ได้ประกันตัวแล้ว "อดีตพระพรหมเมธี" หลังยื่น 4 แสนบาท สู้คดีเงินทอนวัด

ยื่น 4 แสนประกัน "อดีตพระพรหมเมธี" มอบตัวสู้คดีเงินทอนวัด



พระจำนงค์ ธัมมจารี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม 1 ในพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ถูกออกหมายจับในคดีเงินทอนวัด ตั้งแต่ปี 2561 แต่ได้หลบหนีและขอลี้ภัยไปอยู่ที่ประเทศเยอรมนี ล่าสุดยอมเดินทางกลับมาสู้คดีที่ไทยแล้ว



เพจเฟซบุ๊ก "The Buddh" (เดอะ-บุด) ซึ่งเป็นเพจที่อัปเดทข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวงการสงฆ์ ได้เปิดเผยภาพ พระจำนงค์ ธัมมจารี หรือ อดีตพระพรหมเมธี อายุ 84 ปี อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม และอดีตกรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีเงินทอนวัดเมื่อปี 2561ในความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มาตรา 157 เพจโพสต์ภาพขณะอดีตพระพรหมเมธีอยู่บนเครื่องบิน และนั่งรถเข็นลงจากเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยมี นาย อินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เดินทางมาถวายการต้อนรับ




และเมื่อวานนี้ ทางเพจได้โพสต์ภาพ อดีตพระพรหมเมธี ก่อนจะขึ้นเครื่องบินจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี กลับมายังประเทศไทย โดยมีบรรดาศิษย์ยานุศิษย์เดินทางมาส่งขึ้นเครื่องบิน




มีรายงานว่าอดีตพระพรหมเมธี ได้เดินทางจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ในเวลาบ่าย 2 โมงวานนี้ตามเวลาในประเทศเยอรมนี และบินถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ช่วงเช้าวันนี้ (5มิ.ย.68) ราว 6 โมงครึ่ง ซึ่งการเดินทางกลับมาประเทศไทยครั้งนี้ เพราะอดีตพระพรหมเมธีต้องการจะเข้าสู่กระบวนการต่อสู้คดีตามกฎหมาย หลังจากเดินทางถึงประเทศไทย จึงได้ติดต่อเข้ามอบตัวที่ กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป.




โดยระหว่างที่สอบปากคำก็มีพระสงฆ์ 2-3 รูป เดินทางมาให้กำลังใจด้วย แต่ไม่ได้ให้สัมภาษณ์อะไร มีเพียงพยักหน้ารับว่า มาเยี่ยมอดีตพระพรหมเมธี เท่านั้น




การสอบปากคำใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง ก่อนที่ช่วงบ่าย 2 โมง มีพระสงฆ์จำนวนหนึ่งนั่งมาในรถตู้ประมาณ 4-5 คัน มาจอดที่หน้าอาคารกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแล้วขึ้นไปบนอาคาร จากนั้นราวบ่าย 2 โมงครึ่ง มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนให้ประกันตัวอดีตพระพรหมเมธี ในวงเงิน 4 แสนบาท โดยไม่กำหนดเงื่อนไข หลังทำเรื่องประกันตัวแล้วอดีตพระพรหมเมธีลงลิฟต์จากห้องสอบสวนมาขึ้นรถตู้สีเทาที่ชั้นใต้ดิน พร้อมกับผู้ติดตาม แล้วออกรถไปทันที




สำหรับคดีของอดีตพระพรหมเมธี ถูกกล่าวหาว่า ในปี 2557 ช่วงที่เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม นาย นพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติในขณะนั้น ได้เซ็นเช็คอนุมัติงบประมาณ 5 ล้านบาท มอบให้ นาย บุญเลิศ โสภา ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนศึกษา แล้วส่งเข้าบัญชีวัดสัมพันธวงศาราม เพื่อจัดทำโครงการโรงเรียนพระปริยัติธรรม ในช่วงที่ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กำลังอาพาธ ทำให้อดีตพระพรหมเมธี เป็นผู้บริหารจัดการภายในวัดชั่วคราว แต่กลายเป็นว่าเงินจำนวนนั้นเข้าบัญชีส่วนตัวของอดีตพระพรหมเมธี โดยที่ไม่ได้นำไปใช้จัดทำโครงการโรงเรียนพระปริยัติธรรม แล้วต่อมาก็โยกเงินจำนวน 3 ล้าน 5 แสนบาท ไปเข้าบัญชีที่ 2 ของอดีตพระพรหมเมธีอีกด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/hQBNZQvzh1s