ยกฟ้อง 'เอ็ม' หลานอดีตรัฐมนตรี ขืนใจดาราสาว ชี้หลักฐานฝั่งจำเลยมีน้ำหนัก เชื่อฝ่ายหญิงยินยอม

ศาลอาญายกฟ้อง 'เอ็ม' หลานชาย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในคดีล่วงละเมิดทางเพศดาราหญิง เพราะพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าฝ่ายหญิงมีสติรับรู้



คดีนี้ต้องย้อนกลับไปเดือนสิงหาคม 2565 ดาราสาวคนหนึ่งแจ้งความนายอภิดิศร์ หรือเอ็ม นักธุรกิจและหลานชาย อดีต รมว.ต่างประเทศในข้อหากระทำชำเรา และอนาจารหญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยาตนโดยใช้กำลังประทุษร้าย

โดยกล่าวหาว่า วันที่ 9 สิงหาคม 2564 - 10 สิงหาคม 2565 นายเอ็มได้พาดาราสาวผู้เสียหายไปเปิดห้องพักแถวนาคนิวาส และนำโซจู เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของเกาหลีมาให้ดื่มจนมึนเมา แล้วใช้กำลังล่วงละเมิดทางเพศ โดยผู้เสียหายไม่ยินยอม แต่ไม่อาจขัดขืนได้ ซึ่งคดีนี้นายเอ็มให้การปฏิเสธ และต่อสู้คดีมาตลอด ก่อนจะได้การประกันตัวไป

ซึ่งศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาครั้งแรกเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 แต่นายเอ็มไม่มา ศาลจึงออกหมายจับ ยึดเงินประกัน 1 ล้านบาท และนัดอ่านตำพิพากษาใหม่วันนี้ (20ก.ย.67)



โดยในวันนี้ดาราสาวมาพร้อมกับพี่สาว อัยการโจทก์ และทนายความจำเลยเดินทางมาศาล ส่วนจำเลยไม่ได้มา จึงอ่านคำพิพากษาลับหลัง



ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า วันเกิดเหตุผู้เสียหายทะเลาะกับพี่สาวบุญธรรมไม่อยากกลับบ้าน จึงแชทพูดคุยกับนายเอ็มผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์สอบถามว่ามีที่พักหรือไม่ นายเอ็มจึงเสนอว่ามีห้องพักสามารถไปนั่งดื่มแอลกอฮอล์และนั่งฟังเพลงได้ จากนั้นผู้เสียหายและนายเอ็มเข้าไปนั่งอยู่ในห้องพักรีสอร์ตแห่งหนึ่ง นาน 2 ชั่วโมง จนกระทั่งพี่สาวมาตาม จำเลยจึงออกไปจากห้องพัก ก่อนจะกลับเข้ามาที่ห้องพักและอยู่ด้วยกันอีก 30 นาที



จากนั้นราวตี 3 ผู้เสียหายได้เรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน และสแกนจ่ายเงินได้ พอถึงบ้านก็หลับโดยไม่ได้อาบน้ำและเปลี่ยนชุด จนเข้าอาบน้ำถึงเจอว่ามีของเหลวสีขาวออกมาจากอวัยวะเพศ จึงไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ระบุว่าของเหลวที่พบเป็นน้ำอสุจิ แต่ไม่พบสารเสพติดยานอนหลับ หรือ ยาเสียสาว ส่วนเยื่อพรหมจารีไม่ขาด ผู้เสียหายจึงไปแจ้งความที่ สน.โชคชัย ว่าถูกล่วงละเมิดโดยที่ไม่ยินยอม และคาดว่าถูกวางยา



ขณะที่นาย เอ็ม จำเลยเบิกความในชั้นสืบพยานว่า ฝ่ายหญิงสมัครใจร่วมประเวณีด้วย ในวันนั้นจำเลยสวมใส่ถุงยางอนามัย แต่พบว่าถุงยางแตก จึงได้ออกไปที่ร้านขายยาและซื้อยาคุมมาให้กิน ศาลเห็นว่าแม้วันดังกล่าว ผู้เสียหายจะสนทนากับนายเอ็มว่าจะไปพบเพื่อพูดคุยเรื่องงานเล่นมิวสิควิดีโอเพลงที่จะให้นายเอ็มสนับสนุน และเปิดเพลงแนวยั่วยวนผู้เสียหายได้ชวนนายเอ็มลุกขึ้นเต้น จนเป็นเหตุให้เกิดอารมณ์ทางเพศ



คดีนี้พยานในที่เกิดเหตุ มีเพียงผู้เสียหายและนายเอ็ม ศาลจึงต้องรับฟังพยานหลักฐานที่เป็นการสนทนาก่อนเกิดเหตุ ประกอบกับมีคลิปหลักฐานที่จำเลยแอบถ่ายไว้



คลิปแรกเป็นคลิปที่พี่สาวพาของผู้เสียหายพาตำรวจมาตามหาที่โรงแรม แต่ผู้เสียหายก็ไม่ออกไปแสดงตัว คลิปที่ 2 และ 3 เป็นการสนทนาระหว่างผู้เสียหายและนายเอ็ม ซึ่งจะเห็นได้ว่า ผู้เสียหายมีสติสามารถออกมาส่งนายเอ็มที่หน้าห้องพักของโรงแรมได้ โดยเดินออกมาด้วยท่าทางปกติ มีสติสัมปชัญญะ และสามารถเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่นกลับบ้านและจ่ายเงินเองได้ ประกอบกับผู้เสียหายใส่ชุดนักศึกษาหากมีการถอด และสวมกลับโดยคนอื่นโดยไม่รู้ตัวให้เหมือนเดิมการสวมใส่กลับจะต้องมีความผิดปกติ



เมื่อพิจารณาพยานหลักฐานประกอบคลิปวิดีโอ คลิปเสียงทั้งหมดแล้ว เห็นว่า ผู้เสียหายมีสติสัมปชัญญะ ยินยอมที่จะมีเพศสัมพันธ์ พยานหลักฐานไม่มีน้ำหนักให้ฟังได้ว่า นายเอ็มกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษายกฟ้อง



ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างศาลอ่านคำพิพากษาผู้เสียหายมีสีหน้าเรียบเฉย แต่หลังอ่านผลตัดสินว่ายกฟ้อง ผู้เสียหายมีสีหน้าเศร้าซึมอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นก็รีบเดินออกจากห้องพิจารณาคดี โดยไม่มีการพูดคุยหรือให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน



รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/lIMJaBrToIA