สังคม

แต้มบุญสูง! ยายถูกแก๊งคอลฯ หลอกสูญ 2 ล้าน ล่าสุด จนท.ตามอายัดทัน

5 ก.พ. 2568

194 views

อดีตครูเกษียณวัย 85 ปี โดนแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกสูญเงิน 2 ล้านบาท ทั้งที่ไม่มีแอพธนาคาร และโชคดีที่แต้มบุญเยอะ ธนาคารสามารถอายัดเงินได้ทัน



ผู้เสียหาย คือ นาง ผาสุข ทิศเสถียร เป็นอดีตคุณครูเกษียณวัย 85 ปี เล่าว่า เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีเบอร์โทรศัพท์แปลกๆ โทรเข้ามา แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการคลัง ชื่อว่า "สุกัญญา อุทัยแสน" พร้อมส่งภาพหน้าบัตรมาให้ ก่อนจะบอกว่า ทางกระทรวงการคลังตรวจสอบพบว่าคุณยายซื้อสลากออมสินไว้ 4 ล้านบาท ซึ่งเกินยอดที่ทางรัฐบาลกำหนด เพราะรัฐกำหนดให้ซื้อสลากออมสินได้แค่ 2 ล้านบาทเท่านั้น ดังนั้นคุณยายต้องไปถอนสลากออมสินออกมาเป็นเงินสด 2 ล้านบาท






แถมยังบอกด้วยว่า คุณยายไม่ได้เสียภาษีมาตั้งแต่อายุ 70 ปีใช่ไหม หากมีสลากออมสินเยอะแบบนี้ จะต้องโดนภาษีย้อนหลัง และคุณยายหยุดจ่ายภาษีมานาน ดังนั้นต้องจ่ายย้อนหลังเป็นเงินจำนวนมาก // ส่วนสาเหตุที่ทำให้คุณยายหลงเชื่อ เพราะคนร้ายสามารถบอกรายละเอียดถูกว่า คุณยายมีกี่บัญชี และแต่ละบัญชี มีเงินเก็บสะสมอยู่เท่าไหร่ รวมถึงรู้ด้วยว่ามีสลากออมสินที่ซื้อไว้กี่บาท ทำให้คุณยายเกิดความกลัว





จากนั้นคนร้ายได้หลอกให้คุณยายไปถอนเงินที่ซื้อสลากออมสินออกมา 2 ล้านบาท คุณยายจึงไปถอนที่สลากออมสินที่ธนาคารออมสิน สาขาปากเกร็ด เป็นเงิน 2 ล้านบาท และนำเงินสดทั้งหมดฝากเข้าไปที่ธนาคารออมสินในชื่อบัญชีตัวเองเหมือนเดิม คนร้ายอ้างว่าทำแบบนี้เพื่อเป็นการพักเงิน และหลีกเลี่ยงการเสียภาษีย้อนหลัง





พอกลับมาบ้านมิจฉาชีพโทรกลับมาอีกครั้ง รอบนี้วิดีโอคอลมาหาคุณยายคุยเป็นชั่วโมง แล้วก็ทำทีสอนคุณยายตั้งค่าการใช้ไลน์ พร้อมบอกให้คุณยายทำหน้านิ่งๆ ทำตาโตๆ หมุนซ้ายหมุนขวา แม้คุณยายบอกว่าหิวข้าวแล้ว มิจฉาชีพก็ยังไม่ปล่อย ตอนนั้นคุณยายก็เอะใจว่าคนที่คุยด้วยเป็นเจ้าหน้าที่แบบไหน ถึงมีเวลามานั่งคุยด้วยทั้งวัน แต่ยังไม่ได้เอะใจเรื่องเงิน เพราะเงินยังอยู่ในบัญชีของเธอ ก็น่าจะปลอดภัย





กระทั่งวันที่ 4 กุมภาพันธ์ มิจฉาชีพส่งข้อความมาหาคุณยายตอน 8 โมงเช้า บอกว่า ให้คุณยายไปถอนสลากออกมาอีก 2 ล้านบาท แต่ต้องไปธนาคารออมสิน แถวเมืองทองธานี คุณยายก็ไปตามที่คนร้ายบอก แต่เข้าใจผิดคิดว่าคนร้ายให้ไปถอนเป็นเงินสดที่ฝากเอาไว้ออกมา จึงเอาสมุดบัญชีเงินฝากให้เจ้าหน้าที่ธนาคาร ถึงได้รู้ว่าเงินสลากออมสิน 2 ล้านที่เพิ่งไปเมื่อวานถูกถอนออกไปหมดแล้ว คุณยายบอกว่า ตอนนั้นตกใจมากจึงรีบโทรหาลูกชายให้ลูกชายมาหา ก่อนจะเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี





หลังแจ้งความตำรวจก็แจ้งว่าอาจจะสายไปแล้ว เพราะข้ามวันมาแล้ว จากนั้นคุณยายพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่ามิจฉาชีพนั้นดูดเงินออกไปง่ายมาก และยังไม่เข้าใจว่าทำไมมิจฉาชีพถึงดูดเงินออกไปได้ ทั้งที่คุณยายไม่มีแอพธนาคารในโทรศัพท์มือถือ





และเมื่อเช้าวันนี้ (5ก.พ.68)มีมิจฉาชีพอีกกลุ่มโทรมาหลอกคุณยายอีก แต่โชคดีที่หลานเป็นคนคุย // ตอนนี้ก็พยายามทำใจ ไม่คิดมาก แต่ก็รู้สึกเสียดายเงิน





สำหรับเงินที่เก็บไว้ตั้งใจว่า จะเก็บเอาไว้ให้ลูกหลานเป็นมรดกคนละ 1 ล้านบาท และเก็บเป็นค่าทำศพตัวเองอีก 1 ล้านบาท จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนใคร แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังเหลือเงินอีก 2 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ธนาคารช่วยระงับให้แล้ว





เมื่อช่วงสายที่ผ่านมาตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้เชิญตัวคุณยายมาสอบปากคำเพื่อขอข้อมูลคนร้าย โดยใช้เวลาสอบปากคำนานหลายชั่วโมง จากนั้น พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ สอท. ออกมาบอกว่า ด้โอนสำนวนคดีมาจากสภ.ปากเกร็ด มาที่ สอท.แล้ว พร้อมประสานงานกับธนาคารเพื่อตรวจสอบเส้นทางเงิน 2 ล้าน และระงับบัญชีต่างๆ ที่เงินจำนวนนี้โอนไปถึง พบว่าเงินถูกโอนไป 2-3 ทอด ก่อนจะไปนิ่งที่ธนาคารแห่งหนึ่ง และเป็นโชคดีที่สามารถอายัดเงินในบัญชีนี้ไว้ได้ทัน แต่อาจจะถูกหักค่าธรรมเนียม 200 บาท หลังจากนี้จะทำหมายอายัดเพื่อนำเงินมาคืนให้กับครูผาสุข





ผู้บัญชาการ สอท. บอกว่า คุณยายถูกหลอกด้วยวิธีการโทรศัพท์มาหาในช่วงเช้าที่คุณยายกำลังตื่น และอาจจะยังไม่มีสติในพูดคุย คนร้ายบอกกับคุณยายว่ามีพันธบัตรสลากธนาคารออมสินมีอยู่ 4 ล้านบาท ซึ่งเกิดกว่าที่กฎหมายกำหนด หากไม่ทำให้ถูกต้อง หรือไม่ทำให้เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่า 2 ล้านบาทก็จะถูกเก็บภาษี จากนั้นหลอกให้คุณยายพูดคุยโดยการวิดีโอคอลร่วม 1ชั่วโมง และล่อลวงให้คุณยายโหลดแอพพลิเคชั่นธนาคารมาไว้ในมือถือ จากนั้นก็สอนให้คุณยายเข้าไปในแอพธนาคาร และทำธุรกรรมรวมถึงสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน ก่อนจะดูดเงินออกจากธนาคารคุณยายไป โดยคุณยายไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่มิจฉาชีพให้ทำนั้นคือการยืนยันใบหน้าในแอพธนาคาร





หลังคุณยายทราบข่าวจากตำรวจไซเบอร์ว่า สามารถอายัดเงินในบัญชีได้ทัน ก็ดีใจจนแทบจะเป็นลม ทำให้ นาย ทัศน์พล ทิศเสถียร เป็นหลานชาย ออกมาให้สัมภาษณ์แทน โดยบอกว่า คุณย่าเหนื่อย เพราะหลังจากที่เกิดเหตุคุณย่าจิบเพียงน้ำเปล่าไม่ยอมกินข้าว ทำให้ไม่มีแรง และกลายเป็นคนวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องเงินในธนาคารจนกลายเป็นแพนิคไม่กล้าเก็บเงินไว้กับตัวเอง เพราะกลัวจะถูกหลอกอีก





แต่ล่าสุดพอทราบว่าตำรวจสามารถอายัดเงินได้ ก็ดีใจและขอบคุณตำรวจ และสื่อมวลชน ที่ช่วยเหลือจนได้เงินคืน // ตอนนี้คนที่บ้านได้กำชับคุณย่าไม่ให้รับสายเบอร์แปลก และเตรียมโยกย้ายเงินไปบัญชีอื่น ส่วนสภาพจิตใจของคุณย่าตอนนี้ดีขึ้น สามารถกลับมารับประทานอาหารได้เหมือนเดิมแล้ว





นอกจากนี้ตำรวจไซเบอร์ได้ให้คุณยายโหลดแอปพิเคชั่น "Senior’s Community Cyber Police Club" เพื่อป้องกันเหล่ามิจฉาชีพโดยหากมีมิจฉาชีพ โทรหรือส่งข้อความมา คุณย่าสามารถแจ้งเข้าไปในแอพพลิเคชั่นเพื่อตรวจสอบได้




สำหรับการทำงานของแอพฯ นี้ เป็นเครือข่ายชุมชนเตือนภัย โดยเข้าผ่านเว็บไซต์ระบบรับแจ้งความออนไลน์ เนื้อหาในเว็บไซต์ จะเกี่ยวกับความรู้เรื่องภัยออนไลน์ เพื่อลดความเสี่ยงจากการที่ผู้สูงอายุถูกหลอกลวง และสร้างเกราะป้องกันภัยไซเบอร์ในชีวิตประจำวัน ด้วยข้อมูลที่เข้าถึงง่ายและน่าจดจำ ให้ความรู้ในการป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทำขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถใช้เทคโนโลยีได้อย่างปลอดภัย และไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/xn54I1JVA2g

แท็กที่เกี่ยวข้อง  แก๊งคอลฯหลอก

คุณอาจสนใจ