พบเคสชายไทย ป่วย "แอนแทรกซ์" เสียชีวิต หลังร่วมชำแหละ "เนื้อวัว" ล่าสุดมีกลุ่มเสี่ยง 247 ราย

กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ที่ไม่ปรุงสุก และเลี่ยงการชำแหละหรือสัมผัสสัตว์ที่ตายโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังจังหวัดมุกดาหาร พบชายวัย 53 ปี เสียชีวิตจากโรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) แล้ว 1 ราย และมีผู้สัมผัสเสี่ยงถึง 247 คน



นายแพทย์ภาณุมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยันมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคแอนแทรกซ์ ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร 1 ราย ผู้ป่วยเป็นชายอายุ 53 ปี มีโรคประจำตัวเป็นโรคเบาหวาน ทำอาชีพรับจ้างก่อสร้าง



อาการของผู้เสียชีวิต เริ่มจากวันที่ 24 เมษายน 2568 ผู้ป่วยเริ่มมีตุ่มแผลขึ้นบริเวณมือข้างขวา จากนั้นวันที่ 27 เมษายน 2568 จึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งในวันนั้น ผู้ป่วยมาโรงพยาบาลด้วยอาการ แผลที่มือเริ่มมีสีดำชัดเจน ต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้ข้างขวาโต หน้ามืด และชักเกร็ง ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา



ระหว่างการรักษา ทีมแพทย์ได้เก็บตัวอย่างแผลของผู้ป่วย ส่งไปตรวจที่ห้องปฏิบัติการ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสถาบันบำราศนราดูร ผลปรากฎว่าพบเชื้อ Bacillus anthracis หรือ แบคทีเรียที่ทำให้เกิดโรคแอนแทรกซ์ ซึ่งถือว่าเป็นโรคร้ายแรงจากสัตว์สู่คน สปอร์ของเชื้อ มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม สามารถก่อให้เกิดโรคได้ แม้เวลาจะผ่านไปหลายปี แหล่งรังโรคหลักของเชื้อ คือ สัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น โค กระบือ แพะ และแกะ สามารถแพร่เชื้อสู่คนได้โดยตรง



สำหรับผู้เสียชีวิตรายนี้ คาดว่าได้รับเชื้อมาจากการชําแหละโคในงานบุญผ้าป่า และได้นำเนื้อโคที่ชําแหละ ไปแจกจ่ายให้รับประทานกันภายในหมู่บ้าน



ทำให้ล่าสุดกรมควบคุมโรค และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร ต้องลงพื้นที่สอบสวนผู้สัมผัสเสี่ยง จำนวนมากถึง 247 คน แบ่งเป็นผู้ที่ร่วมชำแหละโค 28 คน และผู้ที่บริโภคเนื้อโคดิบ 219 คน ในจำนวนนี้มีกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูง ที่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินมาตรการป้องกันในพื้นที่แล้ว



กรมควบคุมโรค ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การติดเชื้อในคน ส่วนใหญ่เกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น การชำแหละเนื้อสัตว์ การบริโภคเนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงไม่สุก หรือการสัมผัสกับหนังสัตว์ ขนสัตว์ ที่มีเชื้อ / หลังได้รับเชื้อประมาณ 1 - 5 วัน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องรุนแรง มีแผลคล้ายบุหรี่จี้ หายใจขัด หายใจลำบาก หากมีอาการรุนแรง มีโอกาสเสียชีวิตสูง ถึงร้อยละ 80



ข้อมูลจากกองระบาดวิทยา พบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ในประเทศไทย พ.ศ. 2543 รวม 15 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ล่าสุด พ.ศ. 2560 พบผู้ป่วย 2 ราย ในอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก นอกจากนั้นเป็นการพบผู้ป่วยในประเทศเพื่อนบ้าน ปี พ.ศ. 2567 ประเทศลาวพบผู้ติดเชื้อแอนแทรกซ์รวม 129 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ปี 2566 ประเทศเวียดนาม พบการระบาดโรคแอนแทรกซ์ พบผู้ป่วย 13 ราย และผู้สัมผัสอีก 132 ราย



อธิบดีกรมควบคุมโรค แนะนำประชาชนป้องกันตัวเองจากโรคแอนแทรกซ์ คือ 1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสโค กระบือ แพะ แกะ 2. ล้างมือ ชำระล้างร่างกายหลังสัมผัสสัตว์ 3. เลือกบริโภคเนื้อสัตว์ที่ได้รับการรับรองอาหารปลอดภัย 4. หากพบสัตว์ป่วยตายผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที และ 5. หากมีอาการผิดปกติให้รีบพบแพทย์ หรือโทรสายด่วนกรมควบคุมโรค ที่หมายเลข 1422

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/vOTiwGzKLqg