คุมคนร้ายชิงทองทำแผน อ้างโมโห เงินในบัญชี 1.7 ล้าน หาย ไม่มีเงินให้แม่ซ่อมบ้าน

ตำรวจคุมตัวคนร้ายชิงทองที่ระยองไปทำแผน หลังทำทีเข้าไปซื้อทอง แล้วอาศัยจังหวะที่พนักงานยกถาดทองมาให้ดู คว้าทองวิ่งหนี แต่ถูกพลเมืองดี กับตำรวจรวบตัวได้ทันควัน ขณะที่คนร้ายอ้างที่ก่อเหตุเพราะเงินในบัญชี 1.7 ล้านบาทหายไป ล่าสุดตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง



เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อวาน เวลาประมาณหนึ่งทุ่มเศษ วงจรปิดบันทึกภาพ ขณะที่นายณัฐพร บุตรน้ำเพ็ชร อายุ 26 ปี ทำทีเข้าไปขอซื้อทอง ที่ร้านทองในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ที่เมืองระยอง พอพนักงานนำถาดที่ใส่ทองมาให้เลือก เขาทำทีถามราคา แล้วก็เลือกลวดลาย แล้วจู่ๆ ก็คว้าทองในถาด เป็นสร้อยคอหนักเส้นละ 5 บาท 10 เส้น รวมน้ำหนักทอง 50 บาท คิดเป็นมูลค่าก็ประมาณ 2 ล้าน 5 แสนบาท วิ่งหนีออกไปนอกร้าน พนักงานในร้านส่งเสียงร้องให้คนช่วย



แต่ระหว่างที่คนร้ายวิ่งหนีลงบันไดเลื่อนของห้าง เพื่อที่จะออกไปด้านนอก แต่ดันวิ่งย้อนศรเป็นทางขึ้นไปในห้าง ทำให้พลเมืองดีที่มาซื้อทองเหมือนกัน วิ่งไล่ตามไปจับตัวได้ทัน และเป็นจังหวะที่มีไรเดอร์ เดินสวนเข้ามาในห้าง เห็นคนร้ายวิ่งมา ก็เลยใช้เข่ากระแทกท้อง ก่อนจะช่วยกันเข้าไปกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันจนคนร้ายบาดเจ็บที่หัว ไปไหนไม่รอด ถูกรวบตัวส่งตำรวจ ขณะที่พลเมืองดีได้รับบาดเจ็บที่มือ



จากนั้นตำรวจคุมตัวคนร้ายมาสอบสวนถึงสาเหตุ คนร้ายให้การว่า ตนมีเงินในบัญชี 1 ล้าน 7 แสนบาท ตอนเช้าจะมาถอนเงินที่ธนาคาร แต่ปรากฎว่าเงินในบัญชีเหลือ 3 บาท ก็เลยโมโหว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนถอนเงิน แล้วเงินหายไปไหน และต้องการเงินไปซ่อมบ้านให้แม่ พอถอนเงินไม่ได้ ด้วยความโมโหก็เลยคิดชิงทอง โดยที่เขาเองก็ไม่มีอาวุธใดๆ สุดท้ายถูกพลเมืองดี ทั้งขึ้นเข่า ทั้งล็อกคอ จนหายใจไม่ออก ต้องยอมให้จับแต่โดยดี และก่อนมาก่อเหตุ เขาได้เสพยาบ้ามาหนึ่งเม็ดด้วย ยืนยันไม่มีการวางแผนมาก่อน



ส่วนการดำเนินคดีกับคนร้าย ล่าสุดวันนี้เมื่อบ่าย 2 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.อาทิตย์ ยาแก้ว ผู้กำกับ สภ.เมืองระยอง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัว คนร้ายมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ



โดยเริ่มตั้งแต่จุดแรกที่ร้านทอง ที่คนร้ายทำทีเข้าไปซื้อทอง ก่อนจะอาศัยช่วงที่พนักงานเผลอและชิงทองวิ่งหนีออกมากร้านทอง จากนั้นตำรวจคุมตัวไปจุดที่ 2 ที่คนร้ายวิ่งหนีไปที่บันไดเลื่อน แต่เจอพลเมืองดีถึง 3 คน ช่วยกันจับตัวเอาไว้



ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามคนร้ายถึงสาเหตุที่ลงมือก่อเหตุอีกครั้ง คนร้ายทำท่าคล้ายจะร้องไห้ และบอกว่า ต้องการนำเงินให้แม่ไปซื้อที่ดิน แต่เงินของตนในบัญชีที่มี 1.7 ล้านบาท อยู่นั้นไม่สามารถเบิกถอนได้ จึงมาก่อนเหตุ และได้เสพยาบ้าก่อนมาก่อเหตุด้วย ซึ่งตนไม่ได้เจาะจงว่าเป็นร้านทองร้านนี้ พอขึ้นบันไดเลื่อนมาเจอก็ก่อเหตุเลย ยืนยันเงิน 1.7 ล้าน มีอยู่ในบัญชีจริงๆ



ขณะเดียวกันตำรวจได้สอบถามไปยังธนาคาร พบว่าเป็นเพียงข้ออ้างของคนร้ายเท่านั้น เพราะยอดเงินจำนวน 1.7 ล้านบาท ที่ปรากฏอยู่ในสมุดบัญชีของคนร้ายนั้น หลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยอัพเดรสสมุดบัญชีเลย เมื่อมาอัพเดรสล่าสุดจึงเห็นมียอดเงิน 1.7 ล้านบาท แล้วยอดเงินดังกล่าว เขาก็ได้ถอนออกไปใช้หลายครั้งจนหมด ทำให้มียอดเงินสรุปที่เห็น เหลือเพียงแค่ 3 บาทเท่านั้น



เบื้องต้นตำรวจได้แจ้ง 2 ข้อหา คือชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ก่อนจะคุมตัวไปส่งฟ้องศาลฯ



ด้าน ผู้จัดการร้านทอง บอกว่า คนร้ายเข้ามาขอดูทอง เค้าบอกจะซื้อให้แม่ ก็เลยยกทองมาให้ดูทั้งถาด ก่อนจะทำทีเลือกลาย แล้วก็คว้าทองวิ่งหนี ด้วยความตกใจก็ร้องให้คนช่วย เลยถูกพลเมืองดีช่วยกันจับกุมเอาไว้ได้ ซึ่งพลเมืองดีทั้งหมด 3 คน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมอบประกาศนียบัตรให้และทางร้านทองเองก็มีสินน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ มอบให้ด้วยเช่นกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Wo4Qx3vbYQk