สังคม
ตร.ไซเบอร์ ยันไม่ได้ตอกฝาโลงใคร ปม "อดีตบิ๊กตร." โกงข้อสอบจุฬาฯ พร้อมเร่งตรวจลายมือในข้อสอบ
24 เม.ย. 2568
128 views
ความคืบหน้าคดีนี้ ตำรวจไซเบอร์แจ้งข้อหาไปแล้ว 3 คน คือ ดร.นิด / พันตำรวจโท คริษฐ์ และพันตำรวจตรี ชานนท์ จ่อขยายผลเอาตัวคนร่วมขบวนการเพิ่ม ยืนยันไม่ได้ตั้งใจตอกฝาโลงใคร
เมื่อวานนี้ (23เม.ย.68) ตำรวจไซเบอร์สอบปากคำดร.ขนิษฐา หรือ ดร.นิด อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาร่วมขบวนการโกงสอบ นานกว่า 10 ชั่วโมง ก่อนที่ ดร.นิดและทนายความจะออกมาจากห้องสอบสวนช่วงเกือบ 1 ทุ่ม ตอนที่ออกมา ดร.นิดไม่ได้พูดอะไร มีเพียงทนายความที่บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เป็นเรื่องจริง จากนั้นก็เดินหนีนักข่าวทันที
พนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า หลังสอบปากคำเสร็จ อนุญาตให้ ดร.นิด ประกันตัวไป ในวงเงิน 1 แสนบาท เนื่องจากไม่ใช่คดีร้ายแรง แล้วจะนัดส่งฟ้องต่อศาลภายหลัง
มีรายงานว่า ขณะสอบสวน ดร.นิด สาบานทั้งน้ำตาว่า ไม่ได้เป็นคนเอาข้อสอบไปให้อดีตนายพล แต่เป็นเจ้าหน้าที่ของคณะนำไปให้ เพราะเห็นว่าเป็นคนใต้เหมือนกัน และอยากเข้าหาอดีตนายพลเพื่อทำความรู้จัก
ขณะที่ พลตำรวจตรี ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการ สอท.1 ชี้แจงเรื่องนี้ตำรวจไซเบอร์มาทำคดีนี้ ทั้งที่น่าจะอยู่นอกเหนืออำนาจ โดยชี้แจงว่า พยานหลักฐานกลุ่มแชทนี้ ตำรวจตรวจเจอจากคอมพิวเตอร์ของกลุ่มผู้ต้องหาที่ตำรวจไปตรวจค้นที่บ้านแห่งหนึ่งย่านวิภาวดีรังสิตเมื่อปี 2566 ซึ่งเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน พอตรวจสอบเส้นเงิน ก็เจอว่ามีเงินโอนมาจากบัญชีม้าของเครือข่ายเว็บพนันเข้าบัญชี ดร.นิด 5 ครั้ง เป็นเงินกว่า 4 แสนบาท นอกจากนี้ยังมีเงินจากบัญชีเว็บพนันออนไลน์เข้ามาอีกกว่า 5 แสนบาท รวมเบ็ดเสร็จ มีเงินโอนมาที่บัญชี ดร.นิด 11 ครั้ง เป็นเงินกว่า 9 แสนบาท เชื่อว่าเป็นการจ้างทำการกระทำอย่างหนึ่งเกี่ยวกับการศึกษา ดังนั้นตำรวจไซเบอร์จึงมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวน
ผู้การฯ ยังยืนยันด้วยว่า เป็นการขยายผลตามพยานหลักฐานที่ได้รวบรวมไว้ ไม่ใช่การตอกฝาโลงอดีตนายตำรวจท่านหนึ่งอย่างแน่นอน
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ดร.นิด พันตำรวจโท คริษฐ์ ปริยะเกตุ และ พันตำรวจตรี ชานนท์ อ่วมทร ในข้อหาเดียวกัน คือ ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหายหรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพินัยกรรมหรือเอกสารใดของผู้อื่น ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ทั้งหมดให้การปฏิเสธ แต่นายตำรวจ 2 คนขอให้การเป็นเอกสารภายใน 30 วัน แต่ทางพนักงานสอบสวนจะเรียกสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องอีก 2-3 คน ก่อนจะสรุปสำนวนส่งฟ้อง
ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ยืนยันว่า เรื่องนี้ "อดีตบิ๊กตำรวจ" ปฏิเสธได้ยาก เพราะมหาวิทยาลัยแจ้งว่า ข้อสอบที่ใช้สอบนักศึกษาเป็นข้อสอบเฉพาะรายบุคคล หมายความว่าแต่ละคนจะได้คำถามที่แตกต่างกัน หากไปตรวจสอบ ก็จะระบุได้เลยว่าข้อสอบนี้เป็นของใคร ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนว่า ใครเป็นคนนำข้อสอบออกไป
มีรายงานว่าข้อสอบดังกล่าวเป็นข้อสอบอัตนัย หรือข้อเขียน ตอนนี้ทางมหาวิทยาลัยอยู่ระหว่างตรวจสอบลายมือในข้อสอบ
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/ES7kA6bcSPQ
แท็กที่เกี่ยวข้อง