'วิษณุ' แถลงผลสอบ 'บิ๊กต่อ' กลับนั่งผบ.ตร. ส่วน 'บิ๊กโจ๊ก' รอก่อน ชี้คำสั่งออกราชการไม่ถูกต้อง

ปัญหาความขัดแย้ง 2 บิ๊กตำรวจ ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากที่นายกรัฐมนตรี ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี แล้วตั้งคณะกรรมการสอบ ตั้งแต่ 20 มี.ค. ล่าสุด ได้ข้อสรุปแล้ว ให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กลับไปปฏิบัติราชการตามเดิม



อ.วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ เป็นผู้แถลง หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงชุดที่ คุณฉัตรชัย พรหมเลิศ เป็นประธาน ได้ดำเนินการเสร็จสิ้น และรายงานผลต่อท่านนายกรัฐมนตรี



เริ่มต้นการแถลง อ.วิษณุ บอกว่า คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาหลายชุด มีการสอบพยานไป 50 กว่าคน และมีการสอบ คู่กรณี ทั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล และ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล แล้ว พบว่า



1. มีความขัดแย้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจริง ตั้งแต่ระดับสูง กลาง เล็ก ทุกระดับ ทุกฝ่าย



2. ความขัดแย้งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของคดีที่เกี่ยวพันกับ "พล.ต.อ.ต่อศักดิ์" และ "พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" เช่น คดี 140 ล้าน เป้รักผู้การเท่าไหร่ / คดีกำนันนก /คดีเว็บพนันเครือข่ายมินนี่ /คดีเครือข่ายเว็บพนันBNK และคดีย่อยๆอีกนับ10 มีทั้งเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น และบางเรื่องนานเป็น 10 กว่าปีแล้ว



3. จึงมีการส่งเรื่องที่อยู่ในอำนาจของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ไปดำเนินการต่อทั้ง ตำรวจ อัยการ และศาล



4. เรื่องที่เกี่ยวข้องกับองค์กรอิสระ โดยเฉพาะ ป.ป.ช. ก็ส่งไปให้ ป.ป.ช. รับไปดำเนิน ซึ่งขณะนี้ ป.ป.ช.ดำเนินการแล้ว ดังนั้นคดีทั้งหมดมีเจ้าของคดีรับไปดำเนินการหมดแล้ว



5. สรูปว่า กรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้รับคำสั่งให้กลับไปปฏิบัติราชการ ตั้งแต่ 18 เม.ย. แล้ว แต่ ทาง ตร. มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน  ดังนั้นก็จะเหลือ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ที่ยังไม่ได้กลับ อยู่คนเดียว



จึงเห็นควรให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กลับไปปฏิบัติราชการ ในตำแหน่ง ผบ.ตร.เหมือนเดิม อ.วิษณุ บอกด้วยว่า เพราะไม่มีอะไรสอบสวนอีกแล้ว และคณะกรรมการชุดนี้ ก็ไม่ได้ชี้ว่าใครถูกใครผิด แต่มีการบอกว่าแต่ละคน เกี่ยวพันกับเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งมีหลายเรื่องที่เราไม่เคยรู้



นักข่าวถาม อ.วิษณุ ว่า การให้ บิ๊กต่อ กลับ ไปทำหน้าที่ ผบ.ตร.ตามเดิม ถือเป็นการล้างมลทินให้หรือไม่ อ.วิษณุ บอกว่า ไม่ใช่การล้างมลทิน คดีต่างๆยังคงเดินหน้าตามปกติ ไปตามที่แต่ละหน่วยงานรับผิดชอบ ซึ่งตรงนั้นจะได้ข้อยุติว่าใครถูกใครผิด และต้องดำเนินคดีเหมือนกับบุคคลธรรมดาทั่วไป



ส่วนสถานะของ บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อ.วิษณุ อธิบายว่า สถานะของบิ้กโจ๊กเวลานี้ อยู่ระหว่างการนำความกราบบังคมทูลให้ออกจากราชการไว้ก่อน แต่ ในกระบวนการนี้มีปัญหา เพราะ ตอนที่ นายกฯมีคำสั่งให้ บิ๊กโจ๊ก กลับไป ตร. เมื่อ 18 เม.ย. ในวันเดียวกัน รักษาการ ผบ.ตร. มีคำสั่ง ตั้งคณะกรรมการสอบ อีกชุด และมีคำสั่งติดๆกัน ให้ บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งเมื่อมีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน จะต้องนำความขึ้นกราบบังคมทูล



ปัญหาคือ พ.ร.บ.ตำรวจ ปัจจุบัน การจะให้ออกจากราชการไว้ก่อน และไปกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ จะต้องทำโโยคำแนะนำของคระกรรมการสอบสวน ที่ ตร. ตั้งมา แต่อันนี้ ตั้งกรรมการสอบสวนปุ๊ป ปลดปั๊บ



คณะกรรมการกฤษฎีกา จึงมีมติต่อ10 : 0 เป็นเอกฉันท์ เห็นว่าไม่ถูกต้องและชอบธรรม จึงเห็นควรให้ ตร. กลับแก้ไขให้ถูกต้อง ดังนั้นตอนนี้ จะมีการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงคำสั่ง หรือไม่ ขึ้นอยู่กับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ตร.



ซึ่ง บิ๊กต่อ กลับไปแล้ว อำนาจส่วนนี้ ก็จะอยู่ที่บิ๊กต่อด้วย หรือบิ๊ก เมื่อทราบว่า กฤษฎีกามีความเห็นว่าคำสั่ง ดังกล่าวไม่ถูกต้อง อาจจะไปร้องต่อศาลปกครองให้เพิกถอนคำสั่ง ให้ออกจากราชการ ก็ได้



อีกคำถาม ที่ คนอยากรู้สรุปแล้ว บิ๊กโจ๊ก ยังมีโอกาสได้เป็น ผบ.ตร. หรือไม่ อ.วิษณุ บอกว่า มี เพราะสถานะของ บิ๊กโจ๊ก ยังอยู่ระหว่าง ให้ออกจากราชการไว้ก่อนแต่ขั้นตอนยังไม่สมบูรณ์ ดังนั้นใครที่เป็น รอง ผบ.ตร. อยู่ โอกาสถูกพิจารณาขึ้นเป็น ผบ.ตร.ได้ทั้งนั้น

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/pA_kIuq_yxo