สังคม
นายกฯแจงคลิปหลุดคุย "ฮุนเซน" เป็นเทคนิคเจรจา ปัดพูดแม่ทัพภาค 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม ซัดอีกฝ่ายหวังแต่สร้างความนิยม
18 มิ.ย. 2568
73 views
ล่าสุด นายกฯ แถลงชี้แจงแล้ว ยอมรับว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมา เป็นของจริง และเล่าถึงบทสนทนาเต็มๆ ในวันนั้นว่าได้พูดคุยอะไรบ้าง ก็สวนกลับดุเดือด สมเด็จ ฮุนเซน ที่นำคลิปการพูดคุยส่วนตัวมาเปิดเผย เพื่อคะแนนนิยมของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะเป็นอย่างไร และบอกจากนี้คงไม่มีการพูดคุยส่วนตัวกับผู้นำกัมพูชาแล้ว เพราะมีปัญหาเรื่องความไว้ใจ // ส่วนประเด็นที่มีการพูดถึง แม่ทัพภาคที่ 2 ก็บอกว่า เป็นเทคนิคในการเจรจาต่อรอง แต่ยืนยันว่าไม่มีประโยค ที่บอกว่าแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม
หลังจากมีคลิปเสียงเผยแพร่ออกมา คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงด่วน ก่อนเข้าประชุมคณะกรรมการคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่ 3/2568 ที่ตึกภักดีบดินทร์
ยอมรับว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมา เป็นคลิปจริง ซึ่งมีการพูดคุยกับ สมเด็จ ฮุนเซน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และก็ไล่เรียงเนื้อหาบทสนทนาในวันนั้น ก็เล่าว่า ตนทราบข้อมูลจากคนที่แปล เป็นล่าม ว่า สมเด็จ ฮุนเซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ที่มีคลิปไปพูดบรรยาย และมีถ้อยคำดุดันก่อนหน้านี้
นายกฯ ก็บอกว่าได้พยายามอธิบาย ว่า "เมื่อเรา หมายถึง ไทยกับกัมพูชา เป็นฝั่งตรงข้ามกัน ปะทะกัน ตอนนั้นท่านแม่ทัพภาคที่ 2 ก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปถือสาเลย อย่าไปคิดเลย คือ พยายามทำความเข้าใจ เพราะทราบว่าเขาโกรธเรื่องนี้ เป็นเทคนิคการพูดคุยโทรศัพท์กันแบบ "Privat Conversation" ซึ่งไม่ควรนำมาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาต่อรอง โดยมีจุดมุ่งหมายรักษาความสงบของบ้านเมือง อธิปไตยของเราไว้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาตอและประชาชน จึงพูดคุยด้วยความซอฟต์ นุ่มนวล และเวลาคุยกันส่วนตัว ก็เหมือนการคุยกับ คนในครม. เพราะทำงานมาตั้งแต่ รุ่นคุณพ่อ จึงเรียกอา เรียกลุงเป็นเรื่องปกติ"
แน่นอน นักข่าวพยายามประเด็นในคลิปเสียง ที่พาดพิงถึงแม่ทัพภาคที่ 2 มีการพูดในลักษณะว่าแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ใช่พวกเรา เป็นเทคนิคในการสนทนาของนายกฯใช่หรือไม่ นายกฯ รีบปฏิเสธทันทีว่า หมายถึงเรากับกัมพูชา เราเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว การที่จะมาคุยกันเราก็พูดถึงกันไม่ดีอยู่แล้ว แต่ก็บอกไปว่า จริงๆแล้วถ้าฟังทั้งหมดก็ไม่ได้มีอะไร แต่เป็นการตัดประโยคตรงนั้นออกไป
บอกประมาณว่านายกพูดว่าอยู่ตรงข้ามกับแม่ทัพภาคที่2 จำเป็นจะต้องมีการทำความเข้าใจกับ แม่ทัพภาคที่ 2 และกองทัพหรือไม่ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ นายกฯ ย้ำว่า ถ้าตน เป็นฝ่ายตรงข้ามกับกองทัพจริงๆ เหตุใดตนจึงต้องบอกว่ารอปรึกษากองทัพว่าคิดอย่างไร (หมายถึงเรื่องการเปิดด่านที่สมเด็จฮุนเซน มีข้อเสนอถึงไทย) ถ้าตรงข้ามก็ไม่ต้องรอ แต่นี่ไม่ใช่
อีกประเด็นที่นักข่าวพยายาม คือความสัมพันธ์ ระหว่างตระกูลชินวัตรและตระกูลฮุน สิ้นสุดลงแล้วใช่ไหม นายกฯ บอก "ไม่ทราบว่ายังไง แต่ตนไม่ขอคุยส่วนตัวแล้ว เพราะมีปัญหาเรื่องของความไว้ใจ"
ก็เล่าย้อน 1 ในบทสนทนา เรื่องด่านชายแดน ที่ "สมเด็จ ฮุนเซน" มีข้อเสนอเรื่องการเปิดด่าน ตนก็ตอบไปว่า ได้เลย และเสนอว่าเปิดพร้อมกันไหมเพื่อสันติภาพ แต่ท่านฮุน เซน ไม่ยอม และยื่นเงื่อนไขให้ไทยเปิดก่อน รอ 5 ชั่วโมงแล้วกัมพูชาจะเปิดตาม เขาเป็นลูกผู้ชาย คำไหนคำนั้นอยู่แล้ว
นายกฯ ก็บอกให้คำตอบไปพรุ่งนี้ เพราะต้องปรึกษาฝ่ายความมั่นคงก่อน ที่นัดพูดคุยกันที่บ้านพิษณุโลก แต่การประชุมยังไม่ทันเริ่ม ก็มีเฟซบุ๊กจากสมเด็จ ฮุนเซน ประกาศว่า หากไทยไม่เปิดด่านภายใน 24 ชั่วโมง กัมพูชาจะปิดด่านทั้งหมด
"ตนจึงรู้สึกว่า อ้าว ทำไมไม่เหมือนที่พูดคุยกันไว้ ทั้งที่พยายามพูดคุยด้วยความใจเย็น เพื่ออยากทราบว่าเขาต้องการอะไร คุยกันอย่างไรให้เกิดต่อรอง เกิดสันติ ไม่เสียดเสียดเสียเนื้อกัน"
แต่ตอนนี้ชัดเจนแล้ว ว่า "ความต้องการของท่านจริงๆแล้ว คือต้องการคะแนนนิยมในประเทศของท่านเอง โดยไม่สนใจว่าจะเกิดควาสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร
การที่ท่านต้องการจะมี Popularity ในประเทศของท่าน เพราะท่านก็เคยบอกดิฉันว่า popularity เริ่มตก อาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อยากจะเรียกพลังตรงนี้ ดิฉันก็หวังว่าท่านจะได้คะแนนความนิยมเพิ่ม และอยู่ในสายตาของโลกที่จับตามองอยู่ว่า เมื่อผู้นำสองท่านคุยกัน ส่วนตัว แต่มีการอัดคลิปและปล่อยออกมาแบบนี้ แน่นอนว่าดิฉันไม่ได้ปล่อย ก็ตามนั้นค่ะจะได้เข้าใจจุดประสงค์ ว่าจริงๆแล้วเราต้องการเจรจาให้เกิดสันติภาพ ก็ไม่ทราบว่าจะเป็นหนึ่งในการทำให้ Popularity ของท่านเพิ่มขึ้นก็ไม่เป็นไร ก็ตามนั้นค่ะ"
เมื่อถามว่า มีรายงานว่าจะมีการปล่อยคลิปเต็มออกมาจะมีปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ โดยเฉพาะ ความมั่นคง เพราะเหมือนกับว่าถูกยุยง ให้รบกันเองภายในประเทศ นายกฯ บอกว่า "ใช่ค่ะ ที่ไม่อยากให้คนไทยไปหลงกลตรงนี้ เพราะนี่ก็เป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง ที่ทำให้เข้าใจว่าเราทะเลาะกันเอง
นายกฯก็ บอกว่า "ประโยคสนทนาแบบนี้ ไม่ควรจะออกมาแบบนี้ ยิ่งเป็นผู้นำ ระดับประเทศ ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับอดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่อายุ 32 ปี และเป็นพ่อของนายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน"
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/wh47I6xYbpM
แท็กที่เกี่ยวข้อง