สังคม
'แซน วิศาพัช' ขอจองกฐิน ทนาย ต. รับโกรธ พร้อมเล่าเบื้องหลังถูกผลักความผิดคดีแตงโม
โดย parichat_p
28 ต.ค. 2567
70 views
แซน วิศาพัช ให้สัมภาษณ์สื่อ ขอจองกฐิน ทนาย ต. พร้อมย้อนรอยข้อเท็จจริงคดีแตงโม หลังถูกทนายผลักความผิด ยอมรับโกรธ ลั่นความยุติธรรมมีอยู่จริง คนทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ โพสต์ข้อความลงสตอรี่ บอกว่า " ทนายความดังมาก บอกว่าเค้าให้โดนเสน่หา เอิ่มม เอาอะไรมามั้นอะ แค่ที่เค้าให้เดือนละ 3 แสน กล้ารับก็นับว่าสุดๆแล้วนะ คุณคิดว่าศักยภาพคุณถึงราคานั้น? วันนั้น 25/2/65 ให้พวกเรารอคุณกลับจากโคราชจนเกือบค่ำ เลยตกเป็นจำเลยสังคม วันนี้ถึงบางอ้อ คุณคงจำเป็นต้องไปหาเงินเพื่อมาซื้อของแบรนเนมใส่ไปโดนกระแสสินะ"
หลังจากโพสต์สตอรี่ไป วันนี้ แซน วิศาพัช ได้เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง คนเดียวเพื่อมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่ปักหลักทำข่าวดิ ไอคอนกรุ๊ป เพื่อให้สัมภาษณ์ ประเด็นดังกล่าว
โดย แซน วิศาพัช เปิดเผยว่า วันนี้ตนแค่แวะมาหาสื่อมวลชน ไม่ได้มีเรื่องอะไรสำคัญ แค่จะมาจองกฐิน กับทนาย ต. ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนอยู่ในตอนนี้ เพราะตนเองมีประสบการณ์ตรง หลังเกิดอุบัติเหตุที่แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ พลัดตกเรือสปีดโบ๊ท เมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังวันเกิดเหตุ ปอ ตนุภัทร ได้บอกกับคนบนเรือว่า ได้นัดหมายให้ทนาย ต. มาพูดคุยที่ร้านอาหารย่านราชพฤกษ์ โดยทนาย ต. บอกว่า อย่าเพิ่งไปพบตำรวจ ให้รอคุยกับเขาก่อน ซึ่งก็รอตั้งแต่บ่ายโมงจนถึง 5 โมงเย็น รอนานจนกลายเป็นจำเลยสังคม โดนด่ายับ ว่าไม่ยอมไปพบตำรวจ
นอกจากนี้ พอทนาย ต. มาถึง ก็คุยกับปอและโรเบิร์ต แนะนำแนวทาง ซึ่งไม่ได้แนะนำตามข้อเท็จจริงที่ ซึ่งปอกับโรเบิร์ตเล่าให้ฟัง แต่แนะนำว่า ต้องให้มีคนผิดหนึ่งคน ซึ่งคนนั้นก็คือ แซน เพราะเป็นคนที่เห็นแตงโมเป็นคนสุดท้าย ซึ่งวันนั้นก็ไม่ได้ถามเหตุผลว่าทำไมถึงแนะนำแบบนี้
โดยวันนั้น คนบนเรือไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้จึงไม่ให้ ทนาย ต. ทำคดีให้ แต่พอออกจากห้องอาหารไป ทนาย ต. ก็ไปโพสต์เฟซบุ๊กทันทีว่า ไม่รับทำคดีให้คนบนเรือ ทั้งที่ความจริงเป็นพวกเราที่ไม่ให้ทำให้ต่างหาก ซึ่งวันนี้ที่ตนต้องมาจองกฐิน เพราะวันนั้นเขาเป็นคนให้โทษตน ถ้าคนบนเรือเห็นด้วยกับแนวทางนี้ วันนี้ตนก็คงไม่ได้อยู่ตรงนี้
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนรู้สึกว่า "แบบนี้ก็ได้หรอ" การเป็นทนายความ ควรต้องทำคดีไปตามหลักฐานข้อเท็จจริง ไม่ใช่ว่าฟังข้อเท็จจริงแล้ว เห็นว่าแบบไหนจบง่ายกว่า เคลียร์ได้เยอะกว่า ก็เลือกทำแบบนั้น
และพอหลังจากนั้น ทนาย ต. ก็หันไปพยายามจะทำคดีให้ทุกคนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามคนบนเรือ รวมถึงยังติดต่อไปหาพี่ชายของแตงโม ซึ่งการกระทำมันชัดเจนมาก และกระแสสังคมก็พุ่งมาโจมตีพวกตน
ส่วนเรื่องตัวเลขในการทำคดีนั้น ตนไม่ทราบ เพราะเป็นการพูดคุยกับปอ แต่ไม่ใช่สาระสำคัญ เรื่องสำคัญคือการที่เขาตั้งธงว่า เรื่องนี้ต้องมีคนผิด
ส่วนคดีที่ทนาย ต. กำลังถูกกล่าวหาอยู่ตอนนี้นั้น พอตนได้ทราบก็รู้สึกว่า ในที่สุดความยุติธรรมก็มีอยู่จริง คนทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และตนไม่ตกใจกับเรื่องนี้ ใครทำอะไรก็ต้องได้รับแบบนั้น เมื่อถามว่า คิดว่าเรื่องที่ถูกกล่าวหาเป็นไปตามนั้นหรือไม่ แซน ถามกลับว่า เขาน่าเสน่หาขนาดนั้นไหม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องของตน ไม่อยากก้าวล่วง และวันนี้ ตนคงไม่ส่งกำลังใจให้เขาแน่ๆ ให้เป็นไปตามกระบวนการ ตามสิ่งที่ทำ ถ้าทำถูกก็ไม่ต้องกลัวอะไร แต่ดูแล้วก็คงน่าจะกลัวอยู่
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า แซนรู้สึกโกรธไหมที่ถูกโยนให้เป็นคนผิด แซนตอบว่า ถ้าวันนั้นไม่โกรธ วันนี้คงไม่มายืนตรงนี้ ตนเก็บมานาน อยากให้สังคมเห็นว่าทนายคนนี้เป็นยังไง จะช่วยเหลือประชาชนได้ ต้องช่วยตัวเองให้รอดก่อน / ส่วนที่เพิ่งออกมาพูดตอนนี้แล้วถูกมองว่าช้าเกินไปหรือไม่ ตนมองว่าเป็นจังหวะพอดี เพราะหากตนออกมาพูดก่อนหน้านี้ก็คงไม่มีใครเชื่อ และไม่ได้เป็นการออกมาเหยียบย่ำ ถ้าวันนั้นทำดีด้วย วันนี้คงไม่ออกมา เขาทำให้เราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก แค่นี้ยังน้อยไป
ส่วนจะดำเนินคดีอะไรหรือไม่นั้นในวันนั้น ตนไม่ได้คิดจะแจ้ง แต่ก็จะปรึกษาทนายความว่า ถ้าเข้าข้อกฎหมายก็อาจจะดำเนินการ เพราะการพูดคุยในวันนั้นที่ ทนาย ต. แนะนำแนวทางดังกล่าว พวกตนมีหลักฐานเป็นคลิปเสียง และเรื่องนี้ก็เคยให้การกับพนักงานสอบสวนอยู่ในสำนวนคดีของแตงโมแล้ว
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/0O0C__20_WI