สังคม
ศาลยกฟ้อง "สว.อุปกิต" คดีฟอกเงิน-ยาเสพติด ลั่นเตรียมฟ้องกลับ "โรม" หลังคดีถึงที่สุด
28 พ.ค. 2568
52 views
วันนี้ศาลชั้นต้นพิพากษา "ยกฟ้อง" สว.อุปกิตทุกข้อหาทั้งคดียาเสพติด / ฟอกเงิน / อาชญากรข้ามชาติ ชี้พยานหลักฐานไม่ชัด
วันนี้ (28 พ.ค.) นาย อุปกิต ปาจารียางกูร อดีตสมาชิกวุฒิสภา เดินทางมาพร้อมทนายความ เพื่อฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ในคดีที่อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง นาย อุปกิตใน 6 ข้อหา คือ 1.เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด
2.ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (เคตามีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต
3.เป็นสมาชิกวุฒิสภาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปกระทำความผิดฐานฟอกเงิน
4.เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันฟอกเงิน
5.เป็นสมาชิกวุฒิสภาร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรข้ามชาติโดยสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป กระทำผิดร้ายแรง
6. มีส่วนร่วมไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมในกิจกรรมขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
จากคดีที่ นาย อุปกิต ถูกกล่าวหาว่ามีพฤติการณ์พัวพันกับขบวนการยาเสพติด และการฟอกเงินกับนาย ทุนมินลัต ชาวเมียนมา ที่ถูกตำรวจไทยจับเพราะเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติด และฟอกเงิน เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2565 // ซึ่งนาย อุปกิต ใช้หลักทรัพย์ 10 ล้านบาท ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดี
ศาลใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่ง อ่านคำพิพากษา ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายอุปกิต ว่าไม่ได้กระทำผิดฐานร่วมสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน มีส่วนร่วมกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ สนับสนุนหรือช่วยเหลือ หรือสมคบกันกระทำผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์ไม่ปรากฎว่านายอุปกิต มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวในการสมคบกันเพื่อค้ายาเสพติด
สามารถแบ่งได้ 5 ประเด็น คือ ไม่พบว่า จำเลย ใช้ให้โอนเงินจากบัญชีที่ถูกตรวจสอบคดียาเสพติด ไปชำระค่าไฟฟ้า ไม่ปรากฏพยานหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้ใช้บัญชีดังกล่าว จำเลยไม่รู้ว่าบริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศจะใช้บัญชีใดในการโอนเงินไปชำระให้กับการไฟฟ้าแม่สาย แชทสนทนา พูดคุยกันระหว่างจำเลย และนายทุนมินลัต เป็นเพียงการพูดคุยปรึกษาหารือกันเรื่องการชำระค่าไฟฟ้า และการกระเซ้าเย้าแหย่กัน ไม่มีการพูดคุยเรื่องยาเสพติด และข้อเท็จจริงยังรับ ฟังไม่ได้ว่าจำเลยสมคบกับคนในประเทศและต่างประเทศในการร่วมกันฟอกเงินหรือสมคบค้ายาเสพติดและไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ จึงพิพากษา "ยกฟ้อง"
หลังฟังคำพิพากษานาย อุปกิต บอกว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ทุกข์ทรมานใจมาตลอดที่ถูกกล่าวหาในสิ่งที่ไม่ได้ทำผิด การอภิปรายของนาย รังสิมันต์ นำพยานหลักฐานเท็จทั้งหมดมาพูด และขอมอบตำแหน่งและคำกล่าวที่กล่าวหาว่าเป็น "สว.ทรงเอ" คืนให้นาย รังสิมันต์ และพรรคประชาชน ซึ่งคำพิพากษาออกมาแบบนี้ต้องดูว่าอัยการจะอุทรณ์คำร้องหรือไม่ เมื่อไหร่ที่คดีถึงที่สุดแล้วจะขอใช้สิทธิ์ทางกฎหมายยื่นฟ้องกลับ เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมคืนมา
เมื่อถามว่าความสัมพันธ์กับนาย ทุน มิน ลัด นาย อุปกิต บอกว่า รู้จักกันมานานกว่า 20 ปีแล้ว สมัยพ่อของนายทุน มิน ลัด เป็นอธิบดีท่องเที่ยว ได้คำปรึกษาเกี่ยวกับการทำธุรกิจในประเทศเมียนมา และหลังจากเกิดเรื่องก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกแล้ว แต่ส่วนตัวเชื่อว่านายทุน มิน ลัดเป็นผู้บริสุทธิ์ในคดีนี้ด้วย
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/hLkIQbR_bmw
แท็กที่เกี่ยวข้อง