สังคม

'บิ๊กโจ๊ก' หอบหลักฐานแจง ก.พ.ค.ตร.ปมอุทธรณ์คำสั่งให้ออก รับเปลี่ยนชื่อ เพิ่ม 'ช' เพื่อสิริมงคล

โดย panisa_p

30 ก.ค. 2567

52 views

วันนี้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. นัด "บิ๊กโจ๊ก-บิ๊กต่าย" เข้าให้ข้อมูล กรณีที่บิ๊กโจ๊กร้องเรียนว่า หนังสือคำสั่งให้ออกจากราชการชั่วคราวเป็นไปโดยไม่ชอบ ด้านบิ๊กโจ๊กบอก มั่นใจในพยานหลักฐาน ไม่มีอะไรต้องกังวล



13.19 น. พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาด้วยรถตู้ โดยใส่สูทสีน้ำเงิน เนคไทด์สีเหลือง เสื้อเชิ๊ตสีขาว ลงจากรถด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม พร้อมเอกสารปึกใหญ่ เพื่อเข้าพบคณะกรรมการ ก.พ.ค.ตร.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อชี้แจงด้วยวาจา กรณีที่ยื่นอุทธรณ์คำสั่งให้ออกจากราชการชั่วคราว ซึ่งคำสั่งดังกล่าวลงนามโดย พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ขณะที่ดำรงแหน่งรักษาราชการแทน ผบ.ตร.



เมื่อนักข่าวถามว่ามั่นใจไหม บิ๊กโจ๊ก บอกว่า ตอบไปตามอำนาจหน้าที่ นักข่าวถามต่อว่า หนักใจอะไรไหม เจ้าตัวบอกว่า ไม่ ไม่ ไม่ ก่อนจะขอทางและบอกว่าเดี๋ยวจะลงมาให้สัมภาษณ์ ส่วนหลักฐานที่เตรียมมาแสดงต่อคณะกรรมการฯ ส่วนตัวค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถทำให้คณะกรรมการฯ เข้าใจในส่วนของคำร้องอุทธรณ์ที่ยื่นไว้ได้ และไม่ได้หนักใจหรือกังวล ต่อการให้ถ้อยคำทางวาจาต่อหน้าคู่กรณีด้วย



หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า "บิ๊กโจ๊ก" เปลี่ยนชื่อ โดยการใส่ "ช" อีก 1 ตัวเพิ่มเข้าไปในชื่อ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่า ที่เปลี่ยนชื่อ ด้วยการเพิ่ม ช.ช้างทำเพื่อความเป็นสิริมงคลของตัวเอง ส่วนที่ถูกมองว่าเป็นแมว 9 ชีวิตและจะมีชีวิตที่10 หรือ 11 หรือไม่ จะให้สัมภาษณ์หลังพบคณะกรรมการฯ



สำหรับขั้นตอนในการให้ถ้อยคำของ ก.พ.ค.ตร. พลตำรวจโท อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงาน คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ ก.พ.ค.ตร. ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ทางคณะกรรมการฯ ได้แจ้งให้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย มาชี้แจงเพิ่มเติมด้วยวาจากับกรรมการเจ้าของสำนวนแล้ว ซึ่งเห็นว่าพยานหลักฐานเพียงพอต่อการวินิจฉัย จึงนัดพิจารณาเปิดโอกาสให้ 2 ฝ่าย แถลงด้วยวาจา และยื่นเอกสารประกอบคำแถลง



โดยรูปแบบคือ ทั้ง 2 ฝ่ายต้องเข้าห้องวินิจฉัยเพื่อชี้แจงต่อหน้ากรรมการทั้ง 6 ท่าน พร้อมกันแต่ทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีสิทธิโต้แย้งกันเอง ซึ่งคณะกรรมการจะรับฟังเหตุผลทีละท่าย และให้อีกฝ่ายฟังไปด้วยในเวลาเดียวกัน เมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนส่วนนี้ คณะกรรมการฯ จะสรุปผลวินิจฉัยในรอบการประชุมซึ่งจะมีทุกวันอังคาร และพฤหัสบดีของทุกสัปดาห์ เมื่อได้ข้อสิ้นสุดจะส่งผลทั้ง 2 ฝ่ายให้รับทราบก่อนที่จะมีการแถลงให้สาธารณะชน ส่วนจะส่งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าทางสำนักนายกรัฐมนตรีได้เรียกขอเอกสารส่วนนี้หรือไม่ ซึ่งคาดว่าจะได้ผลภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ก่อนถึงกำหนดแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่แน่นอน



หากผลการวินิจฉัยของคณะกรรมการฯ ออกมาเป็นลบ คือ คำสั่งให้ออกจากราชการชั่วคราวชอบด้วยกฎหมาย "บิ๊กโจ๊ก" สามารยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุดภายใน 90 วันหลังทราบผล เพื่อขอให้คุ้มครองสถานะการเป็นตำรวจชั่วคราว แต่ในทางกลับกันหากผลเป็นบวก "บิ๊กโจ๊ก" จะกลับมารับตำแหน่งทันที และยังเป็นแคนดิเดตในการคัดเลือก ผบ.ตร. ด้วย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/EQWUTOyfNbM

คุณอาจสนใจ