สพฐ.สั่งถอดเนื้อหา "อดีตพระอลงกต" ออกจากแบบเรียน ป.5 หลังยกเป็นตัวอย่างทำความดี

สพฐ.สั่งถอดเนื้อหา ’อดีตพระอลงกต’ แบบอย่างบุคคลจิตสาธารณะด้านสังคม ออกจากตำราเรียน วิชาภาษาไทย ชั้นป.5 แล้ว



ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ กพฐ.กล่าวถึงกรณีหนังสือเรียนที่มีเนื้อหา ยกย่องอดีตพระอลงกต แห่งวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ได้เป็นตัวอย่างการกระทำความดีของบุคคลในประเทศด้านจิตอาสา ว่า สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ.ได้ตรวจสอบแบบเรียนเล่มนี้แล้ว พบว่า เป็นแบบเรียนเสริม ในกลุ่มวิชาภาษาไทย หนังสือภาษาพาที ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เนื้อหาการเรียนการสอน ในหมวดของบุคคลที่มีจิตสาธารณะ ซึ่งบรรจุในหลักสูตร ตั้งแต่ปี 2551 และที่ผ่านมา อดีตพระอลงกตได้รับดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV เป็นจำนวนมาก จึงถือเป็นบุคคลที่มีจิตสาธารณะที่ช่วยเหลือสังคม



แต่เมื่ออดีตพระอลงกตถูกจับกุมสอบสวนถึงการทำผิดวินัยสงฆ์และปิดบังประวัติตัวตนที่แท้จริง อีกทั้ง ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาฟอกเงิน ดังนั้นสพฐ.จึงได้สั่งถอดเนื้อหาในแบบเรียนดังกล่าวออกไปแล้ว และในการจัดพิมพ์แบบเรียนในปีการศึกษาหน้า ก็จะไม่มีเนื้อหาของอดีตพระอลงกต อยู่ในแบบเรียนเสริมวิชาภาษาไทยอีกต่อไป



ว่าที่ร้อยตรีธนุ เปิดเผยว่า ในระยะเร่งด่วน ปีการศึกษานี้ จะทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังสถานศึกษา ให้ครูตัดเนื้อหานี้ออกไป ไม่ต้องนำมาสอนนักเรียน เพราะไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ความเป็นจริงแล้ว ทั้งนี้ ยังมีบุคคลอื่นในแบบเรียนที่สามารถนำมาเป็นตัวอย่างได้ และเชื่อมั่นครูมีเทคนิคการสอนเด็กอยู่แล้ว



ด้าน ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า แบบเรียนต้องปลูกฝังคุณธรรมที่ถูกต้อง ไม่ให้เยาวชนสับสนกับต้นแบบที่ผิดพลาด ยืนยันว่า การพิมพ์ตำรา ปีการศึกษาหน้า จะไม่มีการปรากฏเนื้อหาดังกล่าวอีก



ส่วนโรงเรียนนาถะศาสตร์ ที่อยู่ในความอุปถัมภ์ของอดีตพระอลงกต คุณนฤมล กล่าวว่า ให้คณะกรรมการการศึกษาเอกชน หรือกช. ตรวจสอบแล้วพบว่า โรงเรียนนาถะศาสตร์เป็นโรงเรียนเอกชน ประเภทสามัญศึกษา มีมูลนิธิอาทรประชานาถ เป็นผู้รับใบอนุญาต ซึ่งไม่ได้เป็นโรงเรียนการกุศลของวัดในพระพุทธศาสนา โดยได้รับอุดหนุนตามอัตราของโรงเรียนทั่วไป 70% และมูลนิธิช่วยเหลือค่าใช้จ่ายของนักเรียนอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งถือเป็นโรงเรียนกินนอน ที่มีนักเรียนอยู่ประมาณ 120 คน และผู้เรียนไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายในการเรียนการสอน



ขณะนี้ศึกษาธิการจังหวัดลพบุรีอยู่ระหว่างเข้าไปตรวจสอบ ว่า โรงเรียนจะได้รับผลกระทบด้านค่าใช้จ่ายหรือไม่ หากมูลนิธิดังกล่าวถูกระงับการทำธุรกรรม โดยจะนำข้อมูลมาหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในวันที่ 3 กันยายนนี้ เพื่อวางแนวทางแก้ไขร่วมกับโรงเรียน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Pmc78vR-j-s