สังคม
"ดวงฤทธิ์" โพสต์ปมตึกสตง.ถล่ม ลั่นไม่มีวันได้คนผิดที่แท้จริง ที่ได้คือ "แพะรับบาป"
5 พ.ค. 2568
140 views
จากเหตุการณ์ อาคาร สตง. แห่งใหม่ถล่ม เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 68 หลังเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่ประเทศเมียนมา ซึงถึงตอนนี้การกู้ซากยังคงไม่แล้วเสร็จ และมีผู้สูญหายอยู่ใต้ซากตึก แม้จะมีการสอบปมหาสาเหตุการพังถล่มครั้งนี้มาเกือบเดือน โดยถูกโยง "การทุจริตก่อสร้าง" และเร่งหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีอะไรแน่ชัด
ล่าสุด วันนี้ (5 พ.ค. 68) นายดวงฤทธิ์ บุนนาค สถาปนิกและนักออกแบบชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ห้ความเห็นถึงประเด็นดังกล่าว
ระบุว่า "สำหรับทุกคนที่สนใจข่าวนี้ ก็เป็นที่น่าเสียใจนะครับ ว่าเราจะไม่มีวันได้ตัวคนผิดมาลงโทษอย่างแน่นอน สิ่งที่เราจะได้ไปคือแพะรับบาปครับ
ตอนนี้มีธงมาค่อนข้างชัดเจนว่าความผิดจะตกไปที่ผู้ออกแบบ เพราะการโยนความผิดให้ผู้ออกแบบ ผู้ออกแบบออกแบบผิดนั้น จะเป็นทางลงที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทุกฝ่าย การสืบค้นไปให้เจอต้นตอของคนกระทำผิดผ่านผู้ควบคุมงานนั้น จะทำให้ระบบการคอรัปชั่นผ่านการก่อสร้างในระบบราชการ (Systemic corruption embedded in government construction projects) ทั้งหมดถูก disrupted อย่างโกลาหล ส่งผลให้ระบบโครงข่ายและโครงสร้างที่ถูกออกแบบมาเพื่อการนี้นับสิบๆปีต้องล่มสลาย รวมถึงการเสียประโยชน์ของบริษัทรับเหมาก่อสร้างหลายรายที่มีชีวิตอยู่ได้ผ่านระบบนี้ ต้องล่มสลาย สูญเสียรายได้ไปด้วย บางส่วนก็มีการยึดโยงกับอำนาจรัฐไว้อย่างแข็งแรง เป็นความเสี่ยงเกินไปที่จะสืบค้นหาคนผิดที่แท้จริง ในมุมมองของคนเหล่านี้ เขาก็จะคิดว่าตึกพังแค่ตึกเดียว ทำไมทั้งระบบของการคอรัปชั่นอย่างมีระบบนี้ต้องล่มสลายไปด้วย เขาย่อมคิดว่าการแลกกันด้วยการหาคนผิดที่แท้จริงนั้น ไม่คุ้มค่าสำหรับประโยชน์ของพวกเขา จึงต้องทำทุกวิถีทางในการทำให้การสืบหาผู้กระทำผิด ไม่สามารถสาวไปถึงต้นตอของผู้กระทำผิดที่แท้จริง
จุดที่ทำให้ผมมั่นใจว่าเรื่องนี้จะจบไม่สวย ก็เพราะเหตุจากการเก็บตัวอย่างคอนกรีตจากซากตึกที่พังลงมาเพื่อมาตรวจสอบ วิศวกรที่มีประสบการณ์ในด้านโครงสร้าง สังเกตเห็นความผิดปรกติในการเก็บตัวอย่างมาตรวจสอบในวิธีที่ให้แน่ใจว่าจะได้ตัวอย่างที่ ”ไม่มีปัญหา“ มากกว่าตัวอย่างที่จะ “เป็นปัญหา” หลังจากที่ผมได้พูดคุยกับวิศวกรที่มีความชำนาญหลายท่าน ความเห็นตรงกันในสมมุติฐานคือส่วนผสมของคอนกรีตที่มีส่วนผสมของน้ำในสัดส่วนที่เหลวกว่าปรกติ ซึ่งถ้าใช้คอนกรีตเหลวนี้ในการก่อสร้างทั้งอาคาร โครงสร้างทั้งระบบก็จะมีความแข็งแรงที่ลดลงทั้งหมด และเป็นสมมุติฐานที่น่าสนใจที่สุดว่าทำไมโครงสร้างตึกนี้จึงล้มเหลวพร้อมกันทั้งอาคารในเหตุแผ่นดินไหวครั้งที่ผ่านมา
ถามว่าทำไปทำไม การประหยัดเงินก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่ที่ประหยัดได้มากกว่าคือ “เวลา” ในระยะไม้แบบที่เล็กและแคบ การเทคอนกรีตโครงสร้างที่มีเหล็กอัดแน่นอย่างเสาและ shear wall นั้น คอนกรีตที่ “เหลว” กว่าจะเทลงในแบบได้เร็วกว่า การเสียเวลาใช้เครื่องมือเพื่อ “จี้” คอนกรีตให้ไหลไปทั่วไม้แบบก็น้อยลง ทำให้สร้างได้เร็วขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ออกแบบไม่ยอมแน่นอน แต่ผู้ควบคุมงานที่มีการตกลงกับผู้รับเหมาแบบไม่ถูกต้องตามวิชาชีพก็อาจจะอนุญาตให้ทำได้ นั่นเป็นสาเหตุที่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังหาตัววิศวกรที่ควบคุมงานตัวจริงไม่ได้จนถึงทุกวันนี้
การก่อสร้างโดยส่วนผสมคอนกรีตที่ผสมน้ำมากขึ้น ย่อมลดกำลังอัดของคอนกรีตลงอย่างแน่นอน ซึ่งการออกแบบโครงสร้างโดยทั่วไปตาม building code ของไทยก็มี safety factor สูงมากเกือบเท่าตัว ผู้รับเหมาบางรายจึงมักจะเล่นท่านี้เป็นท่ามาตรฐานในการก่อสร้างอาคารที่ถูกบีบงบประมาณและเวลา โชคร้ายที่แผ่นดินไหวคราวนี้ ทำเอาทุกอาคารใช้ safety factor กันไปที่สุดข้อจำกัด อาคารไหนที่ปริ่มมาก สร้างไว้ต่ำกว่า safety factor เลยต้องพังลงไปแบบนั้น
หลักฐานที่สำคัญในการหาข้อสรุปของเหตุ จึงไปอยู่ที่ตัวอย่างคอนกรีตที่เข้าไปเก็บมา ถ้าตั้งใจไปเก็บในส่วนที่คิดว่าสัดส่วนของคอนกรีตกับน้ำถูกต้อง ก็จะไปเลือกเก็บเป็นส่วนของโครงสร้างที่แข็งแรงอยู่ จุดเดียวเจาะซ้ำเสียหลายรูแทนที่จะสุ่มไปตามจุดต่าง ถ้าเก็บตัวอย่างแบบเลือกเก็บแบบนี้ คำตอบก็จะเป็นผลดีกับผู้รับเหมาและผู้ควบคุมงาน ทางวิศวกรโครงสร้างจึงออกมาตั้งข้อสังเกตในเรื่องนี้ และแนะนำให้การเก็บตัวอย่างคอนกรีต ควรไปเก็บมาจากส่วนที่น่าจะเป็นปัญหาซึ่งเป็นส่วนที่สัดส่วนของน้ำและคอนกรีตน่าจะไม่ถูกต้อง แบบนั่นจึงจะเป็นวิธีการที่เหมาะสมในทางวิชาการมากกว่าในการที่จะได้คำตอบที่แท้จริงเพื่อสืบสาวหาคนผิดที่แท้จริงต่อไป
ผมเคยบอกนักข่าวไปหลายคน ว่าเรื่องนี้มันใหญ่กว่าที่เราเข้าใจกัน และการขุดคุ้ยเรื่องนี้คือการทำลายระบบคอรัปชั้นหลักในราชการที่ทำกันมาเกือบครึ่งศตวรรษ บอกเลยว่ายากและตอเพียบ จนถึงวันนี้ ก็มั่นใจว่าต้องไปกันอีกไกลมาก และยากที่จะได้คำตอบที่แท้จริง ตราบใดที่ลมหายใจของคนหลายคนยังหากินกันอยู่บนธุรกิจในแบบนี้ คนซื่อคนตรง มันก็ต้องท้อแท้กันต่อไปครับ"
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/UX4EnxNI0cA
แท็กที่เกี่ยวข้อง