นายกฯ ลุยน้ำท่วมเชียงราย น้ำตาคลอ กอดให้กำลังใจผู้ประสบภัย ยันรบ.ไม่ทิ้ง เยียวยาเต็มที่

วันนี้ นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เยี่ยมและมอบถุงยังชีพผู้ประสบภัย และติดตามสถานการณ์น้ำท่วมด้วยตัวเอง พร้อมด้วยบรรดารัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้อง



โดยก่อนที่ท่านนายกฯ จะเดินทางไป จ.เชียงราย นายกรัฐมนตรี​ ถือฤกษ์ เวลา 07.40 น. นำ รองนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล ถึงแม้วันนี้จะเป็น วันศุกร์ที่ 13 แต่ตามโหราศาสตร์จีน ถือเป็นฤกษ์วันมังกร



เสร็จจาก ทำเนียบรัฐบาล นายกฯ เดินทางไป ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ทันที เพื่อขึ้นเครื่องของกองทัพอากาศ ไปลงพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งก่อนขึ้นเครื่อง ท่านนายกฯ ได้ตรวจเยี่ยมกำลังพลของกองทัพอากาศ มี พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ อยู่ระหว่างการ ขนย้ายอุปกรณ์ช่วยเหลือช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่



และระหว่างที่อยู่บนเครื่องบิน มีภาพ ที่ท่านนายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ร่วมกับ รองนายกฯภูมิธรรม เวชยชัย และบรรดารัฐมนตรี ( มี พลเอกณัฐพงษ์ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม / นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม / นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพย่กรน้ำแห่งชาติ )



นายกรัฐมนตรี สอบถามถึง สถานการณ์น้ำ ในแม่น้ำโขง ที่รับน้ำจากภาคเหนือ ไปภาคอีสาน เน้นย้ำการช่วยเหลือประชาชนให้เร่งออกจากพื้นที่เสี่ยง โดยต้องการให้มีแผนรับมือให้ประชาชนมั่นใจว่าแม้ออกจากบ้านแล้ว ก็ยังมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลทรัพย์สินให้ และให้นำข้อมูลน้ำ ที่เป็นข้อเท็จจริงให้ประชาชนนำไปตัดสินใจออกจากพื้นที่ด้วย



นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้ทางกระทรวงมหาดไทย ดูแลสถานการณ์น้ำที่ จ. หนองคายอย่างใกล้ชิดด้วย พร้อมสอบถามว่า หลังมีการแจ้งเตือนให้ประชาชนหนองคายทราบแล้ว มีผลตอบรับอย่างไร บ้าง โดยเฉพาะ ชาวบ้านได้เริ่มขนของแล้วหรือยัง โดยสั่งการให้หน่วยหน้างาน เร่งอพยพชาวบ้านในพื้นที่เสียง



บรรยากาศการหารือ เป็นไปอย่างเคร่งเครียด ท่านนายกฯ มีความเป็นห่วงเรื่องของพื้นที่ทางการเกษตรฯ ที่ได้รับผลกระทบด้วย และจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรี กำชับไปยังทุกหน่วยงาน ไม่ต้องห่วงในเรื่องของงบประมาณ เพราะได้กันงบจากส่วนกลางไว้เรียบร้อยแล้ว รวมถึง เรื่องของการเยียวยา ที่จะต้องไม่รอให้สถานการณ์คลี่คลาย โดยขอให้เข้าไปเยียวยาทันที



นายกฯ ถึง เชียงราย 10.30น. นายกรัฐมนตรี ถึง ที่ จ.เชียงราย มุ่งหน้าไป ด่านพรมแดนแม่สาย แห่งที่ 1 เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย นายกรัฐมนตรี ได้พบกับ แชมป์ จอมพลัง คุณกษิดิศ ธีระประทีป แชมป์โลกเจ็ตสกีที่ ขับเจ็ตสกีฝ่ากระแสน้ำเชี่ยว ไปช่วยลุงเขียงหมู เมื่อวันที่ 11ก.ย. ที่ผ่านมา ด้วย ซึ่งท่านนายกฯได้ขอบคุณ นายกรัฐมนตรีชื่นชมว่าเยี่ยมมากได้ใช้ความสามารถมาช่วยเหลือ ประชาชน



จากนั้นนายกฯ ได้เดินไปยังสะพานมิตรภาพแม่น้ำสายแห่งที่ 1 (แม่สาย) สภาพความเสียหายที่ ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม และดินโคลนถล่ม โดยพบว่าแม่น้ำจะลดลงแล้วแต่ยังมีดินโคลนจำนวนมาก ถือเป็นจุดเศรษฐกิจชายแดนซึ่งได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก



ระหว่างลงพื้นที่ ท่านนายกฯ เข้าไปทักทายพูดคุยและให้กำลังใจกับชาวบ้านที่ได้รับ ซึ่งในช่วงจังหวะนี้นายกฯมีอาการน้ำตาคลอเป็นระยะ เพราะสงสารชาวบ้าน โดยช่วงหนึ่งนายกฯได้เข้าไปสวมกอดชาวบ้าน เพื่อให้กำลังใจ ซึ่งชาวบ้านต่างพากันดีใจได้เจอนายกฯ บางคนถึงกับร่ำไห้และสวมกอด



โดยชาวบ้าน บอกว่า "แค่อ้อมกอดของนายกฯก็พอแล้ว" ส่วนนายกฯ ตอบกลับว่า "นี่ก็เป็นกำลังใจเหมือนกันจะรีบกลับไปทำงาน ดูในเรื่องชดเชยว่าจะช่วยเหลืออะไรตรงไหนได้บ้าง" ซึ่งชาวบ้านบอกกับนายกฯอีกว่า "อย่าทิ้งกัน"นายกฯจึงกล่าวย้ำว่า "ไม่ทิ้งอยู่แล้ว"



จากนั้น เวลา 12.00 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางมายังวัดพรหมวิหาร อำเภอแม่สาย ซึ่งเปิดเป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัย เพื่อเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัย โดยเมื่อมาถึงนายกได้เข้าไปนั่งพูดคุยและสวมกอดชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านเข้ามาสวมกอดและร่ำให้ ด้วยความดีใจ



ขณะที่นายกฯก็มีน้ำตาคลอ เสียงสั่นเครือ โดยชาวบ้านระบุว่า ชาวบ้านลำบากมาก แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่ยอมออกจากบ้าน โดยเฉพาะคนแก่รัฐบาลจึงอยากให้รัฐบาลประกาศ ย้ำหากมีพายุเกิดขึ้น ออกให้ออกมาขอให้ชาวบ้านที่ไม่ยอม ออกจากบ้านให้ออกจากพื้นที่เพื่อรักษาชีวิตไว้ แต่อย่างไรก็ตามที่คนไม่ยอมออกจากบ้านเพราะเมื่อน้ำลดก็มีขโมยเกิดขึ้น เมื่อมีข่าวเช่นนี้ชาวบ้านก็ไม่อยากจะทิ้งบ้านกัน



นายกรัฐมนตรี ได้หันไปสั่งการ รัฐมนตรีอิ่ม ธีรรัตน์ รมช.มหาดไทย กำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้าดูแล จากนั้นหันมากล่าวกับชาวบ้านต่อว่าจากนี้รัฐบาลจะเร่งเข้ามาดูแลเรื่องการเยียวยาให้ดีที่สุด และทราบดีถึงความเร่งด่วนของประชาชนในการเข้ามาช่วยเหลือ ซึ่งครั้งนี้ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว



นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มผู้สูงอายุ ระบุว่าไม่เหลืออะไรแล้ว หมดตัวแล้ว ร้องไห้จนไม่รู้จะร้องยังไงแล้วร้องไห้จนไม่มีน้ำตาแล้ว นายกฯจึงบอกว่าแค่นี้ก็เก่งแล้วยังเหลือชีวิตและเหลือกำลังใจที่ต่างคนต่างมอบให้กัน



จากนั้นชาวบ้านระบุว่ายังมีผู้สูงอายุที่ติดอยู่ในพื้นที่ ยังออกมาไม่ได้ นายกรัฐมนตรีจึงให้ เจ้าหน้าที่ทหารขอรายละเอียดเพื่อเข้าไปช่วยเหลือนำชาวบ้านออกจากพื้นที่



นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้ไปพูดคุยให้กำลังใจกับหญิงท้องแก่ ซึ่งเป็นชาวไทยใหญ่ โดยนายกรัฐมนตรี ได้เข้าไปจับที่ท้อง พร้อมสอบถามว่าจะคลอดเมื่อไหร่ ขอให้แข็งแรงทั้งแม่ทั้งลูก จุดนี้ ท่านนายกฯ พยายามสอบถาม ว่าจะคลอดเมื่อไหร่ แต่ไม่มีล่ามแปล ท่านนายกฯ พยายามทำท่าทำทาง อยากจะทราบว่าจะคลอดเมื่อไหร่ ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ มาบอกว่ามีกำหนดคลอด วันที่ 6 เดือนหน้า นี้แล้ว



ช่วงหนึ่ง บรรดารัฐมนตรีพยายามพูดคุยผ่อนคลาย โดย รัฐมนตรี อิ่ม ธีรรัตน์ พูดขึ้นมาว่า "ให้ตั้งชื่อ น้องน้ำเลย มั้ย" (ก่อนลูบท้อง) ท่านนายกฯก็หัวเราะ จากนั้น ปลัดกระทรวงมหาดไทย คุณสุทธิพงษ์ จุลเจริญ บอกว่า อย่าลืมตั้งชื่อเล่น เป็น อ.อ่าง นะหนู (จะได้คล้ายกับท่านนายกฯ ) ทางท่านนายกฯ บอก ลูกเขา เป็นผู้ชาย



คุณภูมิธรรม บอกว่า ชื่อเอก ก็ได้ หรือ ชื่อ อ้วน ก็ได้ (ชื่อเล่นคุณภูมิธรรม) ทางท่านนายกฯ สะบัดมือ บอกไม่ต้องไปตั้งชื่อ ให้เขา ให้ เขาตั้งเขาเอง เรียกเสียงเฮฮา ระหว่างพบปะชาวบ้าน



จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจเยี่ยมโรงครัวพระราชทานและโรงครัวจิตอาสาตำรวจจังหวัดเชียงราย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยนายกฯได้มองเตาแก๊ส ก่อนจะพูดแซวว่า "ขอเช็คไฟก่อนว่ามีไฟหรือไม่" (เคยมีดราม่า เรื่อง นายกฯ มีภาพ ช่วยทำอาหาร แต่เตาแก๊สไฟไม่ติด)



ขณะที่แม่ครัวได้ทำเมนูกะหล่ำปลีผัดไข่ โดยนายกฯบอกว่า เป็นเมนูโปรด และอย่างนี้เด็กๆก็ทานได้ ทั้งนี้แม่ครัวได้ขอให้นายกฯทำไข่เจียว แต่นายกฯปฏิเสธ และระบุเพียงว่า"แค่มาดู" แต่อย่างไรก็ตามที่โรงครัวพระราชทานนายกฯได้ทดลองผัดเมนูไก่กระเทียม พร้อมระบุว่าตะหลิวอันนี้หนักมาก



จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพจากสำนักนายกรัฐมนตรีและยาจากกระทรวงสาธารณสุข โดยกล่าวกับประชาชน วันนี้ที่มาอยากให้กำลังใจทุกคน และอยากเน้นย้ำในเรื่องเหตุการณ์หลังจากนี้ เพราะเหตุการณ์ทุกวันนี้เรามีอาหารมีหน่วยความมั่นคง มีจิตอาสาที่ช่วยพวกเรา พี่น้องเราที่ยังติดอยู่ คอยส่งอาหารและรับข้อมูลจากเขามา ซึ่งวันนี้กระแสน้ำเริ่มเบาลงแล้ว พรุ่งนี้ก็จะเบาลงอีก ฉะนั้นคนที่ติดอยู่มีโอกาสที่จะช่วยออกมาได้เยอะขึ้น



ทุกคนเก่งมากที่วันนี้ยังยิ้มอยู่ รู้เลยว่าเหตุการณ์นี้หนัก บางคนพูดเละบอกว่าไม่เหลืออะไรแล้วเสียหายหมดเลย นายกฯอยากจะบอกว่ายังเหลือชีวิต เหลือกำลังใจนะ เหลือความหวัง สิ่งที่เหลืออยู่วันนี้ให้ภูมิใจในตัวเองว่าเก่งที่เจอเรื่องขนาดนี้แล้วยังอยู่ตรงนี้ ยิ้มกันได้รับกันได้ เก่งมากๆ



แล้วบอกด้วยว่า ขอเป็นตัวแทน ครม. ส่งกำลังใจ เพราะ ที่ กทม. ตอนนี้ มีการประชุมสภากันอยู่ ทุกคนก็ส่งกำลังใจมา ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน ทุกคนส่งกำลังใจมา



จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้มอบถุงยังชีพ และ ระหว่างมอบถุงยังชีพนายกฯได้พูดคุยกับคุณตาวัย 84 ปี ซึ่งคุณตาได้อวยพรให้นายกฯแข็งแรงและอยู่เป็นนายกฯนานๆ



ก่อนกลับ กทม. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะยังได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัยและมอบถุงยังชีพ มหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย อำเภอเมืองเชียงราย ซึ่งจัดเป็นศูนย์พักพิงสำหรับผู้ประสบภัย



มีนาย สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) รายงาน ว่า แนวโน้มปริมาณน้ำขนาดนี้ที่จ.เชียงราย ผ่านจุดวิกฤตไปแล้วและจะลดลงเรื่อยๆ คาด 1-2 วันนี้สถานการณ์จะดีขึ้น หากไม่มีปริมาณฝนตกเพิ่มเติม เมื่อระดับน้ำเข้าสู่ระดับตลิ่งแล้ว แต่ขณะนี้สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงคือแม่น้ำโขง ที่จะไหลจากจ.เชียงราย ไปสู่จ.เลย และจ.หนองคาย ซึ่งระดับน้ำ ยังคงสูงขึ้นและอาจจะต้องมีการเสริมแนวป้องกันตลิ่ง ซึ่ง สทนช.ได้มีการประชุมร่วมกับจังหวัดในการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้าแล้ว โดยเฉพาะพื้นที่โรงพยาบาลและพื้นที่เปราะบางจะสั่งอพยพประชาชนทันที



ต่อมานายกฯ ได้เดินเข้าไปยังหอประชุมใหญ่ของศูนย์พักพิงชั่วคราวช่วยเหลือผู้ประสบภัย เยียมเยียนให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย และผู้ป่วยติดเตียง พร้อมทั้ง พูดคุยให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งในช่วงจังหวะนี้ชาวบ้านบางคนร่ำไห้บอกว่า ไม่เหลืออะไรเลย โดยนายกฯให้กำลังใจ พร้อมกล่าวว่า ขอให้อดทนอีกนิดรัฐบาลและทุกหน่วยงานเข้ามาดำเนินการแล้วขอให้อดทนกันนิด พร้อมชื่นชมว่า ทุกคนเก่งมากสู้มาได้จนถึงวันนี้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/W1Htdb_detc