ชาวแม่สาย เตรียมอพยพ หลังน้ำทะลักชุมชน หวั่นซ้ำรอยปี 67 ท้อเพิ่งซ่อมบ้านเสร็จไม่นาน

ชาว อ.แม่สาย จ.เชียงราย เตรียมอพยพ หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง 2 วันที่ผ่านมา ล่าสุดพบปริมาณน้ำเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมชุมชน ชาวบ้านทยอยขนของขึ้นที่สูง เนื่องจากหวั่นซ้ำรอยเหตุการณ์น้ำท่วมเมื่อปี 2567



เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา กลุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชุมชนคนแม่สาย ได้นำคลิปภาพขณะที่น้ำจากแม่น้ำสายได้เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเกิดน้ำไหลเชี่ยวและมีสีขุ่นข้น และเอ่อล้นฝั่ง ฝ่าแนวพนังกั้นน้ำ บริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 อำเภอแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก และไหลเข้าท่วมตลาดสายลมจอย ตำบลแม่สาย ซึ่งเป็นย่านการค้าสำคัญ สร้างความแตกตื่นให้กับชาวบ้านในพื้นที่ จนต้องทยอยขนของขึ้นที่สูง ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าทำได้เพียงรีบเข้าไปขนเอาสินค้าออกจากร้านค้าได้บางส่วน ที่เหลือจมน้ำเสียหาย



แม่น้ำสายยังไหลเข้าท่วมพื้นที่บ้านเกาะทราย ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย และคาดว่าจะไหลเข้าท่วมพื้นที่ใกล้เคียง มีรายงานว่าท่อระบายน้ำหลายจุด ยังมีดินที่ขุดลอกออกไม่หมดจากน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ง่ายต่อน้ำท่วมขัง



ชาวเมียนมา บอกว่า น้ำป่ามาไวมาก และเป็นช่วงกลางวันไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งพวกเขาตั้งข้อสังเกตว่า ฝนดูเหมือนจะตกไม่มากนัก แต่น้ำกลับท่วมรุนแรง ซ้ำที่เดิมเหมือนกับที่เกิดปี 2567 ที่ผ่านมา ชาวเมียนมารจำนวนมาก แห่ข้ามด่านมาพักที่อำเภอแม่สายจำนวนมาก



ขณะที่หน่วยเฉพาะกิจทัพเจ้าตาก ได้ระดมกำลังทหารนำกระสอบทรายขนาดใหญ่ (บิ๊กแบ็ค) เข้ากั้นน้ำบริเวณใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ซึ่งเป็นจุดที่มวลน้ำไหลทะลักเข้าสู่ชุมชน เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม



ตำรวจจราจร สภ.แม่สาย เร่งเคลียร์พื้นที่ พร้อมกับประกาศไม่ให้รถเข้าไปย่านตลาดสายลมจอย เนื่องจากมีน้ำป่าไหลหลาก

ส่วนฝั่งเมืองท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามอำเภอแม่สาย น้ำสายได้เอ่อเข้าท่วมตลาดท่าล้อ ร้านค้าต่างๆ จมน้ำประมาณ 1 เมตร มีรถยนต์นับ 10 คัน จมน้ำ รวมทั้งรถแม็คโครที่กำลังทำพนังกั้นน้ำ ก็จมน้ำไปด้วย



นายวรายุทธ ค่อมบุญ นายอำเภอแม่สาย เปิดเผยว่า สาเหตุหลักของน้ำทะลักครั้งนี้มาจากฝนที่ตกหนักในพื้นที่ต้นน้ำฝั่งเมียนมา ประกอบกับการรื้อกระสอบทรายเดิมใต้สะพานมิตรภาพเพื่อขุดลอกดินโคลน ทำให้มวลน้ำสามารถไหลเข้าสู่พื้นที่ชุมชนได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามเมื่อเวลาประมาณ 12.40 น. ของวันนี้ระดับน้ำเริ่มลดลง และคาดว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มอีกในช่วงนี้



แต่ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งฟื้นฟูและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีหลังน้ำลดลง โดยขณะนี้มีชุมชนที่ได้รับผลกระทบหนักได้แก่ บริเวณตลาดสายลมจอย ชุมชนเกาะทราย และชุมชนไม้ลุงขน ซึ่งน้ำได้เอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชน จนชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ด้วยความหวาดกลัวจากประสบการณ์น้ำท่วมในปีที่ผ่านมา



ขณะที่ คุณเพชรมณี เจ้าของร้านขายขนม กล่าวว่า อยากให้ทางราชการเร่งเข้ามาดำเนินการแก้ไขป้องกันน้ำสาย ท่วมพื้นที่การค้าสายลมจอยอย่างรวดเร็วและถาวร เนื่องจากว่าเมื่อปีที่ผ่านมา ตนสูญเสียสินค้าไปมูลค่ากว่าสองล้านบาท ปีนี้เพิ่งจะมาลงทุนใหม่ และพยายามยกสินค้าขึ้นที่สูง แต่หากน้ำท่วมเหมือนปีที่ผ่านมาก็คงจะไม่พ้น ถ้าหากว่าต้องมาโดนน้ำท่วมใหญ่คงจะไม่มีกำลังจะมาสู้ต่อแล้ว เพราะว่าเป็นเงินก้อนสุดท้าย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Xt29XMqxrzQ