สังคม

นายกฯ แจงยิบ MOU 44 ยัน 'เกาะกูด' เป็นของไทย จะไม่ให้เสียแผ่นดินแม้ตารางนิ้วเดียว

โดย panisa_p

4 พ.ย. 2567

51 views

นายกฯ นำพรรคร่วมแถลง​เดินหน้า​ MOU 44 ถามกลับยกเลิกแล้วได้อะไร​ ยืนยัน เกาะกูดเป็นของเรา​ ลั่น​ ดิฉันเป็นคนไทย​ 100% จะไม่ให้เสียแผ่นดินแม้ตารางนิ้วเดียว​ อย่าเอาการเมืองมาทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ​ สั่นคลอน​ ยอมรับ​ สัมพันธ์ "ทักษิณ-กัมพูชา" ดี​ แต่เจรจาประโยชน์ประเทศ​ ต้องใช้คณะกรรมการ



ภายหลังประชุมขับร่วมรัฐบาลนาน​ กว่า 2 ชั่วโมง นางสาวแพทอง​ธาร​ ชินวัตร​ นายก​รัฐมนตรี​ ได้นำหัวหน้าและเลขาพรรคร่วมรัฐบาล​ร่วมกันแถลงข่าว​ ว่า​ ที่ประชุมได้มีการหารือถึง​ MOU 2544 พื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนทางทะเล ระหว่างไทย -กัมพูชา โดยยืนยันว่าเกาะกูดเป็นของประเทศไทย เป็นมาตั้งนานแล้ว และกัมพูชา​ ก็รับรู้เช่นกัน​ ทั้ง 2 ประเทศรับรู้อยู่แล้วว่าเกาะกูดเป็นของประเทศไทย ตามสนธิสัญญาฝรั่งเศส และรัฐบาลนี้ก็จะไม่ยอมเสียพื้นที่ ของประเทศไทย​ แม้แต่ตารางนิ้วเดียว ไปให้ใครก็ตาม​ และเรื่องเกาะกูด กับกัมพูชา​ เราไม่เคยมีปัญหา และไม่เคยมีข้อสงสัยด้วย ดังนั้น​ คงเป็นการเกิดความเข้าใจผิดของคนในประเทศไทยเอง​ ขอให้มั่นใจได้เลยว่าเกาะกูดเป็นของประเทศไทย​



ส่วน MOU 44 ยังคงอยู่ไม่สามารถยกเลิกได้ เพราะหากจะยกเลิก​ ต้องเป็นการตกลงของทั้ง 2 ประเทศ​ เนื่องจากหากยกเลิกเองจะถูกกัมพูชาฟ้องร้อง​ เนื่องจากเป็นการตกลงกันระหว่างประเทศ​



เมื่อถามว่ารัศมีรอบเกาะกูดในน้ำทะเลมีการแบ่งหรือไม่​ ว่า​ ส่วนใดเป็นของใคร​ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า​ ใน MOU เขียนไว้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเกาะกูด​ ไปดูเส้นที่เขาตีได้เลย​ เขาเว้นเกาะกูดไว้ให้เรา​ และที่คุยกันไม่ได้พูดคุยกันพื้นที่ดิน เราคุยกันในพื้นที่ทะเลว่าสัดส่วนเป็นอย่างไร​ แต่ตอนนี้ใน MOU คือ​ ขีดเส้นไม่เหมือนกัน​ จึงมีการตกลงกันว่าจะมีการเจรจากันระหว่าง 2 ประเทศ นี่คือความหมายใน MOU 44 เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เราต้องมีคณะกรรมการขึ้นมาคุยกัน​ ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการของทางฝั่งกัมพูชามีอยู่แล้ว​ แต่ของไทย​ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาล​ ก็ต้องเปลี่ยนคณะกรรมการ​ ซึ่งเมื่อสมัยพลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา ก็มีการตั้งคณะกรรมการ​ พอมาถึงสมัยตน​ ก็อยู่ระหว่างการจัดตั้งคณะกรรมการชุดนี้อยู่​ เพื่อมาศึกษาและพูดคุยกัน​ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน​ ไม่ถึงเดือน​



เมื่อถามว่า เมื่อไม่มีการยกเลิก MOU ทำให้ถูกมองว่าไทยยอมรับเส้นของกัมพูชา​ นายกรัฐมนตรี​ ยิ้มและสายศีรษะ​ ก่อนจะกล่าวว่านั่นคือความเข้าใจผิด​ เราไม่ได้ยอมรับเส้นอะไรทั้งสิ้น MOU นี้ ทั้ง 2 ประเทศคิดไม่เหมือนกัน แต่เราต้องแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะตั้งแต่ปี 2515 กัมพูชา​ ขีดเส้นมาก่อน พอมาปี​ 2516 ประเทศไทยก็ขีดด้วย​ แต่ข้อตกลงไม่เหมือนกัน​ จึงต้องมีการตั้ง​ MOU​ ​ขึ้นมาเปิดการเจรจา​



" MOU นี้ไม่เกี่ยวกับเกาะกูดเลย เกาะกูดไม่เคยอยู่ในการเจรจานี้ ขอให้คนไทยทุกคนสบายใจได้เลย ว่าเราไม่เสียเกาะกูดไป และกัมพูชา​ ก็ไม่ได้สนใจเกาะกูดด้วย​ จึงขออย่ากังวลเรื่องนี้เกาะกูดก็เป็นของประเทศไทยเหมือนเดิม"



เมื่อว่าถาม เคยมีการยกเลิก MOU ฉบับนี้เมื่อสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์​ เวชชาชีวะ​ นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ ไม่มี​ MOU 44 ยกเลิกไม่ได้ ถ้าไม่เกิดการตกลงระหว่าง 2 ประเทศ อีกทั้งจะยกเลิกต้องผ่านกระบวนการของรัฐสภา​ เมื่อปี 2552 ก็ไม่มีการนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมรัฐสภาด้วย หรือแม้แต่สมัยพลเอกประยุทธ์​ 2557 ก็ไม่มีการยกเลิก​



เมื่อว่าถามว่​า​ มีกระแสที่ต้องการให้ยกเลิก นายกรัฐมนตรี​ จะคุยอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดกระแสบานปลาย นางสาวแพทองธาร​ ถามกลับว่ายกเลิกแล้วได้อะไร​ ต้องกลับมาที่เหตุและผล​ ทุกประเทศคิดไม่เหมือนกันได้ แต่เมื่อเห็นไม่เหมือนกันจะต้องมี MOU เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างประเทศ เรื่องนี้สำคัญมาก การรักษาไว้ซึ่งความสงบระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญ​ ดังนั้น MOU นี้​ เป็นการเปิดให้ทั้งสองประเทศได้คุยกัน​ และเมื่อถามว่ายกเลิกแล้วได้อะไรบ้าง​ ถ้าเรายกเลิก​ฝ่ายเดียว​ จะโดนฟ้องร้องจากกัมพูชาแน่นอน​



เมื่อถามว่า หากนายกฯเดินหน้าลุยต่ออาจจะดูเหมือนไม่ฟังเสียงคัดค้าน​ นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ "ไม่จริงเลยค่ะ ที่มาในวันนี้ทุกคนตกลงกันอย่างง่ายดาย ตาม Concept เลยว่า เรื่องนี้คือข้อตกลงเจรจาระหว่างประเทศ ไม่เกี่ยวกับเสียงคัดค้าน วันนี้ที่ออกมาพูดให้พี่น้องประชาชนฟัง เพื่อจะอธิบายให้เข้าใจว่า MOU 1.ไม่เกี่ยวกับเกาะกูด​ เกาะกูดเป็นของเรา 2. MOU​ เป็นเรื่องระหว่าง 2 ประเทศ หากจะมีการยกเลิกต้องเป็นการตกลงกันระหว่าง 2 ประเทศ​ 3. เรายังไม่ได้เสียเปรียบ ในเรื่องของการตกลง เรื่องนี้เกิดจากการขีดเส้นที่ไม่ตรงกันจึงมีการตั้ง MOU ขึ้นมาเพื่อให้ 2 ประเทศเจรจาตกลงร่วมกันในผลประโยชน์​ เพราะฉะนั้นอย่าเอาเรื่องของการเมืองมาทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสั่นคลอน ขอให้ทำความเข้าใจให้ถูกต้องตามหลัก"



เมื่อถามว่าพรรคร่วม​ทั้งหมดเห็นด้วยกับ MOU นี้ใช่หรือไม่​ แกนนำ​ทุกคนที่ร่วมแถลงข่างพยักหน้า​ ก่อนที่นายกรัฐมนตรี​ จะกล่าวว่า ​"ใช่ค่ะ" เราจะเดินหน้าต่อ และพี่ต้องทำอยู่ตอนนี้คือกัมพูชากำลังรอเรา​ ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาและเป็นตัวแทนไปพูดคุย​ โดย คณะกรรมการจะประกอบด้วย​ กระทรวงการต่างประเทศกระทรวงพลังงาน​ กระทรวงกลาโหมที่จะช่วยกันดู​



เมื่อถามว่ากังวลประเด็นนี้จะบานปลายหรือไม่​ นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ ถ้าทุกคนเข้าใจแล้ว​ ไม่น่าจะบานปลาย​ เพราะมันก็คือข้อเท็จจริง ว่ามันต้องเป็นแบบนั้น​ ไม่มีการคุยอะไรข้างหลัง​ เพราะมันคือกรอบ​และเป็นกฎหมายอยู่แล้ว​



เมื่อถามว่าจะเป็นเผือกร้อนในมือนายกรัฐมนตรีหรือไม่​ นางสาวแพทองธาร​ กล่าวว่า​ "ไม่เลยค่ะ"



เมื่อถามถึงข้อกังวลแหล่งพลังงานใต้ทะเล​ นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ ต้องคุยกันระหว่างประเทศก่อน เรื่องนั้นเราต้องศึกษารายละเอียดด้วย ว่าจะแบ่งอย่างไรได้บ้าง​ ให้ได้ประโยชน์ทั้ง 2 ประเทศ​ และยุติธรรมมากที่สุด​ จึงมีการตั้งคณะกรรมการ​ ผู้รู้ไปศึกษาเพื่อไปพูดคุยกับกัมพูชา​ด้วย​ เพื่อที่จะได้มาชี้แจงต่อประชาชนอย่างชัดเจน​



เมื่อถามว่าจะใช้ความสัมพันธ์อันดีของนายทักษิณ​ ชิน​วัตร​ ในการพูดคุยกับกัมพูชาหรือไม่​ เพราะอาจจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศได้​ นายกรัฐมนตรี​ กล่าวว่า​ ความสัมพันธ์อันดี​ สามารถสร้าง Connection ดีๆได้ แต่เรื่องผลประโยชน์ของประเทศเขาและประเทศเรา​ ต้องใช้คณะกรรมการ​ เพื่อที่จะได้ไม่มีอคติ​ ในพูดคุยกัน​ โดยเฉพาะในประเด็นสำคัญ​ เพื่อให้เกิดการรู้​ จริงรู้ครบและเกิดความยุติธรรมด้วย​



เมื่อถามว่า รัฐบาลรักษาผลประโยชน์ของประเทศไทย 100% ใช่หรือไม่​ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า​ "ดิฉันเป็นคนไทย​ 100% อย่างที่บอก ประเทศไทยต้องมาก่อน คนไทยต้องมาก่อน รัฐบาลนี้ยืนยัน รัฐบาลนี้จะรักษาแผ่นดินไทยไว้อย่างเต็มที่ และจะทำให้พี่น้องคนไทยมีความสุขที่สุด นั่นคือสิ่งที่ต้องการ"



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Tp2yYoPKvo8

คุณอาจสนใจ

Related News