สังคม

เปิดคำให้การแพทย์-พยาบาล คดี "ทักษิณ" นอนรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ

โดย panisa_p

4 ก.ค. 2568

337 views

วันนี้ (4 ก.ค. 68) ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนพยาน 5 ปาก คดี คุณทักษิณ นอนรักษาตัวชั้น 14 ทั้งแพทย์ พยาบาล และบุรุษพยาบาล หาสาเหตุทำไมส่งตัวโรงพยาบาลตำรวจ



การไต่สวนในวันนี้ คุณทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เดินทางมาด้วย แต่ส่งนาย วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวมาร่วมการฟังหารไต่สวนแทน โดยทนายวิญญัติ เดินทางมาถึงตั้งแต่ 9 โมงเช้า พร้อมนำประวัติการรักษาของคุณทักษิณที่ต่างประเทศ มายื่นต่อศาลด้วย เพื่อยืนยันว่า "ป่วยจริง" และแพทย์ที่ราชทัณฑ์ก็ได้เห็นประวัติการรักษาแล้ว แต่ขอไม่เปิดเผยต่อสาธารณะชน



จากนั้นนายสุรพงษ์ อินทรถาวร รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. มาพร้อมกับเอกสารใส่ในกระเป๋าลาก เพื่อเข้าชี้แจงต่อศาล แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว



สำหรับคดีนี้อัยการสูงสุด และป.ป.ช.เป็นโจทก์ยื่นห้องคุณทักษิณ เป็นจำเลย กรณีที่อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 ที่โรงพยาบาลตำรวจ หลังเดินทางกลับประเทศไทยในรอบ 15 ปี และเข้ารับทราบ 3 หมายจับ



วันนี้ศาลอนุญาตให้สื่อมวลชนและบุคคลที่ได้รับอนุญาต เข้าร่วมรับฟังการไต่สวนได้ ทำให้นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าร่วมฟังการไต่สวนด้วย



ก่อนเริ่มการไต่สวนหมอวรงค์ บอกว่า เพิ่งได้รับข้อมูลมาเมื่อ 2 วันก่อนว่า เมื่อช่วงเดือนมีนาคมมีกระบวนการแทรงแซงกระบวนการยุติธรรม อาจจะทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหาย ขณะนี้มีการตรวจสอบเรื่องนี้กันอยู่ พร้อมย้ำว่า "ทุกคนส่วนใหญ่ ทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง แต่มีคนแค่ไม่กี่คนทำให้กระบวนการยุติธรรมเสียหาย โดยเฉพาะบางคนที่มีความสัมพันธ์กับนักการเมือง"



ขณะที่นายชาญชัย ตั้งข้อสังเกตเรื่องใบเสร็จการรักษาพยาบาลของคุณทักษิณ ว่าทำไมมีแต่ค่าห้อง ไม่มีค่ายา ทั้งที่อ้างว่าป่วยหนัก ซึ่งก่อนหน้านี้ทนายความของคุณทักษิณ ไม่ได้ส่งรายละเอียดใบเสร็จ และเวชระเบียนให้หน่วยงานใดทั้งสิ้น อ้างว่า เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นความลับของคนไข้ ทำให้ศาลต้องเรียกโรงพยาบาลมาชี้แจงแทน ถ้าโรงพยาบาลไม่ให้ ก็โดนข้อหาละเมิดอำนาจศาล



การไต่สวนในวันนี้สอบปากคำพยานทั้งหมด 5 ปาก พยานคนที่ 1 คือ แพทย์หญิง ตำแหน่ง นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เป็นแพทย์ผู้ตรวจร่างกาย และออกใบส่งตัวของคุณทักษิณเพื่อให้เดินทางไปรักษาตัวนอกโรงพยาบาลราชทัณฑ์ในวันและเวลาราชการ โดยใช้เวลาซักถามราว 1 ชั่วโมง 10 นาที ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แพทย์หญิงมีท่าทีค่อนข้างนิ่ง ตอบข้อซักถามของศาลอย่างคล่องแคล่ว ฉะฉาน มีความมั่นใจ



ส่วนเนื้อหาการให้ปากคำ หลักๆ เกี่ยวกับขั้นตอนการรับตัว ตรวจร่างกาย การตรวจเอกสารประวัติการรักษาจากต่างประเทศ ทำเวชระเบียน และทำใบส่งตัวล่วงหน้า เนื่องจากคุณทักษิณอยู่ในกลุ่ม 608 หรือผู้สูงอายุที่มีอาการป่วย และบางโรคจากข้อมูลการรักษาเดิม เกินกว่าศักยภาพที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์จะสามารถรักษาได้ พร้อมแนบหลักฐานการทำใบส่งตัวล่วงหน้าของผู้ต้องขังอื่นมาด้วย



พร้อมระบุว่าในคืนวันที่ส่งตัวคุณทักษิณ พยาบาลเวรติดต่อเพื่อขออนุญาตแพทย์หญิงใช้ใบส่งตัวที่เตรียมไว้ เพื่อส่งตัวคุณทักษิณออกนอกเรือนจำ เนื่องจากอาการกำเริบ และแพทย์เวรมีความเห็นว่า ไม่ควรรอสังเกตอาการ เนื่องจากมีภาวะเสี่ยงต่อโรคประจำตัวโรคหนึ่ง ซึ่งอาการของโรคนี้ทางโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มียารักษาโดยเฉพาะ แพทย์หญิงจึงอนุญาตให้ใช้ใบส่งตัว แต่ไม่ได้ระบุโรงพยาบาล



พยานคนที่ 2 ที่ขึ้นไต่สวน คือ แพทย์เวร ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เข้าเวร 16.30 น. ถึง 08.30 น. ในการตอบข้อซักถามของศาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีท่าทางค่อนข้างดูกังวล บางครั้งตอบไม่ตรงคำถาม บางครั้งก็สับสนคำถามของศาล



ข้อมูลที่ศาลซักเกี่ยวกับอาการป่วยของคุณทักษิณในขณะนั้น แพทย์เวร ได้ชี้แจงว่า พยาบาลเวรเข้ามาแจ้งว่า คุณทักษิณความดันสูง อ่อนเพลีย อ่อนแรง และพยาบาลได้รายงานประวัติการรักษาเก่า จึงวินิจฉัยว่าอาจเกิดภาวะฉุกเฉินจากโรคประจำตัว จึงแนะนำว่าไม่ควรรอสังเกตอาการ และให้ส่งตัวทันที เพราะโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีศักยภาพในการรักษาทั้งอุปกรณ์ และยา



พยานคนที่ 3 เป็น บุรุษพยาบาลในสถานพยาบาลของเรือนจำ ปัจจุบันย้ายไปทำงานที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสุโขทัย เป็นคนนำตัวคุณทักษิณ ส่งโรงพยาบาลตำรวจ ใช้เวลาซักถามราว 1 ชั่วโมง ทีแรกก็ตอบด้วยน้ำเสียงปกติ แต่พอโดนศาลซักมากขึ้นเริ่มมีอาการเสียงสั่นในบางจังหวะ



บุรุษพยาบาล เล่าว่า ทำงานแบบลากยาว 24 ชั่วโมง มีหน้าที่ตรวจอาการของคุณทักษิณทุก 4 ชั่วโมง คือ ตอนเที่ยง 4 โมงเย็น 6 โมงเย็น และ 4 ทุ่ม ซึ่งตอนที่คุณทักษิณอาการกำเริบคือ 4 ทุ่ม ตอนนั้นไม่มียาประจำตัวมาด้วย และพยาบาลแจ้งว่าปรึกษาแพทย์หญิงและแพทย์เวรแล้ว ให้ส่งรักษาโรงพยาบาลภายนอก จึงประสานไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยใช้เวลาดำเนินการราว 2 ชั่วโมง ระหว่างนั้นให้ออกซิเจนกับคุณทักษิณไปด้วย แต่ตอนเดินทางไปโรงพยาบาลตำรวจใช้เวลาเพียง 20 นาที



ตอนที่ไปถึงโรงพยาบาลบุรุษพยาบาลคนนี้ เป็นคนส่งเอกสารที่เวชระเบียน ส่วนตัวคุณทักษิณ มีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตำรวจมารับตัวขึ้นรถเข็นไป จากนั้นเจ้าหน้าที่แจ้งว่าให้เอาเอกสารไปส่งที่ชั้น 14 ซึ่งเป็นห้องพักผู้ป่วย และไม่ได้เจอคุณทักษิณอีก แต่เขาก็มาติดตามอาการป่วยผ่านเอกสารของแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ที่ส่งผู้คุมเรือนจำพิเศษกรุงเทพทุก 30 วัน จนครบ 120 วัน



ส่วนสาเหตุที่ไม่ส่งตัวไปโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทั้งที่อยู่ใกล้กว่า ได้ตอบเหมือนกับพยาน 2 คน แรก คือ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ที่ไม่มียาในการรักษา ส่วนอาการความดันสูง สถานพยาบาลมียาแต่ไม่สามารถจ่ายได้เนื่องจากต้องผ่านการอนุญาตจากแพทย์



ส่วนพยานคนที่ 4 และ 5 เป็นพยาบาลวิชาชีพประจำทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทำหน้าที่ตรวจร่างกายคุณทักษิณ แต่ไม่ได้เข้าไปในห้องตรวจ เพราะแพทย์บอกให้รอหน้าห้อง จึงสอบปากคำทั้งคู่แค่ 5 นาที



นอกจากนี้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ยื่นคำชี้แจง 307 แผ่น แพทยสภาส่งมติที่ประชุม 113 หน้า และผลตรวจสอบแพทย์ 1,190 หน้า สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน 20 แผ่น คุณทักษิณยื่นคำชี้แจง 55 แผ่น  ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพยื่นเอกสารเบิกค่าเวร 77 แผ่น ทนายคุณทักษิณส่งประวัติการรักษาไว้พิจารณา แพทย์โรงพยาบาลตำรวจส่งหลักฐานค่าใช้จ่ายของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ และค่ารักษาพยาบาลของคุณทักษิณไว้ให้ศาลพิจารณาด้วย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/mu4KG-AZnYM

แท็กที่เกี่ยวข้อง  ทักษิณชินวัตร

คุณอาจสนใจ

Related News