สังคม
ย้อนดูคลิป สว.ฉาว เอี่ยว 4 คดี นักข่าวเปิดใจเล่าคดีลักทรัพย์ผู้เสียชีวิตปี 64
9 ก.ค. 2568
76 views
ย้อนดูประวัติของ สว. ฉาว ล่วงละเมิดสาวคนนี้ พบว่า เมื่อปี 2564 เคยขโมยทรัพย์สินผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตที่เกิดอุบัติเหตุบนทางด่วนบูรพาวิถี แถมมีวงจรปิดมัดตัว ล่าสุดศาลนัดไต่สวนพยาน 6 สิงหาคมนี้
ย้อนกลับไปวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เวลาประมาณเที่ยงคืนเศษ เกิดอุบัติเหตุรถเบนซ์ รุ่น GLC 250 D สีขาว ทะเบียน 1 กผ 666 กรุงเทพ พลิกคว่ำบนทางด่วนบูรพาวิถี กิโลเมตรที่ 43 ขาเข้ากรุงเทพ อยู่ในพื้นที่ตำบลบางสมัคร อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา
ทำให้ นางสาว ปิยะดา วัฒนพลานนท์ อายุ 59 ปี คนขับ เสียชีวิต และ นางสาว พรอุมา บาดเจ็บสาหัส เพราะตัวกระเด็นออกมานอกรถ มีรายงานว่าเจ้าของรถ คือ นางสาว พรอุมา แต่วันเกิดเหตุเธอให้เพื่อนขับรถแทน และช่วงนั้นฝนตกถนนลื่น ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำ
จากนั้นมีรถบรรทุกเข้ามาจอดให้ความช่วยเหลือ แล้วมี ชาย 2 คนลงมาจากรถ แต่ไม่ได้แค่มาช่วย กลับขโมยทรัพย์สินของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตไปด้วย ซึ่งมีกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้
ทรัพย์สินที่ขโมยไปมี 7 รายการ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง / แว่นตาลินเบิร์ก มูลค่า 3 แสน / กระเป๋าสะพายยี่ห้อหลุยส์ วิตตอง / เงินสด 220,000 บาท / สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท / และพระเครื่องหลวงปู่ทวดเลี่ยมทอง 1 องค์ มูลค่า 1 ล้าน 2 แสนบาท มูลค่ารวมกว่า 1 ล้าน 5 แสนบาท
พันตำรวจเอก พงศ์สัณห์ มีศรี ผู้กำกับการ สภ.บางปะกง เปิดเผยว่า 1 ในคนร้ายที่ลงมาจากรถบรรทุกแล้วมาขโมยทรัพย์สิน คือ สว. ที่กำลังมีประเด็นคดีทางเพศอยู่ในขณะนี้ ขณะนั้นเจ้าตัวทำงานอาสากู้ภัยด้วย ซึ่งเจ้าตัวก็รับสารภาพกับตำรวจว่า "ทำจริง" และนำทรัพย์สินมาคืนให้ผู้เสียหายบางส่วน
คดีนี้พนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการตั้งแต่ปี 2564 ในข้อหา "ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ" และพนักงานอัยการได้ให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติมในหลายประเด็น คดีจึงยืดเยื้อมาเรื่อย จนผู้ต้องหาได้เป็น สว. ได้ขอเลื่อนการขึ้นศาลมาตลอด โดยอ้างสิทธิ์ติดภารกิจประชุมสภา กระทั่งล่าสุด ศาลจังหวัดฉะเชิงเทรามีหมายศาลนัดไต่สวนพยานในวันที่ 6 สิงหาคมที่จะถึงนี้
ขณะที่ผู้เสียหายเปิดใจกับทีมข่าวทางโทรศัพท์ว่า วันเกิดเหตุขาของเธอทั้งสองข้างได้รับบาดเจ็บไม่สามารถขยับหรือเคลื่อนย้ายไปไหนได้ ระหว่างนั้นก็มีชาย 2 คนขับรถบรรทุกมาจอดเลนส์ฝั่งตรงข้าม ซึ่งตอนแรกเธอก็คิดว่าเป็นพลเมืองดีที่จะลงมาคอยช่วย ปรากฏว่าไม่ใช่ ทั้งคู่มาหยิบเอาทรัพย์ต่างๆในรถไปทั้งหมดเลย ทั้งกระเป๋า มือถือ แล้วก็เดินกลับไปขึ้นรถ ไม่ได้ช่วยเหลือเธอและเพื่อนเลย ทำให้ตอนที่กู้ภัยมาถึงไม่สามารถยืนยันตัวตนของเธอได้ เพราะเอกสารส่วนตัวที่อยู่ในกระเป๋าโดนผู้ก่อเหตุขโมยไปแล้ว
ระหว่างเธอพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ก็ได้น้องชายและน้องสาวไปติดตามเอาทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปคืน จนตามไปทวงถึงบ้าน แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมคืนบ่ายเบี่ยงต่างๆ นานา สุดท้ายไปแจ้งความ ผู้ก่อเหตุจึงยอมรับสารภาพว่า เป็นคนขโมยทรัพย์สินไปและนำมาคืนแค่บางส่วน
เปิดใจผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา หลังไปทำข่าวในที่เกิดเหตุจนตกเป็นผู้ต้องสงสัยขโมยทรัพย์สินผู้ตายและผู้บาดเจ็บ โชคดีที่มีวงจรปิดมัดตัวคนร้ายตัวจริง
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา และเป็นแอดมินเพจคนข่าวบางปะกง ได้เล่าย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า หลังตนทราบได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมกับไลน์สดเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งวันนั้นยังไม่มีอะไรผิดปกติ กระทั่งทางญาติของผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บได้มาแจ้งกับทางตำรวจว่า มีทรัพย์สินสูญหายไปหลายรายการ มูลค่านับล้านบาท และคิดว่าทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ เป็นผู้นำทรัพย์สินไป ทำให้ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา และผู้สื่อข่าวที่ขึ้นไปทำข่าววันนั้นทั้งหมด มาสอบปากคำ พร้อมกับตรวจสอบภาพในวันเหตุการณ์ และภาพที่ไลฟ์สดทั้งหมด เพื่อดูว่ามีใครอยู่ในที่เกิดเหตุบ้าง และเจอทรัพย์สินอะไรบ้างในที่เกิดเหตุ
จากนั้นทางตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพวงจรปิดบริเวณบนทางด่วนบูรพาวิถีที่เกิดเหตุ จนพบช่วงเวลาที่รถเบนซ์ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ และมีคนกระเด็นออกมานอนนอกรถอยู่บนถนน ระหว่างนั้นมีรถเก๋งที่ขับตามหลังมาจอด จากนั้นมีผู้ชาย 2 คน เดินลงจากรถมาเดินดูที่เกิดเหตุโดยรอบ ก่อนจะก้มเก็บกระเป๋า และสิ่งของที่อยู่บนถนน โดยไม่ทราบว่าเป็นอะไรบ้าง
ก่อนจะมีรถคันอื่นๆ มาจอดดูที่เกิดเหตุ ซึ่งตอนนั้นผู้ชายทั้ง 2 คน ได้เดินไปพูดคุยกับคนที่จอดรถดูเหตุการณ์ แต่พูดคุยด้วยไม่นาน ก็รีบขึ้นรถของตัวเองขับออกไปจากที่เกิดเหตุ ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหา 2 คน โดยศาลฯ จะนัดสืบพยานวันที่ 6 ส.ค.นี้ ทางตำรวจจึงไม่สามารถให้ภาพเหล่านี้มาเผยแพร่ได้ เพราะทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนของศาล
แท็กที่เกี่ยวข้อง