ผบ.ตร.อยากพบครอบครัว "น้องเมย" เคลียร์ปมคู่กรณีได้เลื่อนยศ พ่อ-แม่พร้อมมาก ลั่นอยากถามคนแบบนี้เหมาะเป็นตร.หรือ?

ผบ.ตร. อยากเจอครอบครัวน้องเมยเคลียร์ใจ ปมคู่กรณีได้เป็น "ตำรวจ" และยังได้เลื่อนยศ ยืนยันตอนเกิดเหตุเป็นช่วงที่อยู่ในความดูแลของกองบัญชาการกองทัพไทย แต่หลังจากนี้จะให้จเรตำรวจพิจารณาทางวินัย



หลังจากเมื่อวานนี้ (22ก.ค.68) นาย พิเชษฐ ตัญกาญจน์ พ่อของน้องเมย นาย ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่ถูกรุ่นปีนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 59 จำนวน 2 คน ธำรงวินัยภายในโรงเรียนเตรียมทหาร เป็นเหตุให้น้องเมยเสียชีวิตตั้งแต่ปี 2560 ได้ฝากคำถามถึง พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังได้ฟังคำพิพากษาว่า "คนที่มีพฤติกรรมแบบนี้จะเป็นตำรวจที่ดีได้ไหม และเข้ามารับราชการ เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งได้อย่างไรทั้งที่มีอาญาติดตัว"



วันนี้ ผบ.ตร.มีคำตอบแล้ว เรื่องแรก บิ๊กต่าย อยากพบพ่อและแม่ของน้องเมยเป็นการส่วนตัว เพื่อจะได้พูดคุยให้เข้าใจในการปฏิบัติของตำรวจ ประเด็นที่ 2 ขณะที่เกิดเหตุคู่กรณีของน้องเมย ไม่ได้อยู่ในสถานะตำรวจ ฉะนั้นแล้วตามกฎหมาย พ.ร.บ.ตำรวจปี 2565 การดำเนินการทางวินัยจะดำเนินได้เฉพาะกับผู้ที่อยู่ในสถานะตำรวจ ซึ่งขณะนั้นคู่กรณีถือว่าอยู่ภายใต้กองบัญชาการกองทัพไทย



ส่วนการพิจารณาทางวินัยตำรวจของคู่กรณี ได้สั่งให้จเรตำรวจแห่งชาตินำไปประกอบการพิจารณา เนื่องจากวินัยและอาญาจะสามารถเชื่อมกันได้ในข้อเท็จจริงบางส่วน ทางจเรตำรวจแห่งชาติจะต้องไปพิจารณาดูว่าจะดำเนินการได้ตามระเบียบคำสั่งขั้นตอนใดบ้าง ตอนนี้ขอเวลาให้จเรตำรวจแห่งชาติได้ไปพิจารณาก่อน



สำหรับคำถามที่ว่า คู่กรณีเคยมีพฤติกรรมที่นำไปสู่การเสียชีวิตของบุคคลหนึ่งและได้มารับราชการตำรวจ จะทำให้ประชาชนเคลือบแคลงใจหรือไม่ บิ๊กต่าย บอกว่า ในส่วนจริยธรรมมีการกำหนดเอาไว้เป็นหลักของตำรวจ จเรตำรวจแห่งชาติจะต้องเป็นผู้นำมาประกอบว่าประเด็นจริยธรรมดังกล่าวจะเข้าส่วนใดบ้างของทางวินัย และจะร้ายแรงและไม่ร้ายแรง ต้องพิจารณาจากข้อมูลที่รอบด้าน



กรณีที่ครอบครัวน้องเมยแจ้งความที่ สน.พญาไท ดำเนินคดีกับแพทย์ผู้ชันสูตรรายแรก กรณีที่ทำอวัยวะน้องเมยสูญหาย ได้มอบหมายให้จเรตำรวจแห่งชาติเข้าไปดูรายละเอียดเรื่องการแจ้งความด้วย



ขณะที่ นาย พิเชษฐ พ่อน้องเมย เมื่อได้ทราบว่า ผบ.ตร. ชี้แจงเรื่องการเข้ารับราชการและไม่ได้พิจารณาทางวินัย ก็สวนกลับว่า คู่กรณีเลือกเหล่ามาแล้วว่าเป็นเหล่าตำรวจ มันก็ชัดเจนอยู่แล้ว ดังนั้นอยากขอความเมตตา เพราะครอบครัวคาใจ เรื่องการเลื่อนยศของคู่กรณี เพราะมันขึ้นเร็วมาก จากร้อยตำรวจตรีเป็นร้อยตำรวจโท และที่ ผบ.ตร.อยากพุดคุยก็ยินดี เพราะตั้งใจไปถามว่า เมื่อมีเรื่องลักษณะนี้ คู่กรณียังสมควรที่จะเป็นตำรวจอยู่ หรือสมควรที่จะถอดเครื่องแบบ



ส่วนเรื่องแพทย์ผู้ชันสูตรคนแรก นำเอาอวัยวะของน้องเมยไป จนถึงตอนนี้ก็ยังอยากตามเรื่องต่อ ซึ่งทนายแจ้งว่า สอบถามไปล่าสุดรู้เพียงว่าตำรวจออกหมายเรียกแพทย์มาสอบปากคำแล้ว แต่แพทย์มาหรือยัง อันนี้ไม่รู้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/JlakmiuSH00