DSI เปิดหลักฐาน 1 ในผู้ถือหุ้น "บ.ไชน่าฯ" เป็นคนงานก่อสร้าง มีรายได้หลักหมื่น ชัด! ถือหุ้นอำพราง

DSI เผยบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ใช้คนไทยเป็น "นอมินี" ทำงานก่อสร้างมีรายได้แค่หลักหมื่น แต่ถือหุ้นบริษัทใหญ่ แถมรับงานรัฐถึง 29 โครงการ



พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคดี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ที่ห้องประชุม ชั้น 1 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ หลัง DSI รับคดี สตง.ถล่มเป็นคดีพิเศษ ตามความผิดเรื่อง "นอมินี"



พันตำรวจเอก ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ เผยว่า นอกจากความผิดคดีนอมินีรับเป็นคดีพิเศษ ก็ยังมีความผิดอื่นพิจารณาควบคู่ไปด้วย คือ ความผิดว่าด้วยการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ (ฮั้วประมูล) ซึ่งจะต้องดูว่าในส่วนคนไทยที่ไปถือหุ้นนั้น ต้องพิสูจน์ว่าเป็นการถือหุ้นโดยอำพรางหรือไม่



จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 ประเทศไทย จำกัด เดิมทีตอนก่อตั้งเป็นนิติบุคคล มีผู้ถือหุ้นทั้ง 3 คน คือ นายโสภณ มีชัย มี 406,997 หุ้น นายประจวบ ศิริเขตร มี 102,000 หุ้น และนายมนัส ศรีอนันท์ ถือแค่ 3 หุ้น ซึ่งเดิมที นายมนัส มี 360,000 หุ้น แต่ได้โอนหุ้นไปให้นาย โสภณ ไป



เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบผู้ถือหุ้น คนแรก คือ นายประจวบ ศิริเขตร ถือหุ้นของบริษัท 10.2% บ้านอยู่ที่จังหวัดร้อยเอ็ดแต่ไม่เจอตัว ภรรยาบอกว่า นายประจวบออกจากบ้านไป 2-3 วันแล้ว อาชีพหลักของนายประจวบ คือ รับจ้างก่อสร้าง มีรายได้ประมาณ 1 หมื่นบาทต่อเดือน ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่า นายประจวบ น่าจะเป็นนอมีนี หรือการถือหุ้นอำพราง นอกจากนี้ยังพบว่า นายประจวบถือหุ้นนิติบุคคลอีกถึง 10 บริษัท ส่วนผู้ถือหุ้นอีก 2 คน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัว



สำหรับกรณีบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัดดีเอสไอจะตรวจสอบถึงประเด็นที่เป็นผู้จำหน่ายเหล็กให้กับบริษัทที่เกิดเหตุ เนื่องจากทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้ไปตรวจสอบแล้วพบว่ามีสินค้าบางรายการที่ไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ส่วนเรื่องฝุ่นแดงของเหล็ก ทราบว่าเป็นความผิดเกี่ยวกับการออกใบกำกับภาษีปลอม และเป็นเรื่องของมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีเอสไออาจต้องไปดำเนินการในขั้นตอนต่อไป



ร้อยตำรวจเอก สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2562 - 2567 บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด รับงานจากภาครัฐไปทั้งหมด 29 โครงการทั่วประเทศ เป็นเงินกว่า 22,000 ล้านบาท



แต่เฉพาะโครงการก่อสร้าง สตง. ราคากลางพบว่า 2,500 ล้านบาท แต่ประมูลได้ราคา 2,136 ล้านบาท ซึ่งมันอยู่ในเกณฑ์ 15% ในภาษานักก่อสร้างเรียกว่าเป็นการฟันงาน เพื่อจะบีบตัวเองลงมา ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ราคา 2,500 ล้านบาท ถือว่าเป็นมาตรฐานเกณฑ์ขั้นต่ำ แต่ทำไมยังดีดราคาลงมาได้ถึง 300-400 ล้านบาท เป็นสิ่งที่เราต้องค้นหาความจริงว่าบริษัทได้มีการนำเอาความอันเป็นเท็จ หรือแสดงข้อเท็จจริงอย่างไรที่ทำให้รัฐหลงเชื่อและเลือก



รองอธิบดีดีเอสไอ บอกด้วยว่า คณะพนักงานสอบสวนจะตรวจสอบทุกโครงการที่บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ไปร่วมกับ 11 กิจการร่วมค้าด้วย แต่ไม่ได้หมายความว่ากรรมการบริษัทอื่นๆ จะมีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะต้องรอการพิสูจน์ก่อน



ส่วนปัจจุบัน สำนักงานที่แท้จริงของบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ จะอยู่ที่ใดนั้น ขอให้คณะพนักงานสอบสวนตรวจสอบก่อน และคาดว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถออกหมายเรียกพยานกลุ่มแรกมาสอบสวนปากคำได้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/hlDqRh77JRk