สังคม

ฝ่ายค้าน ซัดยับ นายกฯ บกพร่องภาวะผู้นำ ไม่โต้กัมพูชา แต่มาปะทะคารมนักข่าว

โดย panwilai_c

4 มิ.ย. 2568

246 views

"ช่อ" จี้ "นายกรัฐมนตรี" ปรับปรุงตัว ซัดไร้เดียงสาทางการเมือง ย้ำเราไม่ได้ท้าตีท้าต่อย แต่รัฐบาลต้องเอาให้ชัดจะทำอย่างไร เหตุ "นายกฯ-พ่อนายกฯเขมร" ออกมาโจมตีไทยตลอดทุกวัน อัด แทนที่จะตอบโต้กัมพูชา กลับตอบโต้นักข่าว



น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ถึง การแก้ปัญหาของรัฐบาลกรณีชายแดนไทยกัมพูชา ว่า อย่างน้อยที่สุดวันนี้ ต้องชมรัฐบาล โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมที่บอกว่าจะไม่มีการนำเรื่องนี้ขึ้นสู่ศาลโลก ตนเห็นด้วยว่าอย่างไร กลไกทวิภาคีระหว่าง 2 ประเทศจะเป็นกลไกที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ในการคลี่คลายความขัดแย้งทางชายแดน ที่ไม่จำเป็นต้องไปขึ้นศาลโลก



ทั้งนี้ เรื่องที่รัฐบาลยังทำไม่พอ มีเยอะประเด็นแรก สำคัญที่สุด คือ ภาวะผู้นำ สถานการณ์ในวันนี้ค่อนข้างวิกฤติ ประเทศจำเป็นจะต้องตอบโต้กับกัมพูชา ซึ่งตนไม่ได้เห็นด้วยแน่ๆ กับการให้รบกัน



แต่ต้องยอมรับว่านายกรัฐมนตรีมีวุฒิภาวะและภาวะผู้นำพร่องไป หลายวันที่ผ่านมาเราเห็นทั้งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและพ่อของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาด้วย และเป็นประธานองคมนตรีด้วย ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญ ออกมาโจมตีไทยตลอดทุกวัน แต่ในระดับการตอบโต้ของประเทศไทย เราจะเห็น เพียงแต่นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่มีการแถลง และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม



ส่วนวันนี้ที่นายกรัฐมนตรีเลือกที่จะพูด ก็กลายเป็นว่าประเด็นที่ได้รับความสนใจกลับเป็นประเด็นที่นายกรัฐมนตรีไม่พอใจนักข่าว ที่ไปสอบถามในประเด็นที่ทุกคนอยากรู้ว่านายกจะตอบอย่างไร ถึงท่าที จุดยืนของไทยอ่อนไปหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องนี้ ที่ประเทศชาติอยู่ในสภาวะวิกฤติทางชายแดนแบบนี้



"เราต้องการภาวะผู้นำจากนายกรัฐมนตรี นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด แต่สิ่งที่เราได้รับในวันนี้ ต้องขอให้นายกรัฐมนตรี ปรับปรุงจริง ๆ เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ ถ้าทางกัมพูชาตอบโต้กลับมาโดยการใช้นายกรัฐมนตรี หรือพ่อของนายกรัฐมนตรี อย่างน้อยที่สุดทางการไทย ก็ต้องให้นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ตอบโต้เพื่อท้าตีท้าต่อย แต่มีหลากหลายวิธีที่จะยืนยันในจุดยืน และเกียรติภูมิของประเทศของเรา โดยผู้นำของเราเอง"



ส่วนที่มีความพยายามเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างนายฮุนเซน กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเป็นผลดีหรือผลเสียกับเรา น.ส. พรรณิการ์ กล่าวว่า เมื่อฟังคำพูดของนายกรัฐมนตรีในวันนี้เป็นคำพูดที่น่าตกใจ ที่ยอมรับว่าผู้นำไทยกับกัมพูชา เป็นเพื่อนกัน คำนี้ถ้าพูดกันในภาวะปกติไม่แปลก ผู้นำประเทศในไหนก็เป็นเพื่อนกันได้อยู่แล้ว เพียงแต่การพูดในสถานการณ์แบบนี้ นายกรัฐมนตรีอาจจะขาดความเข้าใจ สถานการณ์ทางการเมืองภายในกัมพูชา



"เพราะฉะนั้นคำพูดของนายกรัฐมนตรีในวันนี้ดิฉันจึงถือว่า เบาที่สุด คือนายกรัฐมนตรีขาดความเข้าใจอย่างหนัก และคิดว่าอาจจะไร้เดียงสาทางการเมืองเกินไป ในการที่พูดประโยคนี้ออกมา"



นอกจากนี้ คุณช่อ ยังเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาหามาตรการควบคู่กับกลไกการประชุม JBC ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิ.ย. เพราะเชื่อว่ากลไก JBC ซึ่งเป็นกลไกปกติ อาจไม่เพียงพอ ในการคลี่คลายสถานการณ์วิกฤติในรอบนี้ เพราะทางฝั่งกัมพูชาทั้งนายฮุน มาเนต , นายฮุน เซน ดูแล้วโหมกระพือหนัก คิดว่าเป็นไปได้ยากที่จะยอมลงให้กันในJBC



ซึ่งมีหลากหลายวิธีที่ไม่ใช่การแสดงออกทางการทูต เช่น ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปอยเปต เป็นการแสดงท่าที ที่เราตอบโต้อย่างรักษาเกียรติภูมิของประเทศ และไม่ได้เป็นอันธพาล ไม่ได้เป็นการท้าตีท้าต่อย



ส่วนที่มีหลายคนเป็นห่วงว่าครั้งนี้ไทยอาจจะเสียดินแดนไปอีก เหมือนเช่นครั้งเขาพระวิหาร น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อว่าเราจะเสียดินแดน เรื่องนี้ไม่ว่าอย่างไร ก็จะสามารถคลี่คลายไปได้ แต่สิ่งที่อยากให้ระวังคือกระแสชาตินิยมเข้มข้น

ชาตินิยมสุดโต่งกันในช่วงนี้ ด้วยการกระตุ้นความยั่วยุ จากประเทศข้าง ๆ ซึ่งก็เห็นกันอยู่ว่ามีความพยายามยั่วยุปลุกปั่นเพื่อคะแนนนิยม ภายในประเทศของเขาจริงๆ ตนอยากจะเตือนประชาชนคนไทยว่าอย่าไปเข้าทางเขา เรื่องการเสียดินแดนไม่เสียหรอก เราจะสามารถพูดคุยเจรจา และใช้มาตรการตอบโต้ อื่น ๆ ที่ไม่ใช่การสู้รบ ในการจัดการปัญหานี้ได้ เพียงแต่ขอให้รัฐบาล มีท่าทีที่ชัดเจน และเข้มแข็งกว่านี้ในการตอบโต้กับกัมพูชาที่มีน้ำหนักเสมอกัน



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/PivEhO6KfJ8

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ