ชาวนาไม่โอ! 3 มาตรการแก้ราคาข้าวตกต่ำ จี้ทบทวนหวั่นเอื้อทุจริต เรียกร้อง "ประกันรายได้"

วานนี้ การประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวงแห่งชาติด้านการตลาด ได้คลอด 3 มาตรการ แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ


คุณพิชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน มีตัวเทนจากกระทรวงเกษตรฯ และชาวนาร่วมวงด้วย หลังประชุมเสร็จ มีการตั้งโต๊ะแถลงกันพร้อมหน้า


แต่ล่าสุดวันนี้ สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ออกแถลงการณ์ ส่งให้สื่อมวลชน บอกไม่เห็นด้วยกับมาตรการที่ออกมา เพราะไม่ตอบสนองความเดือดร้อนของชาวนา พร้อมขอให้คณะอนุกรรมการฯ ทบทวนมาตรการใหม่ ตามที่ชาวนาร้องขอ


โดยนายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย บอกว่า ข้อเสนอของสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย รวมถึงข้อเสนอของชาวนาที่ยื่นผ่านผู้ว่าฯ แต่ละจังหวัด ไม่ได้ถูกหยิบมาพิจารณา โดยที่ประชุมแจ้งว่า ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากขัดกับมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 พ.ย.66 และ มติ นบข. เมื่อวันที่ 8 พ.ย.67 ที่กำหนดว่า ในการจัดทำมาตรการหรือโครงการ เพื่อสนับสนุนหรือให้ความช่วยเหลือภาคเกษตรกร ให้หลีกเลี่ยงการดำเนินการในลักษณะการให้เงินอุดหนุน ช่วยเหลือ ชดเชย หรือ ประกันราคาสินค้าเกษตรโดยตรงแก่เกษตรกร


ขณะที่ 3 มาตรากรที่เคาะออกมา เสนอโดยฝ่ายเลขาฯ ของคณะอนุกรรมการฯ ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นของสมาคมชาวนา ซึ่งไม่ตอบสนองความเดือดร้อนของชาวนา และสุ่มเสี่ยงเกิดการทุจริต เช่น มาตรการที่จะให้สหกรณ์รับซื้อ หรือ รับฝาก โดยสหกรณ์ได้ 500 บาท ชาวนาได้ 1,000 บาทต่อตัน โดยรับซื้อข้าว "แห้ง" ในราคา 8,500 บาทต่อตัน ซึ่งทุกฝ่ายทราบดีถึงขีดความสามารถและจำนวนสหกรณ์ ว่าไม่มีกำลังพอ และส่วนที่จะเอาใครมาช่วยรับช่วงต่อ ทางสมาคมฯ ไม่แน่ใจ แต่คิดว่าอาจจะมีการเอาโรงสีมาเข้าโครงการ และได้ค่าการจัดการ 500 บาทต่อตัน และโรงสียังได้เงินชดเชยดอกเบี้ยอีก 6% ในการซื้อในราคานำตลาดด้วย, ทำไมไม่จ่ายตรงชาวนา 500 บาทต่อไร่ หรือ ประกันรายได้ ตามที่ชาวนาเรียกร้อง, ทำไมต้องซื้อข้าวไปเก็บแล้ว จ่ายค่าฝากให้ชาวนาและให้สหกรณ์ ไม่เข้าใจ?


นอกจากนี้ พื้นที่นาปรังมี 10 ล้านไร่ คาดจะมีผลผลิตออกมา 6.5 ล้านตัน แต่โครงการมีเป้าหมายซื้อเพียง 3.8 ล้านตัน คำถาม คือ ส่วนที่เหลือจะทำอย่างไร และชาวนาที่เกี่ยวไปแล้วก่อนหน้านี้ จะทำอย่างไร ส่วนเรื่องการเผาฟาง ซึ่งสมาคมฯ ได้นำเสนอต่อที่ประชุม แต่ที่ประชุมบอกว่าไม่มีความชำนาญเชี่ยวชาญพอ และโยนให้กระทรวงเกษตรฯ นำไปพิจารณาพิจารณาในคณะอนุกรรมการด้านการผลิตต่อไป


โดยสมาคมชาวนาฯ ย้ำว่า สิ่งที่ชาวนาต้องการ คือ ขายข้าวสดได้ 8,000 บาทต่อตัน และยื่นคำขาดให้คณะอนุกรรมการนโยบายและบริหารข้าวงแห่งชาติ ทบทวนและวางมาตาการใหม่ตามที่ชาวนาร้องขอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนา และ "ป้องกันการสุ่มเสี่ยงทางเสถียรภาพของรัฐบาล"


ทั้งนี้ในการแถลงมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการ นบข. ด้านการตลาด วานนี้ คุณปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ได้เข้าร่วมประชุม และร่วมแถลงผลประชุมด้วย และบอกว่า พอใจในมาตรการที่ออกมาระดับหนึ่ง เพราะเกี่ยวสด และขายได้ในราคา 8,000 บาท ชาวนาก็พออยู่ได้ แต่ก็ยากให้รัฐบาลพิจารณาในส่วนของชาวนา ที่ขายข้าวไปก่อนหน้านี้ด้วย


3 มาตรการ แก้ราคาข้าวนาปรังตกต่ำ

1.ขยายโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปรัง ช่วยค่าฝากเก็บ 1,500 บาท/ตัน จำนวน 1.5 ล้านตัน

2.เปิดจุดรับซื้อ รัฐให้ค่าบริหารจัดการ 500 บาท/ตัน โรงสีซื้อในราคานำตลาด 300 บาท/ตัน เป้าหมาย 300,000 ตัน

3. ชดเชยดอกเบี้ย 6% โดยให้โรงสีซื้อข้าวในราคานำตลาด 200 บาท/ตัน เป้าหมาย 2 ล้านตัน

ทั้ง 3 มาตรการ ใช้งบ 1,893.53 ล้านบาท คาดเสนอ นบข. เคาะสัปดาห์หน้า

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/BtyEMU4c7JU