อีกแล้ว! ลุงตระเวนหลอกกินฟรี ล่าสุดเจอรวด 2 ร้าน เช็กบิลปุ๊บแกล้งชัก ยายเอือม ต้องตามจ่ายเงิน

คุณผู้ชมจำลุงมานพ ชายสูงวัยที่ชอบไปตระเวนกินข้าว ดื่มเหล้าตามร้านอาหาร พอถึงเวลาเช็คบิลแล้วแกล้งชักได้ไหม ล่าสุดเอาอีกแล้ว เมื่อวานนี้ก่อเหตุ 2 ร้านซ้อน จนยายเอือม ไปดูคลิปขณะลุงมานพแกล้งชัก



เจ้าหน้าที่กู้ชีพที่เข้ามาช่วยปฐมพยาบาลลุงมานพที่ทำท่าคล้ายช็อก หมดสติอยู่ในแท็กซี่ แต่พอช่วยไปสักพัก มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งทักขึ้นมาว่า "ลุงมานพหรือเปล่า" แล้วถามย้อนไปว่า "ลุงชื่ออะไร จ่ายค่าอาหารหรือยัง?" ทำเอาเจ้าหน้าที่กู้ชีพถึงบางอ้อ เดินมาดูแล้วเรียกชื่อลุงมานพ บอกให้ลุกขึ้น เรียกตำรวจมาด้วย แล้วขอเบอร์เมียลุงมานพหน่อย สักพักลุงมานพฟื้นเลย หายช็อก ยอมให้เจ้าหน้าที่พาตัวขึ้นรถพยาบาลไปส่งบ้าน



ทีมข่าวโทรศัพท์คุยกับทิพย์ เด็กเสิร์ฟของร้านอาหารที่อยู่ในเหตุการณ์ เพราะนั่งแท็กซี่จะไปเก็บค่าอาหารที่บ้านลุงมานพ เล่าว่า ลุงมานพมานั่งดื่มที่ร้านซึ่งอยู่บริเวณปากทางเข้าถนนวชิรธรรมสาธิต สั่งเบียร์ 3 แก้ว และเฟรนฟราย 1 กระป๋อง รวมราคาแล้ว 690 บาท ระหว่างที่นั่งในร้านบอกเดี๋ยวเพื่อนอีก 3 คนจะตามมา แถมชวนเด็กเสิร์ฟในร้านมาคุยเป็นเพื่อน คุยสัพเพเหระไปเรื่อย สังเกตว่า พอดื่มไป 3 แก้ว ก็เริ่มมีอาการเมา เขาถามลุงมานพว่ากลับบ้านไหวไหม ลุงมานพบอกว่ากลับไหว แล้วก็ให้เบอร์ยายมา บอกว่าไม่มีเงินสดจ่ายค่าอาหารให้โทรไปเอาเงินกับยาย



พอโทรไปยายของลุงมานพ บอกว่า อีกแล้วเหรอ ทางร้านไปขายให้ทำไม เพราะลุงแกโด่งดังมาก มีเรื่องกินแล้วชักดาบ เลยบอกไปว่าทางร้านไม่รู้เรื่อง ยายบอกงั้นนั่งรถมาเอาเงินที่บ้าน เพราะโอนเงินไม่เป็นพอขึ้นแท็กซี่ลุงมานพก็ออกอาการเลย เหนื่อย หอบ หายใจไม่ทัน ตาเริ่มเหลือก และบอกว่าเป็นโรคหอบหืด แต่ไม่ได้เอายามา จึงให้คนขับแท็กซี่จอดรถแล้วเรียก 1669 ให้มาช่วย ก่อนจะเจอเจ้าหน้าที่กู้ชีพบอกว่า ลุงมานพอีกแล้ว ก่อวีรกรรมชักเพื่อเลี่ยงการจ่ายเงินหลายครั้งแล้ว เมื่อกู้ภัยได้เข้าไปสะกิดเรียกลุงว่าตำรวจมา ปรากฏลุงก็ฟื้นขึ้นมาทันที แล้วขึ้นรถกู้ชีพมาที่บ้าน ส่วนเขานั่งแท็กซี่มารับเงินกับยายของลุงมานพ โดยคิดค่าอาหารแค่ 600 บาท แต่ยายให้ค่าแท็กซี่มาอีก 100 บาท



ทีมข่าวไปพบกับยายของลุงมานพที่บ้านบอกว่า ตอนนี้ลุงมานพนอนอยู่ พร้อมยอมรับว่า ลุงมานพมีพฤติกรรมแบบนี้บ่อยครั้งจนเอือมระอา ซึ่งตั้งแต่เป็นข่าวเมื่อเดือนมิถุนายนก็ไม่ได้ออกไปก่อเหตุอีก จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (31ก.ค.67) ที่ออกไปทำพฤติกรรมแบบเดิมอีกแถมไม่ได้ก่อเหตุแค่ร้านเดียว แต่ไปทำแบบนี้ถึง 2 ร้าน ร้านแรกคือที่ซอยวชิรธรรมสาธิต ที่แกล้งชักในรถแท็กซี่ จ่าย 700 บาท โดยลุงออกจากบ้านไปตั้งแต่ตอนเย็น พอถามว่าจะไปไหนก็ไม่บอก ห้ามก็ไม่ฟัง พอแกล้งชักจนกู้ภัยมาส่งบ้าน นึกว่าจะนอนไม่ออกนอกบ้านแล้ว แต่ที่ไหนได้ ค่ำๆ ออกอีกแล้ว โดยอาศัยช่วงที่ยายเข้านอนย่องออกไป



กระทั่งตอนดึกมีร้านอาหารแถวอ่อนนุชโทรมา บอกว่า ลุงมานพไปกินข้าว และไม่มีตังค์จ่าย ทางร้านจะมาส่งลุงที่บ้านและมารับเงินค่าอาหารเป็นเงิน 1000 บาท ทำให้เมื่อวานนี้วันเดียวเสียเงินไป 1,700 บาท



นักข่าวถามว่า กังวลไหมหากลุงแอบออกจากบ้านไปแล้วไปก่อเหตุชักดาบ จนอาจจะมีปัญหาและถูกทำร้ายร่างกาย ยาย บอกว่า ไม่มีทางเพราะตัวคุณลุงเองเป็นคนมือไม้อ่อน ไม่สู้คน เวลาจะมีเรื่องก็ยกมือไหว้และแสดงอาการชักเกร็ง แต่ครอบครัวรู้สึกอับอายที่จะต้องมาคอยออกข่าวเกี่ยวกับวีรกรรมของลุงมานพ นอกจากนี้ ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาให้การช่วยเหลือเลย เชื่อว่าคงไม่มีใครมาให้การช่วยเหลืออีกแล้ว คงต้องอยู่แบบนี้ต่อไป จนกว่าจะตายจากกันไปเอง



ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถามดร.นพ.วรตม์ โชติพิทยสุนนท์ รองโฆษกกระทรวงสาธารณสุข เกี่ยวกับอาการของลุงมานพ ระบุว่า กรณีนี้ ยังไม่สามารถตอบได้ทันทีว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้น เป็นอาการป่วยทางจิตหรือไม่ ซึ่งต้องเข้ารับการตรวจก่อน แต่เบื้องต้นต้องตรวจอาการทางกายก่อนว่า อาการเกร็ง ลมชัก ที่แสดงออกมานั้น เป็นความผิดปกติทางกายจริงๆ หรือไม่ มีอาการเกิดขึ้นตอนช่วงเวลาอื่นหรือไม่ เช่น ตอนกลางคืน ตอนอยู่ที่บ้าน ไม่ใช่แค่ตอนไปทานอาหาร ซึ่งหากไม่ใช่โรคทางกายที่แท้จริง ก็จะต้องไปตรวจอาการทางด้านจิตใจต่อ ถือว่ามีความเป็นไปได้ เพราะคนทั่วไปไม่ได้เลือกใช้วิธีนี้



จิตแพทย์จะทำการประเมิน ตรวจหาสาเหตุว่า ทำไมถึงเลือกใช้วิธีนี้ มีแรงจูงใจอะไรให้ตัดสินใจเลือกทำแบบนี้ในสถานการณ์นั้นๆ ซึ่งก็เป็นได้หลายรูปแบบ บางคนจะแสดงอาการเพื่อให้ได้รับความสนใจ บางคนจะแสดงอาการเพราะรู้ว่าทำแล้วได้รับผลประโยชน์บางอย่าง

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/CCHm-7BFSTc