สังคม

แฉสนั่น! 'สนธิ' จองกฐิน 'ทนายตั้ม' จ่อร้องสภาทนาย-สรรพากร

โดย panwilai_c

30 ต.ค. 2567

66 views

เมื่อเช้านี้ คุณสนธิ มีการโพสต์คลิปสัมภาษณ์ มาดามอ้อยอีกคลิป ความยาว 10 นาที 30 วินาที พร้อมแคปชั่น ระบุว่า "สนธิ คุยอะไรกับ พี่อ้อย เปิดใจพี่อ้อย เศรษฐีนีใจดีแต่โชคร้ายเจอทนายเลว สัมภาษณ์พิเศษ โดย สนธิ ลิ้มทองกุล"



ช่วงหนึ่ง คุณสนธิ บอกว่า สัปดาห์หน้า เขาจะไปร้องเรียนสภาทนายความ ขอให้ ถอดถอน ทนายตั้มออกจากการเป็นทนายความ เพราะ มองว่าเข้าข่ายคุณผิดจริยธรรมทนายความอย่างมาก และอาทิตย์ถัดไปจะร้องเรียนไปกรมสรรพากร ร้องเรียนเรื่องการหนีภาษีหลายเรื่อง



คุณสนธิ ยังบอกด้วยว่า เขารู้เบื้องหลังเรื่องขบวนการฟอกเงินด้วย มีหลักฐานหมด



และต่อมาตอน 15.00 น. ทางเพจเฟซบุ๊ก "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ได้โพสต์คลิปใหม่ล่าสุด ความยาวคลิป 5.02 นาที โดยระบุว่า "เปิดใจพี่น้อย เลขาพี่อ้อย (ภาคต่อ) หลังจากมีเรื่องขัดเคืองใจกันระหว่างพี่น้อยกับทนายตั้ม" โดยมี คุณนพรัฐ พรวนสุข บรรณาธิการอาวุโสเครือผู้จัดการ-News1 สัมภาษณ์จากเซฟเฮาส์แห่งหนึ่ง ซึ่งปกของคลิปใช้ชื่อว่า "ตั้มผยอง ตีหมาไม่ดูเจ้าของ"



ในคลิป คุณนพรัฐ สัมภาษณ์คุณน้อย ซึ่งเป็นเลขาของคุณอ้อย เริ่มเรื่องที่ว่า พอพี่อ้อยไปรับที่แฟรงค์เฟิร์ต แล้วเขาไม่เห็นพี่ ก็เลยถามว่าน้อยไปไหน ทำไมน้อยไม่มา พอบอกว่าพี่น้อยยกเลิกเที่ยวบินทุกอย่างไม่มา เขาก็เลยถามว่าเรื่องอะไร ทีนี้อ้อยก็เลยร้องไห้เสียใจมาก ว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ คุณนพรัฐ เลยถามต่อว่าแสดงว่าเค้ารู้เรื่องของความขัดแย้งเรื่องรถเบนซ์ คุณน้อยเลยบอกว่า เรื่องรถเบนซ์ เพราะตนรายงานพี่อ้อยตลอด



คุณนพรัฐ บอกว่า ทนายตั้มไปพลาดที่ ตีหมาไม่ดูเจ้าของ ก่อนที่คุณน้อยจะบอกว่า พี่ยอมเขาทุกอย่าง พี่ดูแลเขาอย่างดีทุกเรื่อง แล้วพอไปถึงนู่น พี่อ้อยเค้าบอกว่า "ใครออกจากชีวิตเขาได้ทุกคน ยกเว้นน้อย" ทางภรรยาของทนาย นี้ก็แชทมาเลยว่าพี่น้อยคะ หนูขอโทษนู่นนี่นั่น เต็มไปหมด แต่ตนไม่อ่านแล้ว มันหมดเวลาที่เราจะคุยกันแล้ว ถ้าคุณแยกแยะเรื่องงานไม่ออก เราก็ไม่คุยแล้ว



จากเรื่องรถเบนซ์ คุณอ้อยก็เริ่มให้หาทนายความคนใหม่ พี่อ้อยเริ่มไม่โอเคแล้ว มองว่าทำไมไม่ตรงไปตรงมา ไม่โปร่งใส ติดขัดอะไรก็บอกพี่อ้อยไปตรงๆ แกจะได้รู้ ไม่ใช่แบบว่าถามอะไรไปก็ไม่ให้ข้อมูลอะไรซักอย่าง แล้วเอกสารพวกนี้ตนเองก็ทำไปตามระบบที่เค้าว่าจ้างตน ตนก็ทำตามหน้าที่ของตัวเอง มันต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ในการทำงานเราอย่าให้ใครมาว่าเราได้



คือ เงินเค้าบาทหนึ่ง สลึงหนึ่ง หรือแม้แต่เงินบริจาค ตนมีเอกสารครบหมด ทุกอย่างใส่แฟ้มไว้หมดทุกเรื่อง ทุกรายการมีครบหมด แม้แต่การท่องเที่ยวที่ออกให้ทนายตั้ม ก็ใส่เอกสารหมด แล้วแคปหน้าทุกอย่างแปะไปว่ายอดเท่านี้ๆ ตนไม่ให้พี่อ้อยมาบอกว่า น้อย..เงินฉันหายไปไหน เราต้องชี้แจงเขาทุกยอด



เวลาไปกินอะไร พี่บอกให้ตั้มจ่ายไปก่อนเลย เพื่อที่จะไม่ให้แฟนพี่อ้อยรู้สึกไม่ดี ว่าทำไมทุกคนไปรุมกินกับเค้า แล้วให้เค้าจ่าย ก็เลยบอกให้ตั้มจ่ายไปก่อนเลยนะ เดี๋ยวกลับมา มาตั้งเบิกที่ตนเอง แล้วตนยังดีไม่พอหรอ กลับมาเบิกยอด 400,000 -500,000 พี่ให้หมด ตั๋วเครื่องบิน 1,000,000 ไม่ทอน ค่าตั๋วเท่าไหร่ ใบเสร็จตนไม่เคยได้ และเรื่องค่าแบบ พี่ขอแบบก็ไม่ได้ ขอแบบบ้านเดวิดก็ไม่ได้ ก็คือพี่อ้อยตาม แล้วคือพี่อ้อยกับแฟน เหมือนกับว่าคุณพูดภาษาไทยเหมือนกัน ทำไมคุณตามไม่ได้ ก็เลยเป็นปัญหา



ส่วนการบอกเลิกสัญญา คุณอ้อยเป็นคนบอกให้ทำหนังสือสัญญาเลิกจ้าง ตนเองไม่ได้เป็นคนคิดอะไรทั้งนั้น ทุกอย่างอยู่ที่พี่อ้อยหมด เป็นคนสั่งตนทั้งหมด ไม่เคยทำอะไรนอกเหนือคำสั่ง ไม่เคยทำโดยพละการ อันนี้ก็ต้องไปถามพี่อ้อยเอง



คุณนพรัฐ ถามต่อว่า คิดออกไหมว่าทำไมทนายตั้มถึงมาโยนผิดให้คุณน้อย ว่าเป็นต้นเหตุของการยุยงปลุกปั่น คุณน้อยบอกว่า เบี่ยงเบนหรือเปล่า หรือว่าหาคนรับผิดชอบหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้ ก็มันมีประเด็นกันอยู่ แล้วประเด็นที่เรามีปัญหากันมันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว มันเป็นเรื่องงาน มันเป็นเรื่องของพี่อ้อยเค้า พี่อ้อยดูแลคุณ คุณก็ทำตามหน้าที่คุณไป เราก็ทำตามหน้าที่เราไป พี่อ้อยจะเอาเล่มพี่ก็ต้องหาเล่มมา



ส่วนกรณีที่เค้าจะฟ้องคุณอ้อยว่าแจ้งความเท็จคุณน้อยบอกว่า ก็สู้ ไม่กลัว ก็สู้ด้วยหลักฐาน ความจริง ก็คือความจริง ถ้าอาสนธิ ก็คือความจริงมีหนึ่งเดียว ตั้งแต่รู้จักตั้มวันแรกที่พี่ไปตามหาเขาพี่มีข้อมูลทุกอย่าง พี่ไม่ได้กล่าวอ้างลอยๆ



ยืนยันว่า จะไม่ยอมความ หรือถอนฟ้อง แม้จะมากราบขอโทษขอคืนดี


https://youtu.be/cNJT1uCOtQw

คุณอาจสนใจ

Related News