ผอ.โรงเรียนเข้าแจ้งความ ผู้ปกครองหัวร้อน จอดแช่รับลูกกลางถนน ด่ากราด รปภ.-ภารโรง ซ้ำไม่มาขอโทษ

พ่อขับเก๋งมารอรับลูกกลางถนนหน้าโรงเรียน ถูกครูขอความร่วมมือไม่ให้จอดขวาง เพราะรถติด คิดว่าครูชี้หน้าด่า หัวร้อน ขับรถวนไปจอดฝั่งตรงข้าม ก่อนเดินข้ามารับลูกข้ามถนน แล้วด่ากราดทั้ง รปภ. นักการภารโรง จนมีปากเสียงถึงขั้นผลักกัน ด้าน ผอ.โรงเรียน เช็ควงจรปิดเห็นเหตุการณ์ชัด เตรียมเชิญผู้ปกครองมาพูดคุย



กล้องวงจรปิดหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น เผยให้เห็นเหตุการณ์ช่วงเวลา 16.12 น. ของเมื่อวานนี้ ขณะผู้ปกครองคนหนึ่ง ขับรถเก๋งสีบรอนซ์ทองมาจอดซ้อนคันที่หน้าโรงเรียน ก่อนจอดแช่สักพัก แล้วลงจากรถมาหาลูกในโรงเรียน 1 รอบ แต่ยังไม่เจอ จึงได้กลับขึ้นมานั่งในรถในเวลา 16.18 น.



จากนั้นได้ขยับไปจอดที่กลางถนน หน้าประตูทางเข้าโรงเรียน แล้วลงจากรถมาอีกครั้งในเวลา 16.21 น. จึงได้เจอกับครูเวร และครูฝ่ายการเงิน ได้ขอความร่วมมือให้ขยับรถ พร้อมกับชี้ไปที่รถ และโบกมือในลักษณะว่าจอดไม่ได้ ทำให้ผู้ปกครองย้อนกลับไปขึ้นรถอีกครั้ง พร้อมพูดกับครูว่า จอดแค่แป๊บเดียว แล้วขับรถวนไปจอดฝั่งตรงข้าม



สักพักผู้ปกครองรายนี้ข้ามถนนมารับลูกในโรงเรียน จูงแขนลูกข้ามทางม้าลายไปฝั่งตรงข้ามในเวลา 16.25 น. ก่อนจะเกิดเหตุการกระทบกระทั่งกับนักการ ผู้ปกครองได้เดินย้อนกลับมา พร้อมทิ้งกระเป๋าของลูกลงพื้น ซึ่งลูกสาวได้ก้มเก็บของ แลัวเดินตามพ่อไป ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะมีอารมณ์ผลักกันไปมาจน รปภ.และครู ต้องวิ่งเข้าไปช่วยแยกทั้งคู่ออกจากกัน ผู้ปกครองจึงเดินกลับไปขึ้นรถ แล้วขับกลับไป



วันนี้ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พบว่าบริเวณหน้าโรงเรียน มีป้ายห้ามจอดตลอดแนว และมีจุดรับส่งเฉพาะมอเตอร์ไซค์ รวมทั้งป้ายขอพื้นที่คืนจากพ่อค้าแม่ค้า ให้เด็กนักเรียนได้ยืนรอขึ้นรถผู้ปกครองกลับบ้าน



จากนั้นได้เข้าพูดคุยกับ นายพัฒนา ยอดสะอึ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาลสวนสนุก เผยว่า ตอนเกิดเหตุ รปภ.ของโรงเรียนมารายงานว่า มีผู้ปกครองมาด่าทั้ง รปภ. และนักการ แล้วจะทำร้ายนักการด้วย แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรง เพราะมี รปภ.และบุคลากรของโรงเรียนเข้ามาห้ามแล้วแยกทัน ตนจึงไปสอบถามครูที่เห็นเหตุการณ์ และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียน



พบว่า ผู้ปกครองของนักเรียนชั้น ป.1 ได้ลงจากรถที่จอดอยู่กลางถนน ครูฝ่ายการเงินจึงขอความร่วมมือให้เลื่อนรถออก เพราะกีดขวางการจราจรอยู่ในเลนซ้อนคัน ทำให้รถของผู้ปกครองคนอื่น ที่มารับลูกเช่นกันติดขัด ไม่สามารถขับต่อไปได้ ซึ่งไม่ทราบว่าผู้ปกครองรายนี้จะรู้สึกอย่างไร แต่ได้พูดว่าจอดแปปเดียวเอง แล้วขึ้นรถขับออกไป จอดที่ฝั่งตรงข้าม ก่อนเดินข้ามถนนมารับลูกที่อยู่ในโรงเรียน พาเดินข้ามทางม้าลายไป แล้วจึงเกิดเหตุขึ้น



ต่อมาครูได้สอบถามไปยังแม่ของเด็ก ป.1 แม่บอกว่า สามีโมโหที่ครูเวรชี้หน้าไม่ให้จอด ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งข้อมูลจากครู และภาพกล้องวงจรปิดยืนยันได้ว่า ไม่มีการชี้หน้า แต่เป็นการขอความร่วมมือไม่ให้จอดรถ และ รปภ.กับนักการ ก็ปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แต่ถูกด่าก่อน นักการจึงตอบโต้ โดยสอบถามกลับไปจนมีปากเสียงกัน เรื่องที่เกิดขึ้นอาจเกิดจากความโมโห ที่ผู้ปกครองมารับลูกแล้วหาลูกไม่เจอ เพราะปกติแม่จะเป็นคนมารับ



ส่วนโพสต์เรื่องราวนี้ลงในเพจโรงเรียน เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับ รปภ.และนักการ ที่เผชิญเหตุการณ์ดังกล่าว และอยากให้ผู้ปกครองทราบว่า สิ่งที่ผู้ปกครองทำ เรามีข้อมูลและภาพจากกล้องวงจรปิด อยากให้มาพูดคุยทำความเข้าใจกัน ว่า เพื่อไม่ให้ทำซ้ำเดิม เพราะโรงเรียนได้จัดการจราจรใหม่ ในการรับส่งนักเรียน ไม่ให้จอดแช่ เพราะที่ผ่านมาจอดแช่และจอดซ้อนคันถึง 3 เลน ทำให้รถติด จนถูกร้องเรียนมาตลอด



หลังเกิดเรื่องได้รับแจ้งจากผู้ปกครองคนดังกล่าว ว่า จะเข้ามาขอโทษ แต่เช้านี้ก็ไม่มา และไม่พาลูกมาเรียนหนังสือด้วย โดยบอกว่า เวลามีค่า หลังจากนี้โรงเรียนทำหนังสือเชิญผู้ปกครอง มาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน และขอความร่วมมือผู้ปกครองทำตามกฎ เพื่อความสงบเรียบร้อยในสังคม อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนได้ลงบันทึกประจำวันในเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว



ด้านนายชัชวาลย์ อายุ 46 ปี นักการภารโรงที่มีปากเสียงกับผู้ปกครองราย เล่าว่า ตอนเกิดเหตุเหมือนคู่กรณีมีอารมณ์ร้อนมาก่อนแล้ว พอเดินมาเฉียดใกล้ๆ ก็สบถคำหยาบด่าขึ้นมาเสียงดังมาก ตนเองก็ งง จึงเข้าใจว่าด่าตนเองหรือไม่ เพราะแถวนั้นไม่มีใคร จึงถามไปว่าด่าใคร เขาบอกว่าด่าลูก ตนเองก็ด่ากลับคืนไป เขาจึงเดินกลับมาผลัก แล้วโต้เถียงกัน ก่อนที่จะมีคนมาช่วยแยก ซึ่งก่อนที่เขาจะมาด่าตน ได้ด่า รปภ.ที่อยู่ตรงกลางถนนมาก่อนแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/SFUo1YZj3a4