'มิน พีชญา' ประกาศฉีกสัญญา 'ดิไอคอน' ร่ำไห้เปิดใจ รับตรวจสอบไม่ดี ยันไม่ใช่หุ้นส่วน คนเรียก 'บอสมิน' แค่ให้เกียรติ

มิน พีชญา วัฒนามนตรี ดารานักแสดง หรือบอสมิน พร้อมด้วยคุณเอสอนุสิทธิ์ ถึงสุข (ผจก.ส่วนตัว) ทนายชูชาติ กันภัย และทนายนงลักษณ์ แตงเจริญ ตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ เวลา 14.00 น. ณ ห้อง Sarocha ชั้น 3 โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพฯ รัชดา



ทันทีที่เดินทางมาถึง มิน ได้เดินเข้ามาด้วยสีหน้าเครียด ซึ่งบางช่วงที่แถลงมินได้ร้องไห้ออกมา ซึ่งมินกล่าวว่า อยากแสดงความเสียใจกับผู้เสียหาย ตนเองไม่ได้นิ่งนอนใจหลังจากที่เกิดเรื่อง ก็อยากจะออกมาแสดงความบริสุทธิ์ใจหลายวันแล้ว แต่ทุกอย่างก็พร้อมในวันนี้ ก็เลยอยากใช้พื้นที่ในวันนี้ พูดในส่วนของตนเอง



ก่อนที่จะอธิบายว่า ตนเองเป็นทั้งพรีเซนเตอร์ และผู้รับจ้างในฐานะผู้บริหารฝ่ายสื่อสารองค์กร ถ้าได้ภาษาเข้าใจง่ายๆ ก็คือพีอาร์ นี่คือบริบทที่มินรับจ้าง มีตัวสัญญากฎหมายชัดเจน ส่วนคนข้างในบริษัทจะเรียกมินว่า บอส เค้าเรียกมินกันเอง เพราะเค้าให้เกียรติมิน



หน้าที่ของมินคือพรีเซนต์ product ก็คือเป็นพรีเซนเตอร์ สองก็คือการพีอาร์ และพีอาร์ผลิตภัณฑ์ของงานบริษัท ส่วนตัวเพิ่งร่วมงานกับบริษัทที่ดิไอคอน ได้ปีกว่าๆ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 66 และหากสัญญาไม่ได้มีปัญหาก็จะมีการต่อสัญญาโดยอัตโนมัติ พร้อมย้ำว่าไม่ได้มีหุ้นส่วนในบริษัท และรับค่าจ้างในฐานะผู้รับจ้าง รายได้เท่าตำแหน่งพรีเซนเตอร์ และไม่ได้ค่าคอมมิชชั่น แต่ว่าจะได้รับเงินพิเศษ ขึ้นอยู่ กับคอนเทนท์ที่ทำ ซึ่งแต่ละเดือนจะไม่เท่ากัน



ก่อนจะว่าวันที่ก้าวเข้ามาร่วมงานกับที่ไอคอน มินก็ตรวจสอบว่าบริษัทจัดตั้งถูกต้องไหม และทดลองสินค้าด้วยตัวเอง ไม่เคยโอเวอร์เคลม และมีการรับรองรางวัลจาก สคบ. และมินไม่ใช่พรีเซนเตอร์คนแรกที่ร่วมงานกับบริษัท ดิไอคอน ก่อนหน้านี้มี Billboard ดิไอคอนมากมาย และมีพรีเซ็นเตอร์ดังๆ เกือบ 10 ท่าน ตัวเองไม่เห็นข้อมูลดังกล่าว ก็ตรวจสอบตามที่บุคคลคนหนึ่งจะตรวจสอบได้



จากนั้น มิน ก็หลั่งน้ำตา บอกว่า เสียใจที่ตรวจสอบไม่ดี ทำให้เกิดความเสียหายกับประชาชน ที่เรารัก ซึ่งมินก็พูดได้เลยว่า มินมีทุกวันนี้เพราะประชาชน วันนี้มินก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ



ตั้งแต่เข้ามาไม่เคยเจอจุดน่าสงสัยตรงไหนเลย วันนี้เพิ่งได้ยินความเสียหายวันนี้วันแรก ยอมรับว่าตกใจมาก พยามตั้งสติ และตั้งรับ ที่ตกใจและเสียใจเพราะมีผู้เสียหายเกิดขึ้น และมินสงสารเขามาก มินอยากยืนเคียงข้างประชาชน อยากเจอเขาอยากรู้ว่าเค้าเป็นยังไงบ้าง ซึ่งบริษัทดิไอคอนเปิดมาแล้ว 6 ปี ตนเองเพิ่งเข้ามาเมื่อต้นปีที่แล้ว



แผนการจ่าย แผนการทำทีม แผนการขาย ไม่ใช่ขอบเขตหน้าที่ของตน ตนเองไม่มีดาวไลน์ ไม่มีแม่ทีม และก็ไม่ได้ลงไปถึงการขาย ไม่ได้ชักทวนใครเข้ามาร่วม และต่อให้มินจะพยายามตรวจสอบอย่างรอบคอบแล้วแต่ก็ยังไม่รอบคอบมากพอ และครอบคลุมเข้าไป มินก็ยังโทษตัวเองอยู่ว่าอันนี้พลาดเอง



ส่วนตามงานสัมมนาที่เห็นว่ามีการพูดถึงความน่าเชื่อถือของบริษัท เป็นเพราะตนเองเช็คและพบในมุมที่ดีไม่ได้รู้ทั้งหมด ประกอบกับใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเองแล้วมันดี รวมถึงให้คนในครอบครัวใช้ด้วยจึงบอกไปตามข้อเท็จจริงตามนั้น แต่ก็ยอมรับว่ามีบางงานที่มีสคริปต์



ย้ำว่าบ้านมินก็มีธุรกิจ และเงินที่ได้จากบริษัทดิไอคอน ก็เป็นเงินที่ได้เท่ากับพรีเซ็นเตอร์ทั่วไป

และมินก็ไม่ได้ถูกบีบที่จะต้องมาทำอะไรสีเทา หรือทำอะไรที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนตัวเอง ไม่เอาชื่อเสืยงไปแลก



ก่อนเล่าเท้าความว่า จุดเริ่มต้น เดิมทีผู้จัดการได้รับการติดต่อจากบริษัทที่ไอคอนกรุ๊ป ให้มินมาเป็นพรีเซนเตอร์เซรั่มตัวหนึ่ง ในรอบแรกผู้จัดการได้เข้าไปคุยกับบริษัทคนเดียว ครั้งที่สองเค้าสนใจ และอยากจะเจอตัวมิน ก็เข้าไปเจอตัว นั่นคือเมื่อประมาณต้นปีที่แล้ว และเป็นครั้งแรกที่ได้พบกับคุณพอล ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อน



และหลังจากที่เจอก็ติดต่อว่าอยากให้มินเป็นมากกว่าพรีเซนเตอร์ ตัวมินเองก็ไม่ได้รีบตัดสินใจ เพราะก็ไม่เข้าใจว่าการเป็นพีอาร์ของบริษัทคืออะไร จึงกลับไปคิดทบทวนหลายเดือน สรุปสุดท้ายเลยตัดสินใจ งั้นเราลองดูกับเขาซักทีแล้วกัน



ทั้งนี้ขอแสดงความจริงใจกับผู้เสียหายโดยการยุตติสัญญากับบริษัทดิไอคอนที่มีต่อกันทั้งหมดวันนี้แม้จะยังไม่มีการตรวจสอบว่าผิด แต่มินก็ต้องเลือกข้างประชาชน มินก็ต้องเลือกความยุติธรรมและความถูกต้อง และมินก็ไม่ได้หนีไปไหน และจากนี้ก็จะรวบรวมพยานหลักฐานในการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็จะเอาเอกสารเหล่านี้ที่รวบรวมทั้งหมดในการเข้าไปสู่พนักงานสอบสวนและอยากให้รีบตรวจสอบด้วยซ้ำ เพราะพอได้ยินเรื่อง ก็อยากรู้ความจริงทั้งหมดเหมือนกับทุกคน



ตั้งแต่เกิดเรื่อง ตนได้โทรหาคุณพอล ว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง ถามเขาว่าเห็นคลิปหรือยังเห็นแล้วจะจัดการอย่างไร เพราะว่ามินเพิ่งเห็นครั้งแรกเลย และพี่จะจัดการยังไง วันแรกก็มีการแจ้งมินว่าจะมีการทำคลิปออกมาแล้วตอบให้เร็วที่สุด วันนั้นจะไม่มีชื่อมินด้วยซ้ำ



วันที่สองมินก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เขาก็แจ้งมาว่าจะมีการไลฟ์สดเพื่อโต้ตอบตอบคำถาม และวันที่สามมินก็ติดต่อ และบอกว่าจะมีการแถลงข่าว มินรออยู่ทั้งหมดสามถึงสี่วัน บริษัทก็ไม่ได้มีการออกมาแถลงข่าวให้ความชัดเจนกับประชาชนแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นตัวมินเองต้องออกมาเอง มินก็ต้องออกมาแสดงความรู้สึกของตัวเอง และอยากขอโทษประชาชนจริงๆที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด



ที่ผ่านมาเคยถามเค้าว่า ทำไมไม่เห็นออกทำอย่างที่บอก เค้าก็พูดสั้นๆ ว่า "มินออกไปตอบได้เลย" ซึ่งเค้าก็คงมีเหตุผลของเขา แต่ว่าวันนี้ทุกอย่างมันช้าไปหมด จนทำให้เกิดความเสียหายและประเมินค่าไม่ได้ วันนี้ก็เลยอยากจะออกมาพูดกับตัวเอง และขอยุติสัญญากับบริษัท



ส่วนคลิปวันเกิดบอสพอล มินไปเองด้วยความเคารพ ตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่าพี่เค้าเป็นพิษเป็นภัยหรือทำร้ายใคร ถ้าวันนี้รู้ว่าคุณพอลสร้างความเสียหายให้กับประชาชน มินเองก็คงไม่เข้าไปแน่นอนและไม่ร่วมงานตั้งแต่แรกแน่นอน ส่วนแฟนหนุ่ม ปกติก็ไปกับมินด้วยอยู่แล้ว



ส่วนตัวตั้งแต่เกิดเหตุ ก็ไม่ได้คุยกับบอสท่านอื่นเลย ส่วนที่เคยทำคลิปกับบอสหมอ ตนเองไม่ทราบว่าเป็นหมอจริงหรือไม่ แค่ได้รับแจ้งว่าให้ทำคลิปกับคุณหมอเท่านั้น



สำหรับกระแสข่าวว่าจะมีการออกหมายจับนั้นมีความกังวลหรือไม่ ตนเองไม่รู้เรื่องเลยแต่ว่าก็ยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทั้งหมดเพราะอยากยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตนเองและนำข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยจะไปเองไม่ต้องรอให้หมายจับออกมา



ทางด้านทนายความอธิบายว่าปกติแล้วการจะยกเลิกสัญญามีค่าปรับ 500,000 บาท แต่ในกรณีนี้มองว่า ทางบริษัท มีการบริหารจัดการที่ทำให้เกิดผลกระทบต่ออาชีพของมิน โดยจะยกเลิกโดยให้เหตุผลว่าการบริหารจัดการหรือธรรมาภิบาลเกิดผลกระทบกับประชาชนและกระทบต่อชื่อเสียงของมินจึงจะขอยกเลิก



ส่วนจะต้องคืนเงินค่าพรีเซนเตอร์หรือไม่ ทนายความอธิบายเพิ่มเติมว่า คุณมินรับจ้างทำงานเค้าก็ต้องมีรายได้จากค่าจ้าง ซึ่งถ้าตรงนั้นทางบริษัทที่ไอคอนกระทำผิดกฎหมายแล้วพบว่าเป็นการฉ้อโกงประชาชน แล้วเงินมาที่คุณมินอันนี้คุณมินโอเคอยู่แล้ว ที่จะให้จัดการตามกฎหมาย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/F5K9Iw8DoXo