สังคม
"สหัสวัต" ซัด ฟังไม่ขึ้น! โอนรถ สปส.ถึงมือที่สาม ถามไม่ใช้แล้วทำไมไม่ขาย
26 พ.ค. 2568
91 views
จากกรณีที่ นายสหัสวัส คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน เปิดข้อมูลเรื่องการโอนรถยนต์ของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสกลนคร ไปให้ วัด และอีก 6 เดือนต่อมา วัดโอนให้ผู้หญิงคนหนึ่ง ล่าสุดทีมข่าวเรื่องเด่นเย็นนี้ โทรศัพท์คุยกับผู้หญิงคนนี้ ยอมรับว่า รับโอนรถจากวัดจริง แต่เป็นการโอนเพื่อใช้ประโยชน์ในสถานศึกษา เพราะ ผู้หญิงคนนี้ เป็น ผู้อำนวยการวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง
นี่คือสภาพรถคันที่โอนจากสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสกลนคร ไปให้วัดสระแก้ว (อยู่ในพื้นที่ จ.สกลนคร) และถูกโอนต่อไปให้ ผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้อำนวยการวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง
ผู้หญิงคนนี้เปิดใจบอกว่า รถคันดังกล่าว ไม่ใช่รถหรู ตามที่มีการนำเสนอ แต่เป็นรถ Ford 4 ประตู ซึ่งเป็นรถที่ปลดประจำการของสำนักงานประกันสังคมแล้ว ซึ่งตามภาพ เป็นภาพระหว่างที่นักศึกษาของวิทยาลัย กำลังซ่อมรถคันนี้
ผู้หญิงคนนี้ ยังส่งภาพบิลค่าซ่อมรถคันดังกล่าวมา ครั้งล่าสุด เมื่อ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ให้กับทีมข่าวดูด้วย พบว่า ค่าซ่อมสูงถึง 19,050 บาท
จากนั้นเธอเล่าว่า หลังจากที่สำนักงานประกันสังคมจังหวัดสกลนคร มอบรถคันนี้ให้วัดสระแก้ว ทางวัดได้ใช้รถอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่มีเหตุผลที่ต้องเอามาให้วิทยาลัยดูแล เพราะรถต้องซ่อมบำรุง รถเสียใช้งานไม่ได้ จากนั้นวัดสระแก้วเห็นว่าทางวิทยาลัยอยู่ในชุมชนและอยู่ไม่ไกลจากตัววัด จึงนำรถมาให้ทางเด็กนักเรียน และครูอาจารย์ซ่อม เพราะวัดไม่มีงบประมาณ เมื่อซ่อมเสร็จ ก็ส่งกลับให้กับทางวัด แต่ในช่วงระยะหลังมีการซ่อมบ่อย ทางหลวงพ่อจึงคุยกับทางคณะกรรมการวัด ว่าเมื่อรถต้องซ่อมบ่อย อยากจะมอบรถให้ทางวิทยาลัยได้ใช้ประโยชน์ และหากทางวัดต้องใช้งาน หรือมีกิจนิมนต์ วัดก็สามารถเอาไปใช้ได้ และปกตินักศึกษา อาจารย์ สถานศึกษาก็อยู่ห่างไกลจากหมู่บ้าน จึงต้องใช้รถ ทางวัดจึงอยากมอบตรงนี้ให้อยู่ในความดูแลของวิทยาลัย
ส่วนสาเหตุที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้นั้น เพราะวิทยาลัยมีคนใช้รถหลายคน ทั้งครูนักเรียนเวลาพาไปทำกิจกรรมข้างนอก ซึ่งทางวัดก็กังวลว่าหากมีปัญหา หรือมีอุบัติเหตุ แล้วจะมีปัญหากับทางวัดและต้องรับผิดชอบ จึงอยากให้ทางวิทยาลัยมาแบ่งเบาความรับผิดชอบ
เมื่อถามว่า การโอนเป็นการโอนให้บุคคล ไม่ได้ให้วิทยาลัยใช่หรือไม่ ผู้หญิงเจ้าของรถ ระบุว่า เนื่องจากสถานศึกษาเป็นเอกชน การโอนย้ายจะต้องผ่านคณะกรรมการหลายขั้นตอน ประกอบกับความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตนเอง เพราะอาจจะมองว่าตัวเองเป็นตัวแทนของสถานศึกษาอยู่แล้ว ไม่น่ามีอะไร แต่ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ในการโอนรถ เรามั่นใจว่ามีจุดประสงค์ที่ดี และวัดก็มีวัตถุประสงค์ชัดเจน ซึ่งพอมาเป็นข่าว ก็รู้สึกว่าตัวเองทำผิดหรือเปล่า แต่ก็ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาด
ส่วนเมื่อถามว่าเอารถไปใช้ส่วนตัวบ้างหรือไม่ เธอบอกว่า ไม่ได้เอารถไปใช้ส่วนตัว มีใช้งานบ้างเวลาไปประชุม หากไม่มีรถ ก็จะใช้รถของหลวงพ่อนี่แหละ และย้ำว่า รถคันดังกล่าวไม่ได้ซื้อมา ไม่เกี่ยวกับการฟอกเงิน
หลังเป็นข่าวมีการหารือกับหลวงพ่อที่วัด ท่านบอกว่าอาจจะให้วิทยาลัยโอนรถกลับคืนมา เพราะไม่สบายใจกับข่าวดังกล่าว และตัวเธอก็มีความบริสุทธิ์ใจ ไม่ได้คิดจะเอารถของวัดมาใช้ส่วนตัว
ส่วนอีกประเด็น คือ ผอ.คนที่มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถ มีนามสกุลเหมือนกับ ผู้บริหารกองงาน ของ อบจ.สกลนคร ตัวผอ.ชี้แจงว่า นามสกุลของตนเองนั้น เป็นที่แพร่หลายในจังหวัด และในตำบล ยืนยันว่าเป็นนามสกุลที่มีผู้คนในพื้นที่ใช้กันเยอะ เมื่อถามว่ารู้จักกับผู้บริหารกองงานของ อบจ.สกลนครที่นามสกุลเดียวกันหรือไม่ ผอ. ระบุว่าอาจจะเคยเห็นผ่านๆ
ทีมข่าวโทรศัพท์ไปหาผู้บริหารกองงาน ของ อบจ.สกลนคร ด้วย ให้ข้อมูลตรงกันว่ายืนยันว่าไม่รู้จักกับผอ.คนดังกล่าว และในพื้นที่ มีคนที่ใช้นามสกุลเดียวกันเป็นจำนวนมาก ที่ไม่ได้รู้จัก หรือเป็นญาติกัน
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Q9hEZ_JveaA
แท็กที่เกี่ยวข้อง