โซเชียลถกสนั่น สคบ.ไม่รับเรื่องผู้เสียหายขายตรง ชี้เป็นการลงทุนร่วม ไม่ใช่ผู้บริโภค ปคบ.แนะเข้าแจ้งความก่อน

สำหรับรูปแบบธุรกิจของบริษัทดัง รายนี้ ในเว็บไซต์ของเขา ระบุว่า เป็นบริษัทขายของออนไลน์ แบรนด์เบอร์ 1 ของไทย บริษัท มีโรงเรียนสอนทำธุรกิจออนไลน์ครบวงจร / มีระบบเว็บไซต์สำเร็จรูปที่ช่วยในการขายสินค้าออนไลน์ให้ตัวแทน สินค้าดี การตลาดจัดเต็ม พรีเซนเตอร์ดัง ปูพรมโฆษณาทั่วประเทศ เปิดบิลครั้งเดียว ขายสินค้าได้ทุกชนิดด้วยระบบ Dropship Fulfillment



เมื่อดูในเว็บไซต์ ยังมีการแยกประเภทการขายออกเป็น 3 ประเภท คือ ขายปลีก distributor ซึ่งระบุรายละเอียดว่า ถ้าสมัครประเภทนี้ จะได้รับ

ได้รับ website สำหรับขายสินค้า ได้เข้ากลุ่มการเรียนรู้ และวิธีการขายของออนไลน์ ได้รับ sale page ขายสินค้ารวม สามารถใช้ภาพสินค้า วิดีโอ ต่างๆ เพื่อทำการขายของได้ ได้รับสินค้าในเรท ราคาสมาชิก เปิดบิลครั้งเดียว ไม่ต้องเปิดซ้ำ สะสมเรทได้แต่ประเภทการขายปลีกนี้จะไม่สามารถสร้างทีมขายได้



ส่วนประเภทที่ 2 คือ ขายส่ง supervisor ได้รับ จะได้รับ website สำหรับขายสินค้า ได้เข้ากลุ่มแบบจับมือทำ และการสัมมนาต่างๆ ได้รับ sale page ขายสินค้ารวม สามารถใช้ภาพสินค้า วิดีโอ ต่างๆ เพื่อทำการขายของได้ ได้รับสินค้าในเรท ราคาสมาชิก เปิดบิลครั้งเดียว ไม่ต้องเปิดซ้ำ สะสมเรทได้ รวมถึง สามารถสร้างทีมขายได้



ส่วนประเภทที่ 3 คือ ค้าส่งรายใหญ่ Dealer ได้รับ website สำหรับขายสินค้า ได้เข้ากลุ่มการเรียนรู้ ทุกระดับ เรียนโดยตรงกับ บอส ได้รับ sale page ขายสินค้ารวม สามารถใช้ภาพสินค้า วิดีโอ ต่างๆ เพื่อทำการขายของได้ ได้รับสินค้าในเรท ราคาสมาชิก เปิดบิลครั้งเดียว ไม่ต้องเปิดซ้ำ สะสมเรทได้ และ สามารถเลื่อนระดับที่สูงขึ้น เพื่อรับสิทธิประโยชน์และสร้างรายได้มากขึ้น



ทั้งนี้มีข้อมูลจากบรรดาคนที่เคยร่วมธุรกิจ ซึ่งตอนนี้ตั้งกลุ่มคุยกันในโอเพนแชต ระบุว่า ค่าสมัครเบื้องต้นขายปลีก (Dis) 2,500 บาท ขายส่ง (Sup) 25,000 บาท และ ค้าส่งรายใหญ่ (DL) 250,000 บาท



ส่วนที่ เฟซบุ๊กเพจ สื่อออนไลน์ Online Media คลิปเจ้าของบริษัทดังกล่าวขึ้นรับรางวัล ของ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เมื่อ 2565 พร้อมเขียนข้อความกำกับ ระบุว่า "อย่างนี้นี่เอง!! ถึงว่ามีผู้เสียหายไปแจ้งเรื่องร้องเรียน ต่อ สคบ. "แล้วนิ่งเฉย บอกว่าทำอะไรเขาไม่ได้คุณไปลงทุนกับเขาเอง"



ทีมข่าวตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่า เฟซบุ๊กของบริษัทดังกล่าว ก็ลงข้อมูลเรื่องการรับรางวัลไว้เช่นเดียวกัน โดยอธิบายว่า เป็นรางวัล ประเภทหน่วยงาน/องค์กรผู้ทำคุณประโยชน์ ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค เนื่องในวันคุ้มครองผู้บริโภคไทย ประจำปี 2565



คนที่มามอบรางวัล ขณะนั้น คือ นายอนุชา นาคาศัย ซึ่งตอนนั้นดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกำกับดูแล สคบ.



อย่างไรก็ตามในโลกออนไลน์ยังมีการแชร์เอกสารหนังสือแจ้งผลการร้องทุกข์ ของสำนีกงานคณธกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ลงวันที่ 6 สิงหาคม 2565



เนื้อหา พูดถึงการร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมต่อสคบ. กรณีที่สมัครสมาชิก เข้าร่วมธุรกิจ สอนยิงแอดราคา 89 บาท กับบริษัทดังกล่าว ภายหลังไม่สามารถขายสินค้าได้ ทำให้ได้รับความเดือดร้อน จึงประสงค์ขอคืนสินค้าและขอเงินคืน 270,000 บาท



สคบ. ตรวจสอบคำร้องทุกข์ และข้อมูลตามเอกสาร พบว่า ผู้ร้องได้สมัครเป็นสมาชิกเพื่อร่วมประกอบธุรกิจ และได้รับผลตอบแทนจากกำไรขายปลีกตามข้อตกลงในสัญญา



กรณีพิพาทเป็นเรื่องระหว่างผู้ประกอบธุรกิจด้วยกัน ท่านจึงไม่ใช่ผู้บริโภค ตามพ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง และ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค สคบ. จึงไม่สามารถพิจารณาดำเนินการเรื่องร้องทุกข์ได้ แต่ก็ไม่ตัดสิทธิท่านที่จะไปฟ้องร้องดำเนินคดีด้วยตนเอง

https://youtu.be/VwD0uzj7EOo