ตร.แจงอายัดเงิน 'ชาล็อต' 8 แสนทัน ก่อนถูกแปลงเป็นเงินดิจิทัล ยันดูแลผู้เสียหายทุกคดีเท่าเทียม

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ชี้แจงถึงประเด็นการจับกุมบัญชีม้าทีนางสาวชาล็อตโอนไป จะทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันในสังคมว่าเพราะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงจึงทำให้จับกลุ่มอย่างรวดเร็วนั้น พล.ต.ท.ไตรรงค์ ยืนยันว่า การปฎิบัติงานเหมือนกันหมด ไม่เกี่ยวกับว่าเป็นนางงาม หรือบุคคลที่มีชื่อเสียง ทุกอย่างขั้นตอนเหมือนกันหมด



ซึ่งเคสของนางสาวชาล็อต ก็ดำเนินการตามขั้นตอน แต่ก็ยอมรับว่าส่วนนึง พอปรากฏเป็นข่าว ตนเองในฐานะรักษาราชการแทนผู้บัญชาการไซเบอร์ ก็เห็นว่าเคสนี้มันเข้าข่ายที่ตำรวจไซเบอร์จะรับมาดำเนินการได้ ก็เลยให้ตำรวจไซเบอร์ประสานไปที่ สน. สุทธิสาร ที่ชาล็อตแจ้งความไว้ ว่ามีการลงในระบบหรือยัง เมื่อลงแล้ว คดีนี้จะโอนให้ไซเบอร์ทำหรือไม่ ซึ่งทางเรายินดีที่จะทำให้เพราะเป็นคดีที่ยุ่งยาก ซับซ้อน ทาง สน. สุทธิสารก็กดโอนมาในระบบ และโชคดีที่สถาบันทางการเงิน ระบบสื่อสารที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ไว จึงทำให้ประสานข้อมูลได้ไว ประกอบกับพอเราไล่จากเส้นการเงินที่ 1 ไปแถวที่ 2 ที่ 3 ปรากฏว่าไปเกี่ยวพันกับเคสไอดีเดิม ที่ตำรวจไซเบอร์มีฐานข้อมูลอยู่แล้ว พอมันสอดคล้องกัน ตรงกัน ก็ทำให้การดำเนินการที่จะอายัดเงินได้อย่างน้อยหนึ่งเส้น และดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหาได้ไว



โดยเส้นเงิน เส้นหนึ่งที่อายัดไว้ เป็นรูปแบบของกระเป๋าเงินดิจิทัล ซึ่งเส้นเงินที่มาจากน้องชาล็อต ประมาณ 700,000ถึง 800,000 บาท ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นเงินสกุลดิจิทัล จึงได้มีการประสานขออายัดชั่วคราวไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลนี้ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือในการอายัด แต่คงต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป เนื่องจากว่าบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทต่างประเทศ



ทั้งนี้ ปลายทางของเส้นเงินหนึ่งเส้นที่อายัดไว้ได้พบว่าแปลงไปเป็นเงินสกุลดิจิทัล และไปอยู่ใน Wallet ของชาวต่างชาติ แต่ไม่ขอระบุสัญชาติ



ส่วนกรณีที่ของอดีตนางงามมิสยูนิเวิร์ส อักษรย่อ อ. ทาง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ในคดีที่มีความเชื่อมโยงกับเคสของคุณชาล็อต พบว่ามีความเชื่อมโยงกับอีกกว่า 100 เคสไอดี ในจำนวนนี้ มีคดีของน้องอายุ 17 ปี ก็ได้ประสานไปที่สน. ที่รับคดี เบื้องต้นว่าจะโอนคดีมาที่ไซเบอร์ ซึ่งก็มีการโอนมาก็รับดำเนินการ



ส่วนอีกเคสหนึ่ง ที่มีการแจ้งความไว้ที่สน. ลุมพินี(เคสนางงาม อ.) ก็ได้ประสานไปแล้วแต่ว่ายังไม่ประสงค์ที่จะโอนคดีมา ซึ่งไม่เป็นไร ทางเราก็จะส่งข้อมูลที่เราสืบสวนได้ ที่มีความเชื่อมโยงกันให้กับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี



เมื่อสอบถามว่าไม่ประสงค์ที่จะโอนคดีมานั้น เป็นในส่วนของทางผู้เสียหาย หรือทางสน. ต้นทาง ทาง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า เป็นสน. ต้นทาง ก่อนอธิบายว่าการโอนคดีออนไลน์ เรามีคำสั่งของสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าคดีประเภทใดที่ทางสถานีตำรวจจะเป็นผู้รับผิดชอบ ในการสอบสวนและคดีประเภทใดที่ทางตำรวจไซเบอร์จะรับผิดชอบในการสอบสวน แต่คดีทั้งหมดถ้ามีความยุ่งยาก ซับซ้อนทางตำรวจท้องที่ที่รับไว้ก็สามารถร้องขอ หรือส่งคดีมาให้ตำรวจไซเบอร์ทำได้ หรือเป็นคดีที่มีลักษณะเป็นกระบวนการ ก็จะมีการพิจารณาเป็นเคสๆ ไป

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Wkb8DJgaaD4