สังคม

สั่งมท.ศึกษาแก้ กม.ต่างชาติถือกรรมสิทธิ์คอนโด หวังเพิ่มให้ซื้อได้ 75% กระตุ้นตลาดอสังหาฯ

โดย panwilai_c

21 มิ.ย. 2567

56 views

ครม. สั่ง มหาดไทย ทบทวนหลักเกณฑ์-กฎหมาย เปิดทางชาวต่างชาติ ถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้ไม่เกิน 75% จากเดิม 49% พร้อมทบทวนระยะเวลา เป็นไม่เกิน 99 ปี



อนุทิน เผย นายกฯสั่งเร่งแก้กฎหมายให้ต่างด้าวเช่าที่ดินเพิ่มเป็น 99 ปี-ซื้อคอนโดเพิ่มเป็น 75% ยัน ไม่เอื้อกลุ่มทุนบริษัทเชื่อมโยงรัฐบาล ขอมองบวกประชาชนได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจ กรอบเวลาภูมิใจไทยสั่งวันนี้เสร็จเมื่อวาน (20 มิ.ย. 67)



นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีการแก้กฎหมายการถือครองอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารชุดของต่างด้าวจากเดิม 49 % เป็น 75% และการเช่าที่ดินขยายจาก 50 ปีเป็น 99 ปี นายอนุทิน กล่าวว่า มี 2 เรื่องที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการมาโดยเรื่องแรกเป็นการถือครองที่ดินของทรัพย์อิงสิทธิ์ และเรื่องที่สองคืออัตราส่วนการถือครองคอนโดโดยต่างด้าว หรือเรียกว่าพ.ร.บ.อาคารชุดฉบับแก้ไข ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบข้อสั่งการ และสั่งการไปยังกระทรวงมหาดไทย ซึ่งวันนี้เรื่องน่าจะถึงสำนักงานกระทรวงมหาดไทยแล้ว ยกร่างของกรมที่ดินซึ่งเป็นเรื่องที่สืบต่อเนื่องกันมาไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร



ส่วนสาระสำคัญของการถือทรัพย์อิงสิทธิ์ เพิ่มจาก 50 ปีเป็น 99 ปี จริงๆแล้วเหมือนเดิมเนื่องจากพ.ร.บ.เดิมเช่าได้ 50 ปีและขยายอีกได้ 50 ปี เมื่อเราเป็น 50 ปีแล้วก็ขยายเป็น 99 ปีเลยเพราะเมื่อ 50 ปีแล้วต่ออีก 50 ปีก็เป็น 100 ปีพอดี เพราะฉะนั้นต้องทำให้เป็นความยั่งยืน เพื่อจะสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในเรื่องความคุ้มค่าการลงทุน



ขณะที่การถือครองอาคารชุดเพิ่มจาก 49% เป็น 75% แต่การถือครองที่เกินกว่า 49% ขึ้นไปไม่สามารถโหวตตั้งกฎระเบียบได้ แต่การโหวตสิทธิ์อะไรยังเป็นของคนไทยอยู่ ชาวต่างชาติจะถือครองได้แต่ไม่สามารถโหวตออกเสียงได้ แต่สิ่งที่จะได้คือขายอาคารชุดได้มากขึ้นจะได้ไม่มีแต่ซัพพลายมีดีมานด์ด้วย



เมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ว่าจะถูกโยงเป็นประเด็นทางการเมืองเพื่อเอื้อให้กับบริษัทขายอสังหาริมทรัพย์บางรายที่เชื่อมโยงกับรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า ก็พูดกันไป ถ้าพูดอย่างนี้ก็โยงได้ทุกเรื่องแต่เรื่องนี้เป็นการโยงให้ประชาชนมีโอกาสมากขึ้น มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องสิทธิและการถือครองประโยชน์ของคนไทยไม่มีตรงไหนเสียไปมีแต่เรียกเงินเข้ามา โดยหากไปศึกษากฎหมายนี้แบบละเอียดเรามีแต่ได้ไม่มีอะไรที่เสีย พร้อมระบุว่า ร่างกฎหมายนี้ถูกยกมาตั้งนานแล้ว “เพราะของผมสั่งวันนี้เสร็จเมื่อวาน”



เมื่อถามย้ำว่ากระทรวงมหาดไทยทำเสร็จตั้งแต่นายกรัฐมนตรีสั่งการใช่หรือไม่ นายอนุทิน พยักหน้ารับ เมื่อถามต่อว่า อสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มทุน นายอนุทิน ระบุว่า อย่าไปมองแบบนั้น ขอให้มองว่าเป็นคนไทย ทีเวลาสมัยก่อนมีปัญหาทางเศรษฐกิจก็แก้ไขให้เขา ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำในสมัยวิกฤตต้มยำกุ้งก็มีในเรื่องการปรับอัตราส่วนและเรื่องภาษีต่างๆเราก็ช่วยกันตามสถานะ ตอนนี้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยไม่ได้มีบริษัทเดียวมีเป็นร้อย ระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ทั้งนั้น ยิ่งเข้ามายิ่งมีข่าวดีมีโครงการเพิ่มมากขึ้น ขยายความเจริญออกไปที่ดินก็จะมีราคาสูงขึ้นคนไทยก็ได้ประโยชน์ เจ้าของที่ดินก็จะได้ประโยชน์ มูลค่าตามราคาตลาดจะสูงขึ้น ซึ่งคือการเพิ่มความมั่งคั่งของประเทศไทยคิดไปก็มีแต่บวก หากถามว่ามีลบบ้างไหมหาดีๆมันก็เจอ แต่จุดที่มันเป็นลบเมื่อเทียบกับสิ่งที่เป็นบวก ต่างกันเยอะเราก็ไประวังจุดที่เป็นลบ



ส่วนจะนำเข้าที่ประชุมครม.พิจารณาได้เมื่อใด นายอนุทิน กล่าวว่า ตนต้องลงนามเห็นชอบหลักการก่อน ต้องผ่านความเห็นส่วนราชการอื่นๆ รวมไปถึงความเห็นของประชาชน ซึ่งจะมีขั้นตอนไม่ใช่ว่าอยากจะทำเองแล้วทำได้ พูดได้อย่างเดียวว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ใครอย่างแน่นอน อันนี้ยืนยันได้เลยเอื้อประโยชน์ให้กับประชาชนให้กับประเทศไทย



ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะที่ตนเป็นประธานประชุมครม.เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมากล่าวว่า การกำหนดเกณฑ์สัดส่วนการถือครองอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ ตอนนี้ยังไม่มีเกณฑ์แต่มีข้อเสนอมาที่ต้องไปรับฟัง ส่วนไหนทำได้ก็ทำไป แต่ 2 ข้อนี้ ยังต้องศึกษาความเป็นไปได้ ไม่ได้มีการอนุมัติแต่อย่างใด



ยืนยันว่า การประชุมครม.ในวันนั้นแค่มาตามเรื่องผลการศึกษามีความคืบหน้าอย่างไร จึงขอให้ช่วยดูรายละเอียดและสรุปเข้ามารายงานในที่ประชุมครม.อีกครั้ง และไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาว่า จะต้องได้ข้อสรุปเมื่อไร แต่ก็ให้ทำโดยเร็ว เพราะก่อนหน้านี้ใช้เวลาไปนานแล้ว แต่หากผลสรุประบุว่า ได้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่หากไม่ได้ข้อสรุปก็ยังไม่ได้มีการตัดสินใจ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยรับหน้าที่ไปศึกษา โดยจะต้องไปดูว่า สิ่งไหนเป็นประโยชน์หรือติดปัญหา



ส่วนที่มีความกังวลว่า จะนำเรื่องนี้ไปโยงกับทางการเมือง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่กังวลเรื่องนี้ เพราะเป็นการสั่งให้ไปศึกษา เพราะเป็นข้อเสนอของประชาชนและผู้ประกอบการ ถ้ารัฐบาลเห็นด้วยก็ดำเนินการเป็นมติครม.ออกไป แต่ถ้ายังไม่แน่ใจก็ต้องไปศึกษา เพราะอาจมีปัญหาที่เกิดขึ้น จึงอยู่ในขั้นตอนศึกษา



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/YNfoTRaLo0Q

คุณอาจสนใจ

Related News