปเฉี่ยวชนกับรถตุ๊กตุ๊ก และได้เจรจากับทางด้านคนขับรถตุ๊กตุ๊กว่า จะมาไกล่เกลี่ยนกันที่ สภ.เมืองเชียงใหม่
แต่ระหว่างนั้นทางด้านของกู้ภัย กำลังไปเอารถ ทางคู่กรณีขับรถออกจากที่เกิดเหตุพอดี ทำให้ทางด้านกู้ภัยเข้าใจผิดว่าจะขับรถหลบหนี จึงได้ขับรถติดตาม จนเกิดเฉี่ยวชนกันขึ้น และเกิดการโต้เถียงกันตามคลิป ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความตั้งใจของกู้ภัยในการปฏิบัติหน้าที่
ขณะเดียวกัน จากการพูดคุยกับทางคู่กรณี ยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี และในวันนั้นจะเดินทางมาเจรจาไกล่เกลี่ยที่โรงพัก ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ติดใจเอาความ เพราะคิดว่าเป็นความตั้งใจของเจ้าหน้าที่กู้ภัยในการปฏิบัติหน้าที่ และยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ส่วนกรณีที่มีการระบุว่าคู่กรณีมีลักษณะพูดจามึนเมานั้น ทางเจ้าตัวบอกว่าเป็นคนที่มีลักษณะเช่นนั้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเป็นความเสียหายที่เกิดเหตุขึ้นกับทรัพย์สิน และไม่มีผู้บาดเจ็บหนัก หรือถึงขั้นเสียชีวิต โดยเรื่องของความผิดสามารถว่ากล่าวตักเตือนกันได้ และในส่วนของที่คู่กรณีไปชนกับรถตุ๊กตุ๊ก ได้มีการดำเนินการไปแล้ว
ส่วนเรื่องข้อเท็จจริงที่ว่าทางคู่กรณีมีอาการมึนเมาหรือไม่นั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนการปฏิเสธเป่าแอลกอฮอล์ ต้องไปตรวจสอบกับร้อยเวรเจ้าของคดีในคืนนั้นว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ยืนยันว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยสิ่งที่ผิดว่ากันไปตามผิด และขอเวลาในการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากในการพิจารณาดำเนินคดีกับใครต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานหากพบว่ามีความผิดจริง จะดำเนินคดีตามกฎหมาย
แต่ในส่วนของกรณีที่เข้าใจผิดกันของทั้ง 2 ฝ่าย ก็ได้พูดจากันจนเข้าใจในที่สุดแล้ว และทั้ง 2 ฝ่ายยินยอมไม่ติดใจเอาความกันกับเรื่องที่เกิดขึ้นดังกล่าว
ขณะที่ทางด้าน นายไพโรจน์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเปิดเผยว่า ภายหลังการเข้าเจรจาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีว่า หลังจากการเข้าพูดคุยกับทางคู่กรณีในวันนี้ ตนรู้สึกพอใจ และไม่ติดใจเอาความกับสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้มีความโกรธเคืองกันมาก่อน
โดยในส่วนของการชดใช้ค่าเสียหายนั้น ทางคู่กรณีได้มอบเงินสดให้ตน 10,000 บาท เป็นค่าซ่อมรถ 8,000 บาท และค่าเสียเวลา 2,000 บาท และในส่วนของกรณีที่มีคลิปเผยแพร่ไปในโซเชี่ยล ทางด้านคู่กรณีไม่ได้ติดใจเอาความแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้ตนจะนำรถไปซ่อม และปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนขอจบด้วยดีในที่สุด
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/B9-V5rurfR4
แท็กที่เกี่ยวข้อง ชนแล้วหนี ,ผู้พิพากษา ,นัดไกล่เกลี่ย ,เชียงใหม่ ,เมาแล้วขับ