อบอวลด้วยรัก! เปิดใจคู่รัก LQBTQ+ จูงมือจดทะเบียนสมรส สุดปลื้ม ความรักทุกเพศเท่าเทียม

23 ม.ค. 2568 วันประวัติศาสตร์ กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับวันแรก ตั้งแต่เช้าเรียกว่า คึกคักทุกจังหวัด คู่รัก LQBTQ+ จำนวนมากจูงมือกับไปจดทะเบียนสมรส หนึ่งในจุดที่เรียกว่าเป็น ไฮไลท์ และจัดขึ้นเป็นสัญลักษณ์การเฉลิมฉลอง คือ ที่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน สำนักงานเขตปทุมวัน จัดจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่



บรรยากาศการจดทะเบียนสมรสนอกสถานที่ ที่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน คึกคักตั้งแต่หน้าห้างฯ "Bangkok Pride" (บางกอกไพรด์) โดย นฤมิตรไพรด์ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เล่นใหญ่ แห่ขันหมาก "สมรสเท่าเทียม" ร้องโห่กลองยาวจัดเต็ม นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมขบวนแห่ขันหมากด้วย และร่วมปาฐาถาพิเศษในงาน ส่วนน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ร่วมเปิดงานผ่าน วิดีโอคอนเฟอเรนซ์



ทั้งนี้ หลายคู่ ร่วมเปิดใจ หลังการจดทะเบียนสมรส บรรยากาศชื่นมื่นอบอวลไปด้วยความรัก อย่างเช่น นางสาววารินทร์ และ นางสาวอะคิ อูริว คู่รักไทย-ญี่ปุ่น ที่วันนี้จับมือกันมาจดทะเบียนสมรส โดยภายหลังจดทะเบียน นางสาววารินทร์ ใช้นามสกุล "อูริว" พร้อมบอกว่า คู่รักของเธอเป็นคนญี่ปุ่น เธออยากให้ที่ญี่ปุ่นยอมรับเรื่องนี้ด้วย เพราะที่บ้านเขายังไม่มีกฎหมายที่รักรองและเปิดกว้างเหมือนไทย



ทั้งคู่ เธออยู่ด้วยกันมา 11 ปีแล้ว "ถ้าอยู่ญี่ปุ่นก็จะต้องเงียบ เก็บตัว แต่พอย้ายมาอยู่ที่นี่มันเปิดกว้างมากขึ้น ที่ผ่านมาผ่านความยากลำบากมามาก ใช้ชีวิตคู่กันหลบๆซ่อนๆ จับมือไม่ได้ แสดงความรักในที่สาธารณะไม่ได้ แม้ไม่มีใครบอกแต่เราก็รู้สึกได้ เพราะสังคมไม่ได้ยอมรับ" นางสาววารินทร์ กล่าวด้วยน้ำตาคลอ



ขณะที่นางสาวอะคิ กล่าวว่า รู้สึกดีใจ ที่ญี่ปุ่นไม่ได้มีกฎหมายตัวนี้ แต่งงานไม่ได้เลย ซึ่งคนรักของตนได้โทรศัพท์มาขอให้จดทะเบียนด้วย ตนก็ตกใจว่าอ้าว มีกฎหมายข้อนี้ด้วยเหรอ ทั้งนี้ ทั้งคู่ได้ใบทะเบียนสมรสคิวที่ 11 ตรงกับปีที่คบพอดี



อีกคู่ที่เรียกว่าเป็นไวรัลตั้งแต่เช้า คู่รักตำรวจ จูงมือมาจดทะเบียน หลังคบหากันมา 6 ปี จ่าสิบตำรวจพิสิษฐ์ สิริหิรัญชัย ตำรวจจาก บก.น.3 เดินทางมาจดทะเบียนสมรสพร้อมกับนายชนาธิป สิริหิรัญชัย พนักงานบริษัทเอกชน โดยคู่นี้ได้จดทะเบียนเป็นคู่ที่ 6



จ่าสิบตำรวจพิสิษฐ์ กล่าววว่า ตั้งใจมาเป็นคู่แรกเลยด้วยซ้ำแต่มาไม่ทัน ที่ผ่านมาติดตามการจดทะเบียนสมรสมานาน ด้วยเขตนี้เป็นเขตแรกที่ประกาศว่าจะมีการจดทะเบียนสมรส เราคบกันมา 6 ปีแล้ว เราต้องการใช้กฎหมายที่มีอยู่ดูแลเขา มองว่าการจดทะเบียนเป็นจุดเริ่มต้นของคำว่าสมบูรณ์ของครอบครัว ตอนนี้รู้สึกดีใจและมีความสุขในสิ่งที่ไม่นึกไม่หวังว่าเรา 2 คนจะมาจดทะเบียนสมรส พอได้มาจดจริงก็เลยมีความสุข ทำอะไรไม่ถูก ด้านนายชนาธิป กล่าวเสริมว่า รู้สึกมีความสุขมาก เราผลักดันมา 3 ปีแล้ว



เมื่อถามว่า รู้จักกันได้อย่างไร จ่าสิบตำรวจพิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า จุดเริ่มต้นมาจาก TikTok เพราะตนไปโพสต์ประกาศขายลูกหมา เขาก็มาติดต่อซื้อ แล้วก็เอาไปส่งครั้งหนึ่ง จากนั้นก็ชวนไปทำบุญ รู้สึกว่าไลฟ์สไตล์เหมือนกัน ก็เลยเริ่มต้นความรัก



เมื่อถามว่าต้องมีฮันนีมูนหรือไม่ ทั้ง 2 คน ออกอาการเขิน ระบุว่า ก็จะมีงานแต่งเล็กๆที่บ้าน



"ถ้าคิดว่าจะเป็นหลักเป็นฐานให้กันและกัน แล้วควรมาจดไป เพราะมันมีสิทธิ์ต่างๆที่กฎหมายรองรับเรา ไม่ว่าอนาคตต่อไปเราจะอยู่ด้วยกันไปหรืออีกฝ่ายหนึ่งป่วยเข้าโรงพยาบาลเราก็สามารถตัดสินการรักษาได้" จ่าสิบตำรวจพิสิษฐ์ กล่าว



เมื่อถามว่าความรักในเครื่องแบบถือว่ายากหรือไม่ จ่าสิบตำรวจพิสิษฐ์ ระบุว่า ไม่ได้ยาก อยู่ที่ว่าตัวเราจะยอมรับหรือเปล่า เพราะคนเราบางคนก็ระวังเรื่องอาชีพการงานหรือเครื่องแบบ เรามองข้ามจุดนั้นไป เพราะเราใช้สติปัญญาในการทำงาน ไม่ใช่เพศในการทำงาน



ส่วนคู่รักรุ่นเดอะ นางสาวปกชกร วงศ์สุภาร์ หรือย่าตุ๊ก ได้ควงนางสาวกัญจน์ เกิดมีมูล หรือ ปู่กัญจน์ วันนี้ไม่ได้มาจดทะเบียนสมรส แต่มาให้กำลังใจคนที่มาจดทะเบียนวันนี้



ย่าตุ๊ก บอกว่า เรามันคนวันนี้แล้ว ผ่านมานานมาก 30 กว่าปีแล้ว พร้อมถามกลับผู้สื่อข่าวว่า "เกิดยังคะ" ย่าตุ๊ก เล่าว่า เรื่องราวของเรายาวนานมากจนคนอาจจะคิดไม่ถึง แต่เรื่องหญิงรักหญิง ถ้าเราไปศึกษา มันมีมานานแล้ว



เมื่อถามว่ามีเคล็ดลับในการใช้ชีวิตอย่างไร ย่าตุ๊ก กล่าวว่า ตนไม่ถือว่าเป็นเคล็ดลับ เพราะทุกคู่ก็เหมือนกันคือต้องผ่านกระบวนการมีความรักมาก่อน ทะเลาะกัน ความรักมันก็ดรอปไป ผ่านกระบวนการต่างๆ เหมือนกับทุกคู่ที่มีการทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง คงบอกว่ามีทุกรสชาติ เราต้องอดทน ให้อภัยและยอมรับในความเป็นตัวตนของแต่ละคน ไม่ต้องไปรู้สึกโกรธ ก็เราทะเลาะกันน้อยมาก เนื่องจากเคยผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว



ส่วนเมื่อถามว่าปู่กัญจน์ ชอบอะไรในตัวย่าตุ๊ก ปรากฏว่าปู่กัญจน์ ออกอาการเขิน ระบุว่า รักที่เธอเป็นเธอ ที่อยู่เคียงข้างกัน เวลาเจ็บป่วยไปโรงพยาบาล ก็ไปด้วยตลอด เวลาปู่ทำเรื่องไม่ดี ย่าก็ทนได้ส่วนย่าตุ๊ก กล่าวว่า ชอบปู่กัญจน์ที่จิตใจดี เสมอต้นเสมอปลาย เวลาอยู่ด้วยกันเขาไม่เคยมองใคร



ส่วนที่ว่าการอำเภอเมืองกระบี่ นางสาวอมรรัตน์ หรือ "เหมี่ยวหลัน" ปางวัชรากร อายุ 63 ปี อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองกระบี่ เจ้าของร้านอาหารชื่อดัง จังหวัดกระบี่ ควงคู่ นางสาวจารึก ทับทิมทอง อายุ 58 ปี เดินทางมาจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม ตั้งแต่เปิดทำการ ซึ่งเป็นคู่แรก



บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานครึกครื้น พรรคพวกเพื่อนฝูงญาติๆ เดินทางมาแสดงความยินดีกัน



ทั้งคู่ เปิดเผยว่า อยู่กินกับคู่รักมาเป็นระยะเวลา 20 กว่าปี รู้สึกดีใจที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม จึงเดินทางมาจดทะเบียนสมรสกัน ซึ่งที่ผ่านมาทรัพย์สินที่ร่วมสร้างกัน ใช้ชื่อร่วมกันทั้งสองคนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง



ส่วนวันนี้ ดอกไม้ เสื้อผ้า การแต่งหน้า เพื่อนๆ หลานๆ ทำให้ทั้งหมด เรียกว่า ตื่นเต้นกันทั้งบ้าน ไม่เฉพาะ เรา 2 คน แต่รวมถึงเพื่อนๆ หลานๆ ทุกคนดีใจด้วยทั้งนั้น ตื่นกันตั้งแต่ตี3 ตี 4

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/dd8oQGNS5XI