เคลียร์แล้วชั้นใต้ดินตึกสตง.ถล่ม ยังไม่พบ 13 ผู้สูญหาย ลุ้นตรวจ 200 ชิ้นเนื้อ ที่ รพ.ตร.

หากไม่นับวันที่นิมนต์พระเข้าไปทำบุญให้กับผู้ประสบเหตุ ที่อาคารจอดรถข้างตึก สตง. ที่ถล่ม นี่ถือเป็นครั้งแรกที่สื่อมวลชนได้เข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุจริงๆ พบว่า เหลืออีกไม่ถึง 10 เปอร์เซนต์ก็จะเคลียร์ซากตึกออกได้หมดแล้ว แต่ 13 ร่างที่สูญหายยังหาไม่พบ



วันนี้ทางกรุงเทพมหานครนครพาคณะสื่อมวลชนเข้าไปด้านในไซต์งานก่อสร้างตึก สตง. แห่งใหม่ที่ถล่มลงมา ตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม โดยสื่อทุกคนที่เข้าพื้นที่ต้องใส่หมวกนิรภัยและเดินตามเจ้าหน้าที่เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย จุดแรกที่ให้สื่อเข้าไปเป็นบริเวณอาคารจอดรถที่อยู่ด้านข้าง พาสื่อขึ้นไปที่ชั้น 5 เพื่อเก็บภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะเห็นว่าตอนนี้เก็บกู้ไปแล้วกว่า 90% และเคลียร์พื้นที่ชั้นใต้ดินหมดแล้ว คาดว่าจะเคลียร์พื้นที่คืนให้ สตง. ได้ภายใน 3-4 วันนี้



จากนั้นลงมาที่ชั้น 4 ของอาคารจอดรถ เป็นที่วางตู้คอนเทนเนอร์กว่า 10 ตู้ สำหรับการทำงานโซนออฟฟิศ มีป้ายเขียนแปะด้านหน้าว่า "ออฟฟิตสนาม บริษัท ก้าวพีเค จำกัด" ยังมีรองเท้าของคนงานถอดวางอยู่ ตลอดจนป้ายด้านข้าง มีรูปคนงาน และรายละเอียด safety board กรณีหากเกิดเหตุไฟไหม้ และเกิดอุบัติเหตุด้วย รวมถึง ห้องผู้จัดการโครงการ บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล้อปเมนต์ และห้องเจ้าของโครงการ



แล้วพาเดินลงมาที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นจุดเชื่อมหลักกับอาคาร 30 ชั้นที่ถล่มลงมา จุดนี้เป็นห้องโถงขนาดใหญ่หรือลานเอนกประสงค์ มีสภาพสมบูรณ์ เหลือแค่ตกแต่งภายใน นาย ไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการวางผังและพัฒนาเมือง อธิบายว่า เกี่ยวกับการแบ่งโซนค้นหาแต่ละจุดจํานวน 4 โซน พร้อมเปิดแผนผังภายในอาคาร บอกถึงลักษณะการวิ่งหนีของคนงานในวันที่เกิดเหตุ ว่าส่วนใหญ่น่าจะลงมาตามบันไดหนีไฟ ที่เชื่อมกับอาคารจอดรถ เพราะเป็นจุดที่พบผู้เสียชีวิตเป็นจํานวนมาก



บริเวณนี้ทีมข่าวยังพบจุดที่ ดีเอสไอ ได้เข้ามาเจาะคอริ่งปูนบริเวณผนังลิฟต์ เพื่อนำไปตรวจสอบ จากการสังเกต จะเห็นว่า เจาะเป็นรูเรียงกัน ตามผนังต่างๆ และยังมีโครงสร้างสร้างเหล็ก เสา 2 คู่หน้าที่หัก รวมถึงซากโครงสร้างด้านหลังอาคาคที่ติดกับอาคารจอดรถอีกด้วย



จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้พาสื่อลงไปยังชั้นใต้ดินของอาคารจอดรถ ซึ่งอยู่ในโซน B มีความลึกประมาณ 4 เมตร จากชั้น 1 เมื่อลงไปก็พบกองซากคอนกรีตขนาดใหญ่ทับกัน 8 ชั้น แบบแน่นหนา ไม่มีช่องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปค้นหาทั้งบุคคล หรือการส่งเครื่องมือ อุปกรณ์รวม สุนัข K-9 เข้าไปได้ และเชื่อว่ายังมีผู้ติดค้างอยู่ จุดนี้เป็นจุดสุดท้ายที่ยังไม่ได้เคลียร์ซาก เจ้าหน้าที่คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน จะสามารถเคลียร์พื้นที่ได้



ในจุดนี้ทีมข่าวเห็นซากเครนที่อยู่บนยอดอาคาร 30 ชั้น ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ นั่นแปลว่า สิ่งก่อสร้างที่อยู่ด้านบนตกลงมาเป็นแนวดิ่ง และยังคงค้างในจุดที่ตั้งเดิม นอกจากนี้ยังพบของใช้บางส่วนของแรงงาน เช่น หมอน เศษเสื้อผ้า รวมถึงเครื่องเซ่นที่ญาตินำมาวางไว้ให้กับผู้เสียชีวิตตามความเชื่ออีกด้วย



ส่วนความคืบหน้าการรื้อถอนซากตึก สตง. เพื่อค้นหาร่างผู้สูญหายอีก 13 คน นาย สุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร บอกว่า ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ ยังไม่เจอผู้สูญหายเพิ่ม และเหลือพื้นที่ค้นหาอีกแค่ 15-20 เมตร กับความสูงราว 3 เมตร คาดว่าอาจจะไม่พบเพิ่มแล้ว ดังนั้นต้องรอการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล จากชิ้นส่วนมนุษย์กว่า 200 ชิ้น ที่ได้ส่งให้กับทางสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ตรวจสอบว่าเป็นชิ้นส่วนมนุษย์กี่คน และตรงกับข้อมูลผู้สูญหายกี่คน จากนั้นนำข้อมูลไปเทียบเคียงกับพนักงานสอบสวนว่ามีตัวเลขใดคลาดเคลื่อนหรือไม่



สำหรับยอดผู้ประสบเหตุตัวเลขยังไม่ขยับเป็นวันที่ 2 แล้ว ผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 87 คน บาดเจ็บ 9 คน และสูญหายอีก 13 คน รวมทั้งสิ้น 109 คน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dQjHfmL_TzI