สังคม

สาวปล่อยเงินกู้แฉ จนท.รพ.แสบ แอบนำบัตร ปชช.คนไข้ หลอกกู้เงิน

โดย weerawit_c

18 ธ.ค. 2564

702 views

สาวเวชระเบียนสุดแสบ เอาบัตรประชาชนผู้ป่วยกู้เงินนอกระบบพบผู้เสียหายถูกแอบอ้างนับ 10 ราย



ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ 'ปุ้ย ปุ้ย' ได้โพสต์ข้อความลงในกลุ่มเฟซบุ๊ก 'สุราษฎร์ธานี' เพื่อเตือนภัยให้กับประชาชนที่ไปใช้บริการกับโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีว่า อยากเตือนภัยประชาชนที่ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรัฐในตัวเมืองสุราษฎร์ให้ระมัดระวังบัตรประชาชนของท่านให้ดีเพราะเจ้าหน้าที่ห้องบัตรบางคนนำบัตรประชาชนของท่านมากู้เงินกับเรา จนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลก social media





โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับผู้โพสต์เฟซบุ๊กรายดังกล่าว คือ นางสาวกชแก้ว แซ่ตัน อายุ 36 ปี อาชีพค้าขายซึ่งเป็นผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยนางสาวกชกรเล่าให้เราฟังว่าเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาได้มี นางสาวปิยมน ทองเดิม หรือโน๊ตอายุ 30 ปี เป็นเจ้าหน้าที่เวชระเบียนห้องบัตรโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีมากู้เงินกับตน โดยภายหลังก็ได้มีการนำบัตรประชาชนของบุคคลอื่นซึ่งอ้างว่าเป็นคนรู้จักที่ทำงานอยู่ที่เดียวกันมากู้และตนก็ให้กู้ไป โดยให้นางสาวปิยมนเป็นคนค้ำประกันให้





โดยตกลงกันว่านางสาวปิยมนจะเป็นคนรับผิดชอบหากผู้กู้ไม่ผ่อนชำระคืนตามกำหนดโดยมีการนำบัตรประชาชนมาแอบอ้างกู้ถึง 16 ราย ยอดยอดกู้มากกว่า 120,000 บาท โดยภายหลังหลังจากที่ครบชำระกำหนดจ่ายดอกเบี้ยนางสาวปิยมนก็ไม่ได้นำเงินมาจ่ายแต่อย่างใดตนจึงได้ทวงถามไปยังนางสาวปิยมนแต่กลับถูกนางสาวปิยมนปฏิเสธและอ้างว่าผู้กู้ได้เสียชีวิตไปแล้วหรือบางรายก็อ้างว่าหนีไปอยู่จังหวัดอื่นไม่สามารถติดต่อได้





ต่อมาตนก็ได้ติดต่อทนายความเพื่อที่จะดำเนินคดีกับผู้กู้และได้ให้ทนายความสืบเสาะจากรายชื่อตามบัตรประชาชนจนได้เบอร์โทรศัพท์ของเจ้าตัวมาต้นจึงได้โทรไปสอบถามปรากฏว่าเจ้าตัวตามรายชื่อที่มากู้เงินปฏิเสธการรู้เห็นการกู้เงินทั้งหมดและได้ให้ข้อมูลว่าก่อนหน้านี้ตนได้มาพบแพทย์เพื่อรักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี





และได้ให้สำเนาบัตรประชาชนไว้กับห้องและเวชระเบียน นางสาวกชแก้ว เลยเห็นว่าเรื่องนี้เป็นการแอบอ้างนำบัตรประชาชนของผู้ป่วยจากโรงพยาบาลมากู้เงินเป็นการซ้ำเติมผู้ป่วยแถมยังเป็นเรื่องอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับบุคคลอื่นได้ จึงนำเรื่องราวมาโพสต์เตือนภัยเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก





ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีสอบถามเหตุการณ์กับนายแพทย์ศักดิ์ชัย ตั้งจิตวิทยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โดยได้เปิดเผยว่าทางโรงพยาบาลได้ทราบเหตุการณ์ดังกล่าวแล้วและตอนนี้อยู่ในระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบ





โดยสาเหตุที่เรื่องล่าช้าก็เพราะว่าก่อนหน้านี้ทั้งตัวนางสาวปิยมลเองและผู้เสียหายได้ป่วยเป็นโรคโควิดจึงไม่สามารถทำการสอบปากคำได้ โดยนายแพทย์ศักดิ์ชัยยังรับปากอีกว่าทางโรงพยาบาลจะไม่นิ่งนอนใจจะดำเนินการทางวินัยกับนางสาวปิยมนผู้ก่อเหตุอย่างถึงที่สุด





ในส่วนของทางคดีความเป็นเรื่องของผู้เสียหายคือเจ้าของบัตรประชาชนและนางสาวปิยมนทางโรงพยาบาลไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นางนิศาชล ไชยรัตน์ ชาวจังหวัดระนองหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกทำบัตรประชาชนไปกู้เงินโดยนางนิสาชลบอกว่า ช่วงเกิดเหตุต้นต้องมาโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีทุกๆ 6 เดือนเพื่อรักษาโรคมะเร็งในเม็ดเลือด





ตอนมาถึงโรงพยาบาลก็ได้นำสำเนาบัตรประชาชนให้กับเจ้าหน้าที่ห้องเวชระเบียนเพื่อทำประวัติการรักษา หลังจากผ่านมาระยะหนึ่งก็ได้มีคนโทรศัพท์ไปสอบถามว่าตนได้รู้จักกับนางสาวปิยมน และได้ไปกู้เงินจาก นางสาวกชกรแก้วหรือไม่ตนก็ปฏิเสธว่าไม่ได้รู้จัก และไม่ได้กู้เงินแต่อย่างใดนางสาวก็จะแก้วจึงบอกให้ตนไปแจ้งความตอนก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เพื่อเป็นหลักฐานและแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้กู้เงินแต่อย่างใด


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Kdwzt6b9LU0

คุณอาจสนใจ

Related News