สังคม

'บิ๊กแป๊ะ' แฉอนุ ป.ป.ช. '3 ส. 1 พ.' ร่วมมืออดีตรอง ผบ.ตร. กลั่นแกล้ง ไม่ให้รับความเป็นธรรมคดีรถไฟฟ้า

โดย panisa_p

20 พ.ค. 2567

519 views

พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. บุก ป.ป.ช. ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมเปลี่ยน อนุกรรมการ ป.ป.ช. ที่ทำคดีการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้า และเครื่องไบโอเมตริก ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หลังพบว่ามี 4 คน ที่มีความสนิทสนมกับ รอง ผบ.ตร. หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดี



วันนี้ (20 พ.ค. 67) พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมขอเปลี่ยนคณะอนุกรรมการไต่สวน และขอทราบความคืบหน้ากรณีที่ยื่นพยานเอกสารเพิ่มเติมให้คณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาเกี่ยวกับคดีโครงการจัดซื้อรถยนต์ไฟฟ้าตรวจการณ์อัจฉริยะ (SMART PATROL CAR : SPC) จำนวน 260 คัน วงเงินงบประมาณ 900 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2560- 2561 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หลังเคยยื่นรายละเอียดมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ปรากฎว่าเรื่องเงียบ ทั้งที่ในเอกสารนั้นมีพยานเอกสารหลักฐาน และพยานบุคคลสำคัญอยู่ด้วย กระทั่งโดนที่ประชุมป.ป.ช.ชุดใหญ่มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหา ตัวบิ๊กแป๊ะกับพวกอีก 46 ราย จึงต้องมายื่นทวงถามความเป็นธรรมซ้ำอีกครั้ง



พลตำรวจเอก จักรทิพย์ เปิดเผยหลังยื่นหนังสือว่า ที่มายื่นครั้งนี้เพราะคณะของพลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ณ ขณะนั้นเป็น หัวหน้าศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (PCT4) ได้ทำการตรวจค้นบ้านตำรวจนอกราชการนายหนึ่ง ซึ่งเป็นพ่อบ้านของนายตำรวจใหญ่ และพบเอกสารในคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในบ้านนั้น ระบุเกี่ยวกับคำร้องในคดีนี้ของเขาที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.



จึงได้ตรวจสอบและพบว่าผู้ร่วมขบวนการนี้มี 3 คน เป็นตำรวจนอกราชการ 1 ท่าน ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ 1 ท่าน และมีพันตำรวจโท 1 ท่าน ซึ่งทำหน้าที่เป็นพ่อบ้าน และ มีทนายความที่มีชื่อเสียง ร่วมกันทำหนังสือร้องเรียนกลั่นแกล้งให้เขาได้รับโทษ ไม่ได้ทำด้วยเจตนาโปร่งใส



เมื่อสื่อถามว่าโครงการรถไฟฟ้า เคยมีข่าวออกมาว่า ทาง สตม.ไม่ได้ต้องการ แต่ท่านเป็นคนยัดเยียด เรื่องนี้ อดีต ผบ.ตร. ยืนยันไม่ได้ยัดเยียด แค่มอบนโยบายว่าเรื่องไหนดีก็นำไปพัฒนาต่อยอด พร้อมถามกลับว่าเขาไม่มีสิทธิ์เพิ่มประสิทธิภาพในหน่วยงานเลยหรือ ทั้งที่นโยบายนี้เป็นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ระบุให้รณรงค์การใช้พลังไฟฟ้าไม่ต้องพึ่งพาพลังงานน้ำมัน แต่เอกสารสำคัญหลายอย่างไม่ถึงมืออนุกรรมการไต่สวน และดูแล้วมีบางคนที่ไม่เป็นกลาง ถ้าเป็นไปได้อยากให้ตั้งคณะกรรมการชุดใหม่มาไต่สวน ตรวจสอบ



พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ระบุด้วยว่าในขบวนการดังกล่าวประกอบด้วยตัวย่อ '3 ส. 1 พ. 'ส ตัวแรกเกษียณราชการไปแล้ว อีก 1 ส เป็นประธานอนุกรรมการเคยลงสมัคร ป.ป.ช.  ส่วน ส. ที่ 3 คือ นายตำรวจระดับสูง และ พ คือเจ้าหน้าที่ระดับสูงถึงกลาง



หลังจากนี้ในการชี้แจงกับ ป.ป.ช. จะเข้าชี้แจงด้วยตัวเองทุกครั้ง เพราะการส่งเป็นลายลักษณ์อักษร 99.99 คณะกรรมการไม่ได้อ่าน สาเหตุที่ต้องเข้ามาชี้แจงเอง เพราะอย่างน้อยจะได้ฟังจากปากของบิ๊กแป๊ะเอง ถ้าให้ปากคำครอบถ้วนหมดแล้ว ผลออกมายังไงก็ยอมรับ



หลังจากนั้นบิ๊กแป๊ะหยิบภาพของบุคคล 3 คน ขึ้นมา เป็นภาพของทนายชื่อดังคนหนึ่ง ถ่ายคู่กับนายตำรวจระดับสูง และหญิงสาวอีกคน อ่านข้อความที่ทนายคนนี้โพสต์ บอกว่า "วันนี้พี่โจ๊กชวนมาทานข้าวที่บ้านวิภาวดีรังสิต คุยเพลินลืมเวลาจะทันเคอร์ฟิวไหม" พร้อมบอกว่า ทนายคนนี้เปรียบเสมือนมือปืน คนที่อยู่ในภาพเป็นเหมือนผู้ใช้จ้างวาน พ่อบ้านคือผู้สนับสนุน และผู้ชี้เป้าอยู่ใน 3 ส. และเมื่อหลายเดือนก่อนตัวมือปืนมาขอโทษผม บอกผมไม่น่าทำพี่เลย



ช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ "บิ๊กแป๊ะ" บอกว่า ถามว่าตำรวจระดับสูงคนนี้เก่งไหม เก่ง ถึงเอามาดูแลตั้งแต่ยศ "พันตำรวจโท" ดูแลอย่างกับน้อง เงินเดือนก็หาให้ ไม่ได้ทวงบุญคุณ วันนี้ต้องขอโทษน้องที่รับราชการ ที่ทำให้เขาเติบโต หลังจากนี้คงไม่มีทางญาติดีกันแน่นอน



บิ๊กแป๊ะ บอก มีผู้ใหญ่หลายคนเตือนมาว่า เรื่องของเขาที่กำลังโดนตรวจสอบมีการตั้งธงมาอยู่แล้ว หากไม่มีการตั้งธงมา บิ๊กแป๊ะเชื่อยังไงก็สู้ได้ ได้แต่หวังว่าคณะกรรมการทั้ง 5 คน จะเอาเรื่องของเขามาทบทวนและตรวจสอบใหม่ พร้อมตั้งคณะกรรมการชุดใหม่มาดำเนินการ และถ้ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจะยื่นครั้งที่ 3



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/2GGpHFlH6rA

คุณอาจสนใจ

Related News