กลุ่มเจ้าของรถหรู บุกทำเนียบ ร้องนายกฯช่วย ซื้อรถถูกต้อง แต่ถูกจนท.อายัด เผยโดนกันกว่า 500 คัน

กลุ่มผู้ครอบครองรถหรู ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอเรียกร้องให้ช่วยดูคดีรถหรูเนื่องจากผู้ครอบครองตกเป็นผู้เสียหาย ถูกเจ้าหน้าที่ระบุว่าไม่ได้เสียภาษี ทั้งที่ซื้อมาและจ่ายภาษีถูกต้อง



เพจสายไหมต้องรอด พากลุ่มเจ้าของรถลัมโบกินี่ รวมกว่า 10 คัน มารวมตัวกันที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อขอช่วยเหลือคดีรถหรู หลังผู้ครอบครองรถหรูโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับถูกอายัดรถ



นาย กมล ศิลาทอง หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่า ซื้อรถลัมโบกินี่มาถูกต้องตามกฏหมาย มีการโอนที่กรมการขนส่งทางบก ต่อภาษีถูกต้อง แต่วันนึงรถที่ซื้อมากกว่า 10 ปี กลับถูกอายัดและยึดของกลางในคดี และยังมีผู้ครอบครองรถหรูอีกหลายคนที่โดนแบบนี้ กว่า 500 คัน โดยมูลค่าความเสียหายประมาณคันละ 30 ล้าน โดยผู้เสียหายแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก ซื้อต่อมาจากบุคคลหรือเต้นท์รถโดยไม่รู้ประวัติของรถ และกลุ่มที่2 ซื้อมาจากรถที่ถูกปลดอายัติแล้ว ซึ่งจะรู้ประวัติของรถ



นาย กมล ได้ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมหน่วยงานรัฐ ถึงต้องการที่จะเอาผิดให้ได้ เพราะต้องการส่วนต่างจากรางวัลนำจับหรือไม่ เพราะตามข้อกฎหมาย มีเขียนไว้ว่าจะให้รางวัลนำจับจากเบี้ยปรับ 15% และหากมีการยึดและขายทอดตลาดจะได้เพิ่มอีก 35% รวมแล้วจะได้ส่วนต่างถึง 50% ซึ่งอาจะล่อตาทำให้ต้องมาบี้เอาผิดกับผู้ที่ซื้อรถมาอย่างถูกต้อง ซึ่งรถหรูเหล่านี้ที่นำเข้ามา จะต้องผ่านศุลกากร เท่าที่ตรวจสอบก็ทราบว่าจ่ายภาษีโชว์รูมมาหมดแล้ว แต่จ่ายไม่ครบ ทำให้ต้องมาตามเก็บที่คนซื้อ



พอถามกับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอก็บอกว่าเรียกให้มาเป็นพยาน เพื่อจะเอาผิดกับโชว์รูม แต่กลับยึดรถบางคันไว้ ทำให้พวกเขาไม่สบายใจ ต้องร้องขอความเป็นธรรมกับนายกรัฐมนตรี



นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี มารับมอบหนังสือ ก็บอกว่า ทราบเรื่องบ้างแล้ว แต่รถบางคันก็อยู่ในกระบวนการศาลซึ่งไปก้าวก่ายไม่ได้ หลังจากนี้สำนักปลัดสำนักนายกจะทำหนังสือส่งไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษและกรมศุลกากรให้ชี้แจงกลับมา พร้อมยอมรับว่าเขาเองก็แปลกใจ ทำไมกรมศุลกากรถึงปล่อยรถออกมา และมาการเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง เมื่อไปตรวจสอบก็พบว่าเจ้าหน้าศุลกากรก็ถูกคดีไปแล้วเช่นกัน

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/C3JJ3lb_mX0