สังคม
บุกรวบ พนง.แบงก์เอี่ยวเปิดบัญชีม้า พบได้ของแบรนด์เนม-มื้ออาหารหรู เป็นค่าตอบแทน
8 ต.ค. 2568
525 views
ตร.สืบนครบาล รวบสาววัย 38 ปี อดีตพนักงานธนาคาร ได้ที่บ้านใน จ.ลำปาง เอี่ยวร่วมสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เปิดบัญชีม้า ได้ผลตอบแทนเป็นการไปทานร้านอาหารหรู กระเป๋าแบรนด์เนม เจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ ก่อนขยายผลออกหมายจับได้ 33 หมาย
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ลงพื้นที่ไปจับอดีตพนักงานธนาคาร อายุ 38 ปี ที่อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เมื่อวานนี้ ซึ่งถูกศาลออกหมายจับข้อหา กระทำความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนการกระทำฉ้อโกงประชาชน สนับสนุนโดยทุจริตหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ทีมข่าวสอบถาม พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจากกธนาคารได้มีการแจ้งมาที่สืบสวนสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ให้มาช่วยดู หลังพบว่าพนักงานธนาคารของตนเอง มีพิรุธ เพราะชอบจองเงิน และแจ้งว่าเดี๋ยวจะมีลูกค้ามาถอน โดยพบว่า 3 วัน มีการถอนไป 24 ล้านบาทจาก 4 บัญชี ซึ่งทั้ง 4 บัญชีพบว่าเป็นบัญชีม้า
โดยพนักงานธนาคารรายนี้ ไม่ได้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการเปิดบัญชี หรือรับฝาก-ถอนเงิน แต่อาศัยความอาวุโสที่ทำงานที่ธนาคารแห่งนี้มานาน (ประมาณ 8 ปี) จึงใช้ความเป็นพี่เป็นน้อง ขอให้พนักงานธนาคารคนอื่นช่วยเหลือ โดยมีพนักงานธนาคาร 2 คน ถูกไหว้วาน ซึ่งทั้ง 2 คนนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้
เบื้องต้นพนักงานธนาคารรายนี้ ยังไม่รับสารภาพ แต่เจ้าหน้าที่มีหลักฐาน ส่วนผลตอบแทนที่ได้รับ จะได้เป็นสิ่งของ กระเป๋าแบรนด์เนม หรือไม่ก็การพาไปกินอาหารร้านหรูๆ
ทั้งนี้พบว่าบัญชีม้า มาเปิดช่วงปลายเดือนกรกฎาคม แต่เริ่มมีการถอนเงิน ในวันที่ 4-6 ตุลาคม รวม 24 ล้านบาท
สำหรับตัวการใหญ่ ยังอยู่ระหว่างการขยายผลซึ่งขณะนี้มีการออกหมายจับแล้ว และเชื่อว่าเครือข่ายต่างชาติร่วมอยู่ด้วย
และจากการตรวจสอบขยายผล ยังทราบว่า อดีตพนักงานธนาคาร พบบัญชีที่เพิ่งเปิดใหม่ พัวพันและบัญชีม้านิติบุคคล และนำไปสู่การสืบสวน และขยายผลออกหมายจับได้ 33 หมาย รวมพนักงานธนาคารรายนี้ และจับกุมไปได้ 23 รายแล้ว ในหลายพื้นที่
พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า จากการสืบสวนติดตามกลุ่มผู้ต้องหาที่มีพฤติกรรมจดทะเบียนบริษัท และห้างหุ้นส่วนจำกัด เพื่อใช้ประกอบเปิดบัญชีธนาคารในนามนิติบุคคล สำหรับใช้เป็นช่องทางรับเงินจากเหยื่อ ซึ่งถูกหลอกในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การข่มขู่ หลอกลงทุน หรือหลอกผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยเมื่อมีเงินโอนเข้าบัญชี นิติบุคคลผู้ถือบัญชีจะทยอยถอนเงินจำนวนมากจากธนาคารในห้างสรรพสินค้า ก่อนที่บัญชีจะถูกอายัด
ผู้ต้องหากลุ่มนี้ จดทะเบียนนิติบุคคลผ่านระบบออนไลน์ในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียง 1 วัน ก่อนนำไปใช้เปิดบัญชีธนาคาร และมักจะทดสอบการทำงานของบัญชีด้วยการโอนเงินจำนวนน้อยไปยังบัญชีมูลนิธิ หรือองค์กรสาธารณกุศลที่อยู่ในกระแส เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ
เมื่อพบว่าบัญชีสามารถรับและโอนเงินได้ตามปกติ ก็จะใช้บัญชีเหล่านี้ รับเงินจากการหลอกลวงประชาชน
ข้อมูลในระบบรับแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (TPO) พบว่ามีคดีที่เกี่ยวข้องกับบัญชีนิติบุคคลทั่วประเทศรวม 291 เรื่อง มูลค่าความเสียหายกว่า 160 ล้านบาท โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครพบ 16 เรื่อง มูลค่าความเสียหายกว่า 39 ล้านบาท
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Ui2Z066P-Ww
แท็กที่เกี่ยวข้อง